ในบูธ CHANGAN (ฉางอัน) ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรืองาน Motor Expo 2023 นอกเหนือจากที่ทางแบรนด์รถยักษ์ใหญ่จากเมืองจีนจะนำเจ้า AVATR 11 ซึดานไฟฟ้าสุดหรูเข้ามาโชว์ตัวแล้ว ในงานนี้ก็ยังได้นำ AVATR 12 ซีดานคูเป้ไฟฟ้าตัวใหม่ ที่ล่าสุดเพิ่งเปิดประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองจีนไปเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาแบบสด ๆ ร้อน ๆ นำเข้ามาจัดแสดงในงานนี้ด้วย
โดยทั้ง 2 รุ่นใหม่จะเป็นแบรนด์ AVATR ที่อยู่ในสังกัดชายคาของทางฉางอัน ซึ่งภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้จะเป็นเพียงการนำมาโชว์เพื่อหยั่งกระแสดูความต้องการของผู้เข้าชม โดยเจ้า AVATR 11 นั้นมีแผนที่จะเปิดวางจำหน่ายในเมืองไทยปีหน้า ส่วน AVATR 12 จะมาด้วยกันหรือไม่นั้นต้องคอยลุ้นกัน
สำหรับ AVATR 12 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบ Gran Coupe ที่เป็นผลงานการร่วมมือกันระหว่างสุดยอดแบรนด์ชื่อดังจาก 3 ค่าย อย่าง Changan Automobile ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ๋จากจีน / CATL ผู้ผลิต และให้บริการแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และทาง Huawei แบรนด์โทรศัพท์ชื่อดังจากเมืองจีน โดยล่าสุดเพิ่งเปิดราคาจำหน่ายในจีน โดยมีสนนราคาอยู่ที่ระหว่าง 300,800 – 400,800 หยวน หรือราว 1.5 – 2 ล้านบาท
โดย AVATR 12 เป็นรถรุ่นที่ 2 ที่ต่อมาจาก AVATR 11 ตัวรถจะมาในรูปแบบรถซีดานท้ายลาด Gran Coupe ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100%
ด้านงานดีไซน์ด้านหน้ารถมากับชุดไฟหน้า LED และไฟ DRLs ในดีไซน์แบบเบางเฉียบ ที่เป็นเส้นตรง และรูปตัว C ที่อยู่ถัดลงมาด้านล่าง ในส่วนกระจังหน้าแบบปิดทึบ พร้อมติดตราโลโก้ของทางแบรนด์ไว้ตรงกลาง
ดีไซน์ด้านข้างตัวรถแบบเรียบหรู แนวหลังคาลาดเอียงในสไตล์รถคูเป้ มือเปิดประตูเป็นแบบ Pop-Up ที่ราบเรียบไปกับตัวรถ ตัวรถจะไม่มีขอบหน้าต่าง พร้อมติดตั้งกล้องไว้ที่ด้านข้างตัวรถ เพื่อแสดงว่ารถรุ่นนี้มาพร้อมกล้องรอบคันแบบ 360 องศา กระจกมองข้างเป็นแบบกล้อง ที่จะสะท้อนภาพไปยังภายในห้องโดยสาร ส่วนล้ออัลลอย จะที่มีขนาด 20 – 21 นิ้วให้เลือก โดยในรุ่นจะได้รับการติดตั้งชุดเบรกจากทาง Brembo
ส่วนด้านท้ายจะมาแบบท้ายลาดเหมือนรถคูเป้ มาพร้อมสปอยเลอร์แบบอัตโนมัติที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนที่ฝากระโปรงท้าย อีกทั้งยังเพิ่มลูกเล่นด้วยการติดตั้งหน้าจอ LED ไว้ที่บนฝากระโปรงที่ เรียกว่า “Halo Display” ซึ่งจะเอาไว้สำหรับสื่อสารกับผู้คนภายนอกรถ ขณะที่ชุดไฟท้ายเป็นแบบ LED ที่ออกแบบให้เป็นเส้น โดยมีโลโก้ AVATR คั้นกลางเอาไว้ ขณะที่กันชนหลังติดตั้งแผ่นดิฟฟิวเซอร์สีดำขนาดใหญ่พร้อมครีบรีดอากาศตามสไตล์รถซีดานทรงเฉี่ยว
นอกจา่กนั้นในส่วนของด้านบนหลังคาจะเป็นกระจกอิเล็กโทรโครมิก ที่สามารถสลับเปลี่ยนให้ทึบแสง หรือโปร่งใสได้เพียงแค่กดสวิตช์
อีกทั้งยังมีจอที่อยู่ด้านล่างกระจกบังลมหน้าที่จะสามารถแสดงข้อความ กล่างคำทักทายได้ รวมทั้งติดตั้งจอใกล้ซุ้มล้อหน้าเพื่อบอกสถานะข้อมูลของตัวรถ
สำหรับมิติขนาดตัวรถจะมีความยาวอยู่ที่ 5,020 มม. ความกว้าง 1,999 มม. ความสูง 1,460 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,030 มม.
ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Vortex Emotional Eddy Current” มาพร้อมเทคโนโลยี และนวัตกรรมแบบสุดล้ำ เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะคู่หน้าดีไซน์ทรงสปอร์ต Bucket-Shape มาพร้อมที่วางพักน่อง ปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมระบบทำความร้อน และฟังก์ชั่นนวด
แผงแดชบอร์ดติดตั้งจอไวด์สกรีนแบบพาโนรามาที่มีความยาว 35.4 นิ้ว ความละเอียด 4K โดยถ้าเลือกในรุ่นที่เป็นกล้องมองภาพด้านข้างจะได้รับหน้าจอแสดงผลที่สะท้อนภาพมาจากกระจกมองข้างที่ติดตั้งไว้บริเวณมุมเสา A ที่มีขนาด 6.7 นิ้ว มาพร้อมหน้าจอส่วนกลางที่วางแบบลอยตัวมีขนาด 15.6 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติ Hamony OS 4 รุ่นล่าสุด ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ เช่น Huawei ADS 2.0
ส่วนคอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่วางคั้นกลางระหว่างเบาะคู่หน้า โดยติดตั้งแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง นอกจากนั้นระบบเครื่องเสียงยังมา่พร้อมกับลำโพง 27 ตำแหน่ง อีกทั้งยังได้รับชุดไฟ Ambient light 64 สี
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะคู่หน้าสามารถปรับเอียงได้มากถึง 114 องศา มาพร้อมระบบระบายความร้อน, ระบายอากาศ และมีฟังก์ชั่นการนวด 8 จุด
ด้านความปลอดภัยมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ไม่น้อยกว่า 29 ตัว รวมถึงเซ็นเซอร์ Lidar 3 ตัว และระบบช่วยเหลือ Huawei Advanced Driving System (ADS) 2.0
AVATR 12 ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม CHN ที่พัฒนาโดย Changan, Huawei และ CATL ระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งแบบรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลังให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที
และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ DriveONE ให้กำลังรวมอยู่ที่ 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.9 วินาที โดยทั้ง 2 รุ่น จะมากับแบตเตอรี่ขนาด 94.5 kWh โดยในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวจะวิ่งได้ระยะทาง 700 กม. ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะวิ่งได้ระยะทางไกลสุดที่ 650 กม.
สำหรับ AVATR 12 เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่อยู่ในแผนทำการตลาดของทาง CHANGAN ในประเทศไทย ส่วนการจะเข้ามาจำหน่ายในไทยนั้นยังไม่มีความแน่ชัดว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ ๆ AVATR 11 ที่เป็นรุ่นพี่คงเข้ามาก่อนในช่วงปี 2567 แต่ก็ไม่แน่ที่ทาง CHANGAN อาจสร้างเซอร์ไพรส์ นำมาวางขายแพ็คคู่พร้อมกัน เหมือนกับตัว Deepal S07 เอสยูวีไฟฟ้า และ Deepal L07 ซีดานไฟฟ้า ก็เป็นไปได้