หลังจากที่ทาง AVATR แบรนด์รถที่สุดหรูรุ่น ที่เป็นผลงานการร่วมมือกันระหว่างสุดยอดแบรนด์ชื่อดังจาก 3 ค่าย อย่าง Changan Automobile ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ๋จากจีน / CATL ผู้ผลิต และให้บริการแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และทาง Huawei แบรนด์โทรศัพท์ชื่อดังจากเมืองจีน ได้เปิดราคาจำหน่าย AVATR 12 อย่างเป็นทางการในจีนที่อยู่ที่ระหว่าง 300,800 – 400,800 หยวน หรือราว 1.5 – 2 ล้านบาท
สำหรับ AVATR 12 (ออกเสียงว่า “หนึ่งสอง”) เป็นรถรุ่นที่ 2 ที่ต่อมาจาก AVATR 11 และเป็นรถรุ่นแรกที่ถูกส่งออกไปวางจำหน่ายในตลาดยุโรป นอกเหนือจากแผ่นดินจีน ตัวรถจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปแบบรถซีดานท้ายลาด Gran Coupe
งานดีไซน์ด้านหน้ารถมากับชุดไฟหน้า LED และไฟ DRLs ในดีไซน์แบบเบางเฉียบ ที่เป็นเส้นตรง และรูปตัว C ที่อยู่ถัดลงมาด้านล่าง ในส่วนกระจังหน้าแบบปิดทึบ พร้อมติดตราโลโก้ของทางแบรนด์ไว้ตรงกลาง
ด้านข้างตัวรถแบบเรียบหรู แนวหลังคาลาดเอียงในสไตล์รถคูเป้ มือเปิดประตูเป็นแบบ Pop-Up ที่ราบเรียบไปกับตัวรถ ตัวรถจะไม่มีขอบหน้าต่าง
พร้อมติดตั้งจอใกล้ซุ้มล้อหน้าเพื่อบอกสถานะข้อมูลของตัวรถ รวมทั้งกล้องไว้ที่ด้านข้างตัวรถ เพื่อแสดงว่ารถรุ่นนี้มาพร้อมกล้องรอบคันแบบ 360 องศา กระจกมองข้างเป็นแบบกล้อง ที่จะสะท้อนภาพไปยังภายในห้องโดยสาร ส่วนล้ออัลลอยจะที่มีขนาด 20 – 21 นิ้วให้เลือก โดยในรุ่นจะได้รับการติดตั้งชุดเบรกจากทาง Brembo
ส่วนด้านท้ายจะมาแบบท้ายลาดเหมือนรถคูเป้ มาพร้อมสปอยเลอร์ไฟฟ้าที่สามารถยกขึ้นอัตโนมัติ ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนที่ฝากระโปรงท้าย
อีกทั้งยังเพิ่มลูกเล่นด้วยการติดตั้งหน้าจอ LED ไว้ที่บนฝากระโปรงที่ เรียกว่า “Halo Display” ซึ่งจะเอาไว้สำหรับสื่อสารกับผู้คนภายนอกรถ
ขณะที่ชุดไฟท้ายเป็นแบบ LED ที่ออกแบบให้เป็นเส้น โดยมีโลโก้ AVATR คั้นกลางเอาไว้ ขณะที่กันชนหลังติดตั้งแผ่นดิฟฟิวเซอร์สีดำขนาดใหญ่พร้อมครีบรีดอากาศตามสไตล์รถซีดานทรงเฉี่ยว
สำหรับมิติขนาดตัวรถจะมีความยาวอยู่ที่ 5,020 มม., กว้าง 1,999 มม., สูง 1,460 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,030 มม.
ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Vortex Emotional Eddy Current” มาพร้อมเทคโนโลยี และนวัตกรรมแบบสุดล้ำ
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะคู่หน้าดีไซน์ทรงสปอร์ต Bucket-Shape มาพร้อมที่วางพักน่อง พร้อมกับสามารถปรับเอียงได้มากถึง 114 องศา มาพร้อมระบบระบายความร้อน, ระบายอากาศ และมีฟังก์ชั่นการนวด 8 จุด
แผงแดชบอร์ดติดตั้งจอไวด์สกรีนแบบพาโนรามาที่มีความยาว 35.4 นิ้ว ความละเอียด 4K โดยถ้าเลือกในรุ่นที่เป็นกล้องมองภาพด้านข้างจะได้รับหน้าจอแสดงผลที่สะท้อนภาพมาจากกระจกมองข้างที่ติดตั้งไว้บริเวณมุมเสา A ที่มีขนาด 6.7 นิ้ว มาพร้อมหน้าจอส่วนกลางที่วางแบบลอยตัวมีขนาด 15.6 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติ Hamony OS 4 รุ่นล่าสุด ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ เช่น Huawei ADS 2.0
คอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่วางคั้นกลางระหว่างเบาะคู่หน้า โดยติดตั้งแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายได้พร้อมกันถึง 2 เครื่อง
นอกจากนั้นระบบเครื่องเสียงยังมา่พร้อมกับลำโพง 27 ตำแหน่ง อีกทั้งยังได้รับชุดไฟ Ambient light 64 สี
หลังคาจะเป็นกระจกอิเล็กโทรโครมิกขนาดใหญ่ ที่สามารถสลับเปลี่ยนให้ทึบแสง หรือโปร่งใสได้เพียงแค่กดสวิตช์
ด้านความปลอดภัย AVATR 12 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ไม่น้อยกว่า 29 ตัว รวมถึงเซ็นเซอร์ Lidar 3 ตัว และคอมพิวเตอร์ส่วนกลางประสิทธิภาพสูงที่ประกอบขึ้นเป็นชุดช่วยเหลือ Huawei Advanced Driving System 2.0 ที่องรับฟังก์ชันการนำทางอัจฉริยะบนทางหลวงและในเมือง ซึ่งหมายความว่าตัวสรถสามารถขับได้เอง ผู้ขับขี่เพียงแค่ต้องเลือกจุดปลายทาง และคอยติดตามการขับขี่อย่างระมัดระวัง
AVATR 12 ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม CHN ที่พัฒนาโดย Changan, Huawei และ CATL ระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งแบบรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลัง ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที
และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ DriveONE ของ Huawei ให้กำลังรวมอยู่ที่ 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร ให้อตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.9 วินาที โดยทั้ง 2 รุ่น จะมากับแบตเตอรี่ขนาด 94.5 kWh โดยในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวจะวิ่งได้ระยะทาง 700 กม. ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะวิ่งได้ระยะทางไกลสุดที่ 650 กม.
ขณะที่ระบบกันสะเทือนช่วงล่างจะเป็นแบบถุงลม ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และยกขึ้นได้ 45 มม. มาพร้อมระบบลดแรงสั่นสะเทือนแบบแอคทีฟ CDC
AVATR 12 จะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อยได้แก่ Luxury RWD, Performance 4WD และ GT 4WD เคาะราคาจำหน่ายในจีนระหว่าง 300,800 – 400,800 หยวน หรือราว 1.5 – 2 ล้านบาท
โดยจะออกมาเป็นคุ่แข่งโดยตรงกับ Zeekr 001, Nio ET7, Rising F7 และรถซีดาน/แฮทช์แบ็ก EV อื่นๆ ในตลาดเมืองจีน