หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทาง BYD ได้เปิดราคาจำหน่าย Pre-sales ของ BYD Song L เอสยูวีไฟฟ้าตัวใหม่ในตระกูลซีรีส์ราชวงศ์ของทางบีวายดี โดยในครั้งนั้นได้มีสั่งจองไปแล้วกว่า 28,350 คัน
ล่าสุดทางแบรนด์รถยนต์ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนได้เปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BYD Song L เอสยูวีไฟฟ้าที่สวยที่สุดของ BYD ออกมาแล้ว โดยจะมีให้เลือกถึง 5 รุ่นย่อย เคาะราคราจำหน่ายระหว่าง 189,800 – 249,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 9.42 แสนบาท – 1.24 ล้านบาท
สำหรับ BYD Song L รถสปอร์ตเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับเส้นสายตัวรถที่ดูสปอร์ตปราดเปรียวตั้งแต่หน้าจรดท้าย ว่ากันว่าเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่ออกแบบได้สวยที่สุดของทาง BYD
มาพร้อมภาษาการออกแบบที่เรียกว่า Dragon Face ด้านหน้ามากับกระจังหน้าแบบปิดทึบ และติดตั้งตัวอักษร (宋) ไว้ที่แถบใต้ฝากระโปรงหน้า ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าทรงเรียวยาว มาพร้อมแถบเส้นโครเมียมที่ต่อเชื่อมกับชุดไฟ DRL LED ทั้ง 2 ฝั่ง
ขณะที่ด้านล้างกันชนหน้า ออกแบบให้มีช่องรับลมรูปสี่เหลี่ยมคางหมู เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสายสีดำที่คาดยาวบริเวณตัวกันชนหน้า ในส่วนฝากระโปรนหน้าเมื่อเปิดยกขึ้นมาจะเป็นช่องไว้สำหรับเก็บกระเป๋าขนาดเล็ก
ด้านข้างออกแบบใหม่มีความลู่ลม ดูพริ้วไหว มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ กระจกบานข้างเป็นแบบไร้กรอบ พร้อมตกแต่งเสา A – B ด้วยแถบสีดำเพื่อทำให้หลังคาดูเป็นแบบแขวน มาพร้อมล้ออัลลอยจะมาแบบทูโทนขนาด 20 นิ้ว พร้อมออกแบบลวดลายให้ดูคล้ายกับรูปดาว 5 แฉก
ด้านท้ายจะมาในแบบ Fastback ท้ายลาด ติดตั้งสปอยเลอร์หลังคาแบบลอนคู่ มาพร้อมชุดไฟท้าย LED ที่ออกแบบตามสมัยนิยมพาดยาวเต็มพื้นที่
นอกจากนั้นในส่วนฝากระโปรงท้ายออกแบบให้เป็นสปอยเลอร์ ที่สามารถยกขึ้น – ลงได้ด้วยระบบไฟฟ้า ถัดลงมาด้านล่างติดตัวอักษรชื่อแบรนด์ BYD
โดย BYD Song L จะมีมิติตัวถังความยาวอยู่ที่ 4,840 มม. ความกว้าง 1,950 มม. ความสูง 1,560 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,930 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับ Tesla Model Y จะมีความยาวมากกว่า 90 มม. แต่ในด้านความสูงของตัวรุถจะเตี้ยกว่าเล็กน้อยที่ 64 มม.
นอกจากนี้ยังออกแบบให้ตัวรถมีมุมเข้าอยู่ที่ 16° และมุมออกอยู่ที่ 19° เพื่อให้รองรับการใช้งานบนเส้นทางออฟโรดแบบเล็ก ๆ
ภายในห้องโดยสารเบาะที่นั่งรองรับได้ 5 ที่นั่ง พร้อมหุ้มด้วยวัสดุหนังกลับ พร้อมปั้มตราชื่อรุ่น 宋 ไว้ที่หัวเบาะนั่งทุกตำแหน่ง
แผงแดชบอร์ดมากับหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว ตรงกลางติดตั้งหน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัส ขนาด 15.6 นิ้ว ที่หน้าจอสามารถหมุนได้ รวมทั้งยังได้รับหน้าจอ AR-HUD ขนาด 50 นิ้ว
คอนโซลกลาง มาพร้อมช่องแอร์ออกแบบให้เป็นแบบแนวตั้งวางเรียงต่อกัน 4 นอกจากนั้นยังติดตั้งแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนมาให้ 2 ช่อง
เติมความหรูด้วยหัวเกียร์ที่ทำจากคริสตัล มาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง ปิดท้ายด้วยหลังคาพาโนรามาขนาดใหญ่
นอกจากนั้น BYD Song L จะมาจากระบบปฏิบัติการ DiLink รุ่นล่าสุดของบีวายดี รวมทั้งยังได้รับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง DiPilot ซึ่งรองรับฟังก์ชันมากกว่า 30 ฟังก์ชัน
BYD Song L ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 ในด้านพละกำลังจะมีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบคู่
โดยในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวจะวางอยู่ที่เพลาคู่หลัง มีพละกำลังให้เลือก 2 ขนาดความแรงคือ 150 kW หรือ 201 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 230 kW หรือ 230 แรงม้า
ส่วนในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จะให้กำลังรวมมากถึง 308 kW หรือ 510 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 201 กม./ชม. มาพร้อมระบบ DiSus ที่เป็นระบบควบคุมการทรงตัวอัจฉริยะ
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ Blade จะมีขนาดความจุอยู่ที่ 71.808 kWh และ 87.04 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ได้ระยะทางอยู่ที่ 550 / 602 / 662 กม. โดยชุดแบตเตอรี่จะถูกวางไว้ในแชสซีแบบเซลล์ต่อตัวถัง (CTB) ที่เหมือนกับในตัว BYD SEAL
BYD Song L ที่เปิดวางจำหน่ายในเมืองจีนจะมีให้เลือก 5 รุ่นย่อย มีราคาจำหน่ายดังนี้
- รุ่น Exceed Version 550 กม. ราคา 189,800 หยวน หรือประมาณ 9.42 แสนบาท
- รุ่น Excellence Version 550 กม. ราคา 199,800 หยวน หรือประมาณ 9.92 แสนบาท
- รุ่น Exceed Version 662 กม. ราคา 209,800 หยวน หรือประมาณ 1.04 ล้านบาท
- รุ่น Excellence Version 662 กม. ราคา 229,800 หยวน หรือประมาณ 1.14 ล้านบาท
- รุ่น Excellence Version 602 กม. ราคา 249,800 หยวน หรือประมาณ 1.24 ล้านบาท