นอกจากที่ทาง Chery จะเปิดตัว Tiggo 9 และ Tiggo 9 C-DM เอสยูวีรุ่นปี 2025 แล้วทางผู้ผลิตรถรายใญ่จากจีนก็ได้เปิดตัว Chery Tiggo 8 Pro เอสยูวีน้องเล็กของทางค่าย ที่รุ่นปรับปรุงใหม่โฉมปี 2025 ลงสู่ตลาดในเมืองจีนอีกหนึ่งรุ่น
โดย Chery Tiggo 8 Pro เอสยูวีขนาดกลางโฉมปี 2025 นี้ จะได้รับการเกรดอัปเกรดใหม่ในส่วนของระบบความปลอดภัย และระบบอำนวยความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้นจากรุ่นที่ผ่านมา และยังได้ยกเลิกระบบขับเคลื่อน AWD ที่มีอยู่ในรุ่น 2.0T ออก ส่งผลทำให้ Tiggo 8 Pro รุ่นปี 2025 นี้จะเป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าทั้งหมด
ในด้านพละกำลังจะมีทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.6T และ 2.0T รวมทั้งยังมีทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง โดยจะทั้งหมด 5 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหนายไว้ระหว่าง 119,900 – 153,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.57 – 7.15 แสนบาท
สำหรับ Chery Tiggo 8 Pro รุ่นปี 2025 งานออกแบบยังคงเหมือนกับในรุ่นปี 2024 ที่มากับกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ด้านในดีไซน์เป้นแบบเมทิกซ์ ที่มีลวดลายคล้ายดุจอัญมณีสีดำเงา ล้อมกรอบตัวกระจังหน้าด้วยโครเมียมแบบรมดำ
ขนาบข้างด้วยไฟหน้าทรงเรียวยาวที่เชื่อมต่อกับคิ้วโครเมียมด้านหน้า นอกจากนั้ยังตกแต่งด้วยเส้นสายสีทองแดงที่ขอบสเกิร์ตหน้า และช่องดักอากาศเทียมที่อยู่มุมทั้ง 2ฝั่งของตัวกันชนหน้า
ขณะที่ด้านหลังยังมาพร้อมไฟท้ายแบบ LED light bar วางพาดเต็มความว้างของตัวรถ มาพร้อมสปอยเลอร์หลังคา และแล็คหลังคาสีเงิน
ตัวกันชนท้ายมาพร้อมดิฟฟิวเซอร์ในตัว เสริมความดุ ด้วยนปลายท่อไอเสียแบบคู่ ที่แยกออกซ้าย-ขวา ขณะที่ชุดล้ออัลลอยจะมีขนาด 18 นิ้ว ที่มาพร้อมยางขนาดใหม่ 235/55 R18 และล้อขนาด 19 นิ้ว ที่รัดด้วยยาง 235/50 R19
Chery Tiggo 8 Pro MY2025 จะมีเฉดสีภายนอกให้เลือก 4 สีได้แก่ สีเทา, สีขาว, สีดำ และสีเขียวหยก
สำหรับในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาวอยุ่ที่ 4,745 มม. กว้าง 1,860 มม. สูง 1,745 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2710 มม.
ภายในห้องโดยสารจะมีทั้งแบบรุ่น 5 ที่นั่ง (2+3) และแบบ 3 แถว 7ที่นั่ง (2+3+2) งานดีไซน์ เบาะนั่งทั้งหมดจะหุ้มด้วยหนังแท้เกรดพรีเมียม
แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอคู่ขนาด 24.6 นิ้ว ที่แบ่งเป็นมาตรวัดแสดงผลข้อมูล และหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้วที่เท่ากัน ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 อีกทั้งยังได้รับหน้าจอ W-HUD ที่สะท้อนข้อมูลไปยังกระจกบังลมหน้า
ด้านชุดอุปกรณ์ของ Chery Tiggo 8 Pro MY2025 รุ่นปรับปรุงใหม่ จะได้รับ หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก (พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า), แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายที่ให้กำลังการชาร์จสูงถึง 50W, ระบบเครื่องเสียง Sony ที่มาพร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง, ระบบผู้ช่วยที่ตอยโต้ด้วยเสียง, ระบบควบคุมผ่านสมาร์ตโฟนจากระยะไกล, จุดเชื่อมต่อ WiFi และปุ่ม Push Start มาพร้อม กุญแจแบบ Keyless Entry
สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายในรุ่น 7 ที่นั่งจะะมีความจุ 889 ลิตร ส่วนในรุ่น 5 ที่นั่งจะมีความจุ 193 ลิตร โดยทั้ง 2 รุ่นเมื่อพับเบาะลงจะขยายพื้นที่ได้มากถึง 1930 ลิตร
นอกจากนี้ยังได้รับการอัปเกรดใหม่ในส่วนระบความปลอดภัย โดยได้รับตรวจสอบ และเตือนความเมื่อยล้าในขณะขับขี่, ถุงลมนิรภัยด้านข้างด้านหน้า และถุงลมนิรภัยศีรษะด้านหน้า และด้านหลัง ในทุกรุ่นย่อย พร้อมติดตั้งกล้องรอบคันจากเดิมที่มี 3 ตัวเพิ่มเป็น 4 ตัว อีกทั้งยังได้รับระบบช่วยเหลือการขับขี่ Level 2.5
ขณะที่ในสิ่งอำนวยคาวมสะดวกก็ได้รับการเพิ่มเติมขึ้นจากรุ่นี่ผ่านมา โดยจะได้รับการติตดั้งกระจกบานข้างจะเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า โดยการกดเพียงครั้งเดียว อีกทั้งกระจกมองข้างยังมาพร้อมฟังก์ชันปรับความร้อน และปรับพับด้วยไฟฟ้า
รวมถึงเบาะนั่งฝั่งคนขับสามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบอุ่นเบาะ และระบบระบายลมที่ตัวเบาะคู่หน้า เช่นเดียวกับเบาะนั่งผู้โดยสารปรับด้วยไฟฟ้า และได้รับชุดไฟ Ambient Light รอบห้องโดยสาร
ด้านระบบขับเคลื่อนจะเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ขุมพลัง 1.6TGDI ที่ให้กำลัง 145 kW (194 แรงม้า) แรงบิด 290 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ 2.0TGDI ให้กำลัง 187 kW (251 แรงม้า) แรงบิด 390 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังก็มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ชุดเกียร์ 7DCT และชุดเกียร์ 8AT ที่เพิ่มเข้ามาใหม่
Chery Tiggo 8 Pro โฉมปี 2025 จะมีวางจำหน่ายเฉพาะในตลาดเมืองจีนเท่านั้น ส่วนในบ้านเราถ้าจะนำเข้ามาจำหน่ายก็คาดว่าจะเป็นในรุ่น Chery Tiggo 9 แต่จะมาชื่อใหม่ว่า Jaecoo J8
