in

MG VS HEV เอสยูวีขุมพลังไฮบริดรุ่นแรกของ MG เคาะราคาในไทยเริ่ม 8.59 แสนบาท

NEW MG VS HEV รถครอสโอเวอร์เอสยูวีที่มาพร้อมขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร รุ่นแรกของทางค่าย MG มีให้เลือก 2 รุ่น่ยอย เคาะราคาจำหน่ายเริ่ม 859,000 บาท

ในรูปลักษณ์จะโดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูล้ำสมัยในแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ โดยถูกออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC มอบความสมบูรณ์แบบทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ (PERFORMANCE), การควบคุม (HANDLING), การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) สู่ประสบการณ์การขับขี่ในแบบฉบับไฮบริดที่สนุกและเร้าใจมากยิ่งขึ้น

ดีไซน์ภายนอกตัวรถ ทะลายกรอบการออกแบบเดิม ๆ พลิกโฉมเอสยูวีสู่ภาพจำครั้งใหม่เป็นรถแบบสปอร์ตตี้ไฮบริด เอสยูวี โดดเด่นทุกมุมมองด้วยกระจังหน้า Electrified Matrix Grille แบบปิดทึบที่เหมือนกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบ LED Projector มาพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติที่มาพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน DRL ขณะที่ชุดไฟท้าย LED ได้รับ DNA มาจาก MG ZS 

ส่วนที่ดึงดูดสายตาอีกอย่างของตัวรถจะเป็นที่ในส่วนล้ออัลลอย AERO WHEEL COVER ดีไซน์โฉบเฉี่ยวขนาด 17 นิ้ว ที่ได้รับการออกแบบลวยลายให้ช่วยลดแรงต้านลม พร้อมพิ่ม AERODYNAMIC ให้กับตัวรถได้ดียิ่งขึ้นขณะที่ตัวรถเพิ่มความสปอร์ตด้วยสีทูโทนหลังคาดำ อีกทั้งยังมีสีแบบโมโนโทนให้เลือกอีกด้วย

ส่วนภายในห้องโดยสารยังคงเป็นแบบ 5 ที่นั่ง ออกแบบภายให้มีความล้ำกว่าที่เคยมีมา ด้วยการติดตั้งหน้าจอ Dual Widescreen Cockpit ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกของรถในกลุ่ม B-SUV

โดยจะมาพร้อมกับหน้าจอ HD ขนาดใหญ่ ที่ประกอบด้วย หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบ Full Virtual Dashboard ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ควบคุมการทำงานผ่าน Illuminated Touch Panel พร้อมรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android และสามารถเล่นมัลติมีเดียในสมาร์ทโฟนระบบ Android ได้มอบความบันเทิง ตลอดการเดินทางด้วย Music application ของ JOOX

ขณะที่คอนโซลกลางดีไซน์แบบ Double Layer เพิ่มอรรถประโยชน์การใช้งานสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ Wireless Charger พวงมาลัยหุ้มหนังและคันเกียร์ตกแต่งลวดลาย LASER PATTERN ให้ความหรูหรา ด้านล่างมีที่เก็บของ

เบาะที่นั่งเป็นแบบสปอร์ตโอบกระชับตัว ฝั่งผู้ขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง มาพร้อมที่พักแขนด้านหน้า พร้อมตกแต่งภายในด้วยวัสดุแบบบุนุ่ม อีกทั้งยังมีช่องแอร์ เบาะที่นั่งด้านหลัง ปรับพับได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ พร้อมช่องเชื่อมต่อช่องเชื่อมต่อ USB TYPE C และ TYPE A รวมถึงช่องปรับอากาศตอนหลัง

ส่วนในชุดอุปกรณ์ จะมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์, กระจกมองหลังแบบตัดแสง, ลำโพง 6 จุด, ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start, ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล

ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V ปิดท้ายด้วยความหรูหราตามแบบฉบับรถที่ส่งตรงมาจากเมืองจีนด้วยหลังคา Panoramic Sunroof

NEW MG VS HEV มาพร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition และระบบความปลอดภัยอย่าง เต็มขั้น มั่นใจในการขับขี่ด้วย สำหรับด้านระบบความปลอดภัยติดตั้งระบบ SYNCHRONIZED PROTECTION 12 ระบบ ที่เป็นชุดมาตรฐานในยุโรป อาทิ

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB 
  • ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH
  • ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD 
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA 
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS 
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC 
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS 
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS
  • ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC 
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS 
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS
  • ระบบจำกัดความเร็ว ASL 

นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบ CONNECTION ที่เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ ได้ไม่สิ้นสุดด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART มาพร้อมกับ Digital Key Technology รับ – ส่งกุญแจดิจิทัลผ่านสมาร์ทโฟนได้

ขณะที่พละกำลังจะมากับระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ให้สมรรถนะสูงสุดที่ 177 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเสริมแรง ส่งกำลังด้วยเกียร์ไฟฟ้าแบบใหม่พร้อมคันเกียร์แบบ Electric Shift 

มีโหมดขับขี่ได้3 รูปแบบ ได้แก่ EcoComfort และ Sport มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ

NEW MG VS HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น D และรุ่น X โดยรุ่น D จะมีสีภายในเป็น
สีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี คือ สีขาว Arctic White, สีดำ Black Knight และสีแดง Scarlet Red สำหรับรุ่น X มีสีให้เลือกทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน แบบโมโนโทนมีสีภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สีได้แก่ สีขาว Arctic White, สีดำ Black Knight และสีแดง Scarlet Red สำหรับสีทูโทนมีสีภายในเป็นแบบทูโทนสีขาวสลับดำ มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว Mineral Green, สีเทา Metal Ash Grey และสีขาว Arctic White

ราคาจำหน่าย MG VS HEV

  • รุ่น D ราคาจำหน่าย 859,000 บาท 
  • รุ่น X ราคาจำหน่าย 9191,000 บาท

โดย  NEW MG VS HEV รุ่นใหม่นี้จะถูกวางตลาดให้อยู่ขั้นกลางระหว่าง MG ZS และ MG HS ซึ่งจะออกมาชนกับคู่แข่งในตลาดทั้ง Haval jolionHonda HR-VToyota Cross และ Nissan Kick