in , , ,

Toyota C-HR HEV GR Sport 2022 หล่อสปอร์ต เท่ตั้งแต่หน้าจรดท้าย ช่วงล่างแน่น ขับสนุกเร้าใจกว่าที่เคย

หลังจากที่ทาง Toyota ได้เสริมทัพ GR Series ด้วยการเปิดตัว Toyota C-HR HEV GR Sport ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

และล่าสุดทาง Toyota ได้ส่งหมายเชิญให้ทาง Autostation.com เข้าร่วมงาน Toyota GR Driving Experience ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

ซึ่งในกิจกรรมนี้จะเป็นการให้ร่วมสัมผัสและทดลองขับ รถสายพันธุ์สปอร์ตของทางโตโยต้าที่ได้รับการปรับจูนใหม่ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น รวมทั้งในเรื่องของระบบช่วงล่างในตระกูล GR Series ทั้งหมด ที่ประกอบไปด้วย Hilux Revo GR SportFortuner GR SportCorolla Cross GR SportCorolla Altis HEV GR Sport และน้องใหม่ล่าสุดอย่าง Toyota C-HR HEV GR Sport 

โดยทางทีมงาน Autostation.com ขอโฟกัสไปที่ตัวไฮไลท์ของงานนี้อย่างเจ้า Toyota C-HR HEV GR Sport ซึ่งก่อนที่จะไปรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับสมรรถนะของเจ้า C-HR HEV GR Sport คันนี้บนแทร็กสนามระดับโลกบนสนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต เรามาดูรายละเอียดของการปรับเปลี่ยนจากรถบ้านให้กลายเป็น รถยนต์นั่งสายพันธุ์ Racing กันก่อน

ปัจจุบัน Toyota C-HR ในตลาดจะมีให้เลือกอยู่ 2 รุ่น คือ HEV Premium Safety และ C-HR HEV GR Sport สำหรับเจ้า C-HR HEV GR Sport เป็น Sub-Compact SUV รุ่นใหม่ล่าสุด ในตระกูลไลน์อัพของ GR Series ที่ปรับปรุงการออกแบบใหม่ด้วยชุดแต่งสปอร์ตทั้งภายนอก และภายในภายใต้แนวคิด GR Sport 

ในส่วนรูปลักษณ์หน้าตาจะได้รับการปรับเปลี่ยนจากรุ่น HEV Premium Safety ให้ดูเร้าใจมากยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งใหม่ในสไตล์สปอร์ต ดีไซน์ภายนอกมากับแพ็คเกจชุด GR Sport เริ่มจากกระจังหน้าโครเมียมสีดำเข้มสปอยเลอร์ด้านหน้ามีขนาดที่ใหญ่ขึ้น พร้อมติดตั้งสเกิร์ตรอบคัน

ล้ออัลลอยสีทูโทนลวดลายเฉพาะของ GR Sport ขนาด 18 นิ้ว รอบคันตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำเพิ่มความดุดัน และปรับดีไซน์กันชนเป็นแบบใหม่ พร้อมปรับในส่วนไฟตัดหมอกคู่หน้าเป็นแบบ LED มากับสัญลักษณ์ GR ที่กันชนหน้า และ GR Sport บริเวณท้ายรถ

ภายในห้องโดยสารปรับแต่งให้ดูสปอร์ตมากขึ้นด้วยโทนสีดำ Total Look และสีเงิน Gun Metallic เบาะนั่งดีไซน์พิเศษ หุ้มด้วยหนังสีดำเดินด้ายสีเทา พร้อมปั๊มโลโก้ GR ไว้ที่กลางตัวเบาะ พวงมาลัยหุ้มหนังแบบเจาะรูพร้อมสัญลักษณ์ GR ระบบสตาร์ตอัจฉริยะ Push Start พร้อมสัญลักษณ์ GR 

และที่เป็นไฮไลท์คือในด้านระบบช่วงล่าง ที่ปรับจูนใหม่ เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจ ด้วยการพัฒนาในส่วนคอยล์สปริง และช็อคอัพแอบซอร์บเบอร์ ที่ออกแบบเฉพาะรุ่น GR Sport โดยเฉพาะ ผสานกับช่วงล่างหลังอิสระแบบปีกนกคู่

ด้านขุมพลังนั้นยังคงมากับเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร ให้กำลัง 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่งานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ขนาด 53 กิโลวัตต์ แรงบิด 163 นิวตันเมตร ทำให้ได้กำลังรวม 122 แรงม้า ตัวแบตเตอรี่ ใช้เป็นแบบ Nickel Metal Hydride – NiMH สามารถเก็บประจุไฟฟ้า 6.5 แอมแปร์ 3 ชั่วโมง ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ E-CVT พร้อม Shift Lock

หลังจากได้รู้จักกับ C-HR HEV GR Sport ไปแล้ว เราเข้ามาสู่บททดสอบของ C-HR HEV GR Sport กันเลย ในการทดลองขับในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลองสมรรถนะในรูปแบบเรชซิ่งกันบนสนามช้าง ซึ่งในการทดลองนั้นจะเป็นการขับแบบเต็มรอบสนาม

ในเส้นทางการทดสอบในสนามจะมี Station ต่าง ๆ ดักไว้เป็นช่วง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการการวิ่งแบบสลาลม หรือการปรับเปลี่ยนเลนแบบกะทันหัน รวมถึงการเข้าโค้งในช่วงความเร็วสูง บนเส้นทางที่เปียกชุ่มไปด้วยสายฝน ซึ่งความเร็วในการทดสอบวันนี้จะถูกกำหนดเอาไว้เป็นช่วง ๆ ตามแต่ละ Station จะเฉลี่ยอยู่ที่ 60-80 กม./ชม.

โดยในการทดสอบครั้งนี้คงจะไม่เน้นในเรื่องอัตราเร่ง แต่เราจะมาโฟกัสกันในเรื่องของระบบช่วงล่างของตัวรถ อยากที่เกริ่นไปก่อนล่วงหน้าแล้วว่าตัวรถนั้นได้มีการปรับเซทในส่วนช่วงล่างใหม่แบบ GR Sport ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาคอยล์สปริงและช็อคแอบชอร์บเบอร์ ที่มีความหนือเพิ่มขึ้น 10% รวมถึงเปลี่ยนในส่วนล้อให้มีขนาดใหญ่เป็น 18 นิ้ว ผสานการทำงานกับโครงสร้าง TNGA จึงทำให้การขับขี่นั้นมีความเร้าใจมากกว่าเดิม

โดยเฉพาะพวงมาลัยที่มีการปรับจูนใหม่ทำให้การควบคุมพวงมาลัยได้ง่าย ตอบสนองแม่นยำมากขึ้น มีความคม ความไว ทำให้ขับขี่ได้สนุกและมั่นใจ และมีน้ำหนักการควบคุมที่กำลังดี แม้อยู่ในช่วงความเร็วสูงในขณะเข้าโค้ง มีน้ำหนักที่ไม่เบาและหนักจนเกินไป

โดยเฉพาะยิ่งได้ระบบ VSC ที่เป็นระบบช่วยเพิ่มเสถียรภาพและควบคุมการทรงตัว ยิ่งทำให้มีความมั่นใจ ตัวรถไม่มีการสะบัดหรือลื่นไลด์ให้เห็น รวมถึงในช่วงสลาลม สามารถควบคุมรถได้ง่าย ตัวมีอาการโคลง

ในด้านระบบช่วงล่างที่พัฒนาคอยล์สปริงและช็อคแอบชอร์บเบอร์ ที่มีความหนือเพิ่มขึ้น 10% โดยเฉพาะผสานกับประสิทธิภาพช่วงล่างหลังอิสระแบบปีกนกคู่ พร้อมปรับเซทมาแบบพอเหมาะไม่แข็งกระด้าง ส่งผลให้การขับขี่มีความแน่นนุ่มและหนึบ ให้การยึดเกาะถนนที่ดี ยิ่งช่วงเวลาเข้าโค้งความเร็วบนสนามช้างในสภาพที่ลื่นและเปียกเป็นไปได้อย่างมั่นใจ เลยทีเดียว เมื่อผสานกับขุมพลังไฮบริด และเกียร์ E-CVT ยิ่งทำให้เกิดความสมูทในช่วงทุกความเร็วของการขับขี่

บทสรุป

จากการที่ได้ทดลองและสัมผัสเจ้า Toyota C-HR HEV GR Sport แบบเล็ก ๆ บนสนามช้างในรูปแบบ Racing แล้วโดยรวมแล้วก็ต้องบอกว่า เป็นรถที่ขับสนุก ช่างล่างปรับเซทใหม่ออกมาให้มีความแน่นหนึบ รองรับการขับขี่ในรูปแบบสปอร์ตได้เร้าใจมากยิ่งขึ้น เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ในด้านสมรรถนะเครื่องยนต์อาจจะไม่ถึงกับจัดจ้าน แต่ก็ไม่เป็นรองใครในเซกเมนต์เดียวกัน ที่สำคัญหายห่วงในเรื่องของความประหยัด ส่วนในเรื่องรูปลักษณ์หน้าตานั้นมีความหล่อในสไตล์ครอสโอเวอร์เป็นทุนเดิม เพิ่มเติมด้วยชุดแต่งสปอร์ตรอบคันของทาง GR เรียกว่าซื้อมาแล้ว ไม่ต้องไปหาชุดแต่งมาเพิ่ม

สำหรับใครที่กำลังมองหารถที่มีให้ทั้งความสปอร์ตของรูปร่างหน้าตา และสมรรถนะการขับขี่ รวมถึงให้ความประหยัดในตัว Toyota C-HR HEV GR Sport เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ควรมองข้ามเลยครับในชั่วโมงนี้

ราคาจำหน่าย Toyota C-HR 

  • Toyota C-HR รุ่น HEV GR Sport ราคา 1,189,000 บาท
  • Toyota C-HR รุ่น HEV Premium Safety ราคา 1,139,000 บาท