หลังจากที่ GAC AION ได้นำ GAC AION HYPER HT เข้ามาโชว์ตัวครั้งแรกในเมืองไทยที่ในงาน Motor Expo 2023 ล่าสุดมีข่าวว่าทาง AION แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์เบอร์ต้น ๆ จากประเทศจีน เตรียมที่จะเปิดตัว พร้อมวางจำหน่าย HYPER HT อย่างเป็นทางการในตลาดเมืองไทยที่ภายในงาน Motor Show 2024 ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
สำหรับ HYPER HT เป็นรถในแบรนด์ HYPER ที่อยู่ในสังกัดของทาง GAC AION โดยจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ที่ต่อมาจาก HYPER GT และ HYPER SSR ความโดดเด่นของ HYPER HT จะอยู่ที่ประตูคู่บานหลังจะเปิดแบบปีกนก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถในตระกูล HYPER มาพร้อมสถาปัตยกรรมไฟฟ้าที่มีให้เลือกทั้งแบบ 400V และ 800V พร้อมแบตเตอรี่ ที่ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกลสุดถึง 770 กม.
โดยถูกเปิดวางจำหน่ายครั้งแรกในประเทศจีนในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา มีให้เลือกมากถึง 6 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 213,900 – 329,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.06 – 1.6 ล้านบาท
ในด้านงานออกแบบตัวรถจะมาในรูปแบบเอสยูวีฟาสต์แบ็คขนาดกลาง ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม AEP3.0 งานดีไซน์จะมากับกระจังหน้าแบบปิดทึบ ชุดไฟดีไซน์ที่เรียบง่าย ด้านในตัวโคมจะเป็นไฟ LED ที่วางเรียงกัน 4 ชั้น มาพร้อมแถบไฟ LED แนวตั้งอยู่ในกันชน
ด้านข้างมากับเส้นสายที่ราบเรียบ เพื่อให้ตัวรถมีความลู่ลม มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ ส่วนที่โดดเด่นที่สุดสำหรับตัวรถภายนอกจะเป็นประตูคู่บานหลังที่สามารถเปิดได้แบบปีกนก
ขณะที่ด้านท้ายจะออกแบบให้มีความลาดเทในสไตล์ Fastback เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์แบบ Duck Trail ที่ประตูด้านท้าย
ชุดไฟท้ายมาในแบบวางพาดเต็มพื้นที่ส่วนท้าย มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนหลังด้านท้าย อีกทั้งยังมีกล้องหลังที่อยู่ตรงกลางกับไฟเบรกอีกด้วย
ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,935 มม., กว้าง 1,920 มม., สูง 1,700 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,935 มม.
ภายในห้องโดยสารจะเน้นความกว้างขวาง และสะดวกสบาย งานดีไซน์จะออกแบบให้ดูเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความหรูหราทันสมัย แผงคอนโซลหน้าจะไม่มีปุ่มควบคุมใด ๆ ทั้งสิ้น โดยจะติดตั้งเพียงหน้าปัดแบบดิจิทัลทรงแปดเหลี่ยม ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยที่จะมาในทรงรูปทรงวงรี มาพร้อมกล้องที่ติดตั้งอยู่เสา A ที่คาดว่าจะเป็นระบบตรวจสอบผุ้ขับขี่ และคันเกียร์ไฟฟ้า
ขณะที่หน้าจอส่วนกลางจะวางแบบลอยตัวโดยมีขนาด 14.6 นิ้ว มาพร้อมระบบปฏิบัติการ ADiGO 5.0 ของ GAC ที่สามารถตอบโต้ด้วยเสียง มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ Haopin HT ที่จะติดตั้ง LIDAR 3 ตัว และกล้องเรดาร์อื่นๆ และใช้ชิป AI ประมวลผลสูงของ Huawei มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ NDA อาทิระบบจอดรถ AVP, ระบบ HPA, ระบบจอดรถควบคุมระยะไกล RPA เป็นต้น
ด้านคอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ วางเชื่อมต่อติดกับแผงคอนโซลหน้า ด้านบนจะเป็นแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนที่มีให้ถึง 2 ช่อง นอกจากนั้นยังได้่รับการติดตั้งชุดเครื่องเสียงระดับไฮเอนท์มาพร้อมลำโพง Dolby Atmos 22 ตำแหน่ง
อีกทั้งในส่วนเบาะคู่หน้าสามารถพับปรับเอนได้แบบราบเรียบ เพื่อไปต่อชนกับเบาะด้านหลังเพื่อให้กลายเป็นโซฟา หรือที่นอนขนาดใหญ่
นอกจากนั้นที่ด้านหลังเบาะคู่หน้ายังมาพร้อมกับถาดวางของที่สามารถพับเก็บได้ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และหลังคากระจก Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บที่ด้านหน้าอีกด้วย
HYPER HT จะมากับชุดมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลัง ให้กำลัง 245 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 355 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.8 วินาที โดยในรุ่นนี้จะได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ LFP ที่มีให้เลือก 2 ขนาดความจุได้แก่ 70 kWh และ 72.7 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 550 – 600 กม. (CLTC)
ถัดมาจะเป็นในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 340 แรงม้า มาพร้อมแรงบิด 430 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.8 วินาที ด้านชุดแบตเตอรี่จะมาในแบบ NMC ที่มีให้เลือก 2 ขนาดความจุตคือ 80 kWh และ 93 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทาง 670 -770 กม. (CLTC)
ส่วนเวอร์ชั่นที่จะนำมาวางจำหน่ายในบ้านเรานั้นคาดว่าคงเป็นสเปกเดียวกันกับที่เปิดวางขายในจีน ส่วนสนนราคานั้นคาดว่าจะออกมาชนกับทาง Tesla Model Y รวมทั้ง DEEPAL S07 โดยคาดจะมีราคาค่าตัวอยู่ที่ราว ๆ ไม่เกิน 1.4 – 1.5 ล้านบาท