Honda Civic Type R (FL5)
in , , ,

Honda Civic Type R (FL5) พร้อมลงตลาดในไทยปลายปีนี้

เปิดสเปคเต็ม Honda Civic Type R (FL5) แฮตช์แบ็กตัวแรงที่พร้อมลงตลาดในไทยปลายปี 2565 นี้ กับขุมพลัง 2.0 ลิตร 4 สูบ 330 แรงม้า แรงบิดที่มากถึง 420 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมลงตลาดในไทยช่วงปลายปี 2565 นี้

หลังจากที่ Honda Motor ประเทศญี่ปุ่น ประกาศเปิดสเปคและราคาจำหน่าย Honda Civic Type R (FL5) รถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานจากรุ่น 5 ประตูเจนเนอเรชั่น 11 โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านาในประเทศญี่ปุ่นด้วยสนนราคา 4,997,300 เยน หรือราว ๆ 1.31 ล้านบาท

Honda Civic Type R (FL5)

ล่าสุดมีข่าวว่าทางฮอนด้าประเทศไทยเตรียมนำเจ้าแฮตช์แบ็กตัวแรงตัวแรงจากญี่ปุ่นรุ่นใหม่นี้ เข้ามาโชว์พร้อมวางจำหน่ายให้แฟน ๆ สาวกตัว H ในเมืองไทยได้จับจองเป็นเจ้าของกันแล้วในช่วงปลายปี 2565 ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีการโชว์ตัวกันที่ภายในงาน Motor Expo 2022 ที่จะถึงนี้ 

Honda Civic Type R (FL5)

สำหรับ Honda Civic Type R (FL5) ที่คาดว่าจะเข้ามาในไทยนี้จะเป็นเวอร์ชั่นที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน โดยจะเป็นรถโรดคาร์แบรนด์ R ของฮอนด้าที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก Civic Hatchback เจนเนอเรชั่นที่ 11 ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน 

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

ในด้านรูปลักษณ์การออกแบบจะเน้นความสปอร์ต ตรงตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยตัวรถที่ดูยาวขึ้น และปรับความสุงของตัวรถให้ต่ำลง อีกทั้งยังเพิ่มความกว้างของตัวรถมากขึ้น ส่งผลทำให้ Civic Type R ตัวรุ่นใหม่นี้มีรูปลักษณ์ที่ล่ำสัน และโฉบเฉี่ยว อีกทั้งส่งผลทำให้มีค่า Downforce ที่สมบูรณ์ 

Honda Civic Type R (FL5)

ตัวรถด้านหน้าออกแบบให้มีความดุดันมากขึ้น กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น มาพร้อมช่องรับลมขนาดใหญ่ที่เป็นตะแกรงสีดำ พร้อมกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตปรับให้มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นที่ผ่าน ด้านในดีไซน์เป็นแบบลวยลายรังผึ้งที่เป็นชิ้นงานวัสดุสีดำ มาพร้อมโลโก้ H พื้นแดง และติดชื่อรุ่น Type R ไว้ที่ฝั่งขวาของกระจังหน้า ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า LED แบบเรียวยาว ในส่วนฝากระโปรงหน้าเจาะช่องเป็นสกู๊ปดักลมเพื่อระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

ในส่วนกาบบันไดข้างดีไซน์ใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ พร้อมกับออกแบบประตูหลังให้กว้างขึ้นซึ่งมีเฉพาะในรุ่น Type R เท่านั้น ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์หลังสีดำที่ออกแบบใหม่

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

มาพร้อมกันชนหลังที่ปรับโฉมใหม่เผยให้เห็นปลายท่อไอเสียทรงกลมตรงกลางแบบ 3 ท่อ อันเป็นเอกลักษณ์ของทาง Type R เสริมความดุดันและสปอร์ตมากยิ่งขึ้นด้วยดิฟฟิวเซอร์แบบใหม่ที่พร้อมรีดอากาศออกจากใต้ท้องรถได้อย่างรวดเร็ว รวมถึง ปีหลังขนาดใหญ่ที่สามารถสร้าง Downforce ได้สูงถึง 900 นิวตัน ที่ความเร็ว  200 กม./ชม. 

Honda Civic Type R (FL5)

ด้านล้อเป็นล้ออัลลอยปรับขนาดให้เล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้าที่มีขนาด 20 นิ้ว ลงมาเป็นขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport 4S ขนาด 265/30R19 

Honda Civic Type R (FL5)

ภายในห้องโดยสารดีไซน์ออกแบบให้ดูสปอร์ตและร้อนแรงด้วยโทนสีแดง-ดำ เบาะนั่งบัคเก็ตซีททรงสปอร์ต ดีไซน์ให้โอบกระชับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า หุ้มด้วยหนังกลับสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Type R โดยในส่วนหนังที่หุ้มนี้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานสูงช่วยลดการลื่นของผู้ขับ รวมถึงพรมปูพื้นแลเข็มขัดนิรภัยก็เป็นสีแดง ขณะที่คอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุพื้นผิวสีเงิน มาพร้อมหัวเกียร์สีเงินทำจากโลหะ

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

ส่วนคอนโซลหน้าจะถูกยกดีไซน์มาจาก Honda Civic Hatchback FL ไม่ว่าจะเป็น ช่องแอร์เรียวยาวดีไซน์แบบรังผึ้ง แผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 10.2 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 9 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงคุณภาพจากทาง BOSE ในส่วนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มด้วยหนังสีดำเย็บด้วยด้วยสีแดง พร้อมติดโลโก้ตัว H พื้นสีแดง พร้อมกับติดลำดับหมายเลขการผลิต ไว้ที่คอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร 

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบบันทึกข้อมูลการขับขี่ Honda LogR แสดงข้อมูลของตัวรถแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังมีนาฬิกาจับเวลาเพื่อบันทึกเวลาต่อรอบ และสามารถแชร์วิดีโอการขับขี่ได้จากล้องที่บันทึกได้ อีกทั้งในส่วนมาตรวัดที่เป็นแบบดิจิทัล จะแสดงได้ถึงสองรูปตามโหมดการขับขี่ โดยถ้าเลือกโหมด R+ หน้าจอจะแสดงรอบต่อนาทีของเครื่องยนต์แบบกราฟิก ไฟแสดงรอบเครื่อง และไฟแสดงตำแหน่งเกียร์อยู่ที่ด้านบน 

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

ในด้านขุมพลังของจะมากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ VTEC Turbo K20 ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ ที่ได้รับการพัฒนาปรับจูนใหม่ ให้มีกำลังมากถึง 320 แรงม้า มาพร้อมแรงบิต 400 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังคู่ล้อหน้าผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีต ที่ปรับปรุงใหม่ มีโหมดขับขี่ให้เลือกสนุกได้ 3 โหมด ได้แก่ Comfort, Sport และ R+ มาพร้อมระบบเฟืองท้าย LSD ระบบเบรกจาก Brembo พร้อมคาลิเปอร์สีแดง เติมแต่งอรรถรสด้วยเสียงสังเคราะห์ Active Sound Control 

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5) มาพร้อม Honda Sensing เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ใช้กล้องหน้ามุมกว้างที่ตรวจจับวัตถุด้านหน้าแบบกว้างและมีความแม่นยำสูง เซ็นเซอร์โซนาร์ด้านหน้า และด้านหลังที่ตรวจจับวัตถุที่ไม่ใช่โลหะ เช่น กระจกและผนังด้านนอกที่มีความแม่นยำสูง, ระบบเบรกป้องกันการชน, พร้อมระบบหักพวงมาลัยอัตโนมัติป้องกันการชนคนเดินถนน, ระบบป้องกันการออกจากถนน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้, ระบบช่วยรักษาช่องเลน, ระบบเบรกป้องกันการชนในระยะทางสั้น, การสตาร์ทรถพร้อมระบบแจ้งเตือน, ฟังก์ชันการจดจำป้าย, ไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ระบบแจ้งเตือนจุดบอด, เซ็นเซอร์จอดรถ เป็นต้น

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5) จะมีให้เลือก 5 สี ได้แก่สีขาว Championship White, สีแดง Frame Red, สีเทา Sonic Grey Pearl, สีดำ Crystal Black Pearl และสีน้ำเงิน Racing Blue Pearl 

Honda Civic Type R (FL5)

Honda Civic Type R (FL5)

สำหรับ Honda Civic Type R (FL5) ทางฮอนด้าประเทศไทยเตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2565 นี้ ส่วนราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่ต้องรอลุ้นกัน เพราะจำหน่ายของ Honda Civic Type R (FL5) ในญี่ปุ่นเปิดราคาไว้ที่ 4,997,300 เยนหรือประมาณ 1.2 ล้านบาท ส่วนถ้าเข้ามาในไทยราคาจะจบอยู่ที่เท่าไหร่เมื่อรวมภาษีต่าง ๆ แล้ว คงต้องติดตามกันในช่วงปลายปีที่จะถึงนี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน Autostation.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบโดยทันที