เกียแบรนด์รถจากประเทศเกาหลีใต้ ปรับเพิ่มรุ่นย่อยให่มให้กับ KIA EV9 โดยจะเข้ามาเป็นเกรดสูงสุด ซึ่งจะใช้ชื่อรุ่น KIA EV9 GT มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้พละกำลังมากถึง 501 แรงม้า เร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบช่วงล่างใหม่ พร้อมลงตลาด วางจำหน่ายได้ในช่วงปี 2025
ในด้านงานออกแบบตัวรถภายนอก ดีเทลโดยรวมยังคงเหมือนเดิมกับในรุ่นย่อยอื่น ๆ เพิ่มเติมในส่วนของ ช่องดักลมที่กันชนหน้าจะมาในแบบแอคทีฟ
มาพร้อมกับสเกิร์ตหน้า- หลังทรงสปอร์ต และเติมความโดดเด่นให้แตกต่างจากรุ่นย่อยอื่นด้วยล้อขนาด 21 นิ้วที่สั่งทำพิเศษ รัดด้วยยางจาก Continental Sport Contact 6 ขนาด 285/45 R2 มาพ้อมคาลิปเปอร์เบรกสีเขียวขนาดใหญ่ที่ด้านใน
ภายในห้องโดยสาร จะตกแต่งด้วยทริมสีเขียวตามจุดต่าง ๆ ทั้งที่บนพวงมาลัยตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา
พร้อมคาดด้วยเส้นสีเขียวตรงกลางตัวเบาะที่นั่ง ในทุกตำแหน่ง โดยตัวเบาะที่นั่งจะมาในแบบทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Alcantara พร้อมลวดลาย GT ปั๊มนูน
อีกทั้งจะเพิ่มความพิเศษจากเกรดอื่นด้วยกราฟฟิก GT-exclusive ในจอขนาด 12.3 นิ้ว และไฟ Ambient Lighting สีเขียวรอบห้องโดยสาร นอกจากนี้ KIA EV9 GT ยังจะได้รับเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูงและความปลอดภัยที่มาแบบชุดใหญ๋จัดเต็ม
สำหรับพละกำลังขับเคลื่อนของ KIA EV9 GT จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยมอเอตร์ไฟฟ้าคู่หน้าให้กำลัง 160 kW (214 แรงม้า) มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังให้กำลัง 270 kW (362 แรงม้า) ให้กำลังรวมสูงถึง 501 แรงม้า มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ e-AWD และสามารถลากจูงได้ถึง 2,267 กก.
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบ Virtual Gear Shift ที่สามารถลดแรงบิดของมอเตอร์ในช่วงการ “เปลี่ยนเกียร์” ด้วย Paddle Shifters รวมทั้งยังมากับ Active Sound Design เงาเสียงการเปลี่ยนเกียร์ขณะเร่งความเร็ว
โดย KIA EV9 GT จะมีพละกำลังมากกว่า GT-Line เกรดสูงสุดของ EV9 ก่อนหน้านี้ถึง 122 แรงม้า พร้อมให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม.ชม. ในเวลา 4.3 วินาที ซึ่งเร็วกว่า GT-Line ใช้เวลา 5.0 วินาที
พร้อมรองรับระบบชาร์จแบบ DC Fast Charging โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 99.8 kWh จาก 10% ถึง 80% ได้ในเวลา 25 นาที
ด้านระบบช่วงล่างมาพร้อมช่วงล่างปรับระดับอัตโนมัติ (adaptive suspension) และดิฟเฟอเรนเชียลลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านหลัง (e-LSD) ช่วยเพิ่มการเกาะถนนในขณะเข้าโค้ง
สำหรับ KIA EV9 GT 2026 จะถูกผลิตในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น โดยจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในช่วงปี 2025 นี้เป็นต้นไป ส่วนราคาจำหน่ายนั้นคาดจะเปิดพร้อมกันกับในวันที่ลงโชว์รูม