แบรนด์ NETA เตรียมสร้างความฮือฮาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ไมยอีกครั้ง โดยในปีนี้ที่ในงาน Motor Expo 2024 ทางเนต้าเตรียมนำ NETA S Shooting Brake รถยนต์ไฟ้าที่มาในรูปแบบสเตชันแวกอน เข้ามาโชว์โฉมครั้งแรกในตลาดเมืองไทย
สำหรับ NETA S Shooting Brake เป็นรถรุ่นใหม่ของทางแบรนด์เนต้า ที่วางตลาดเมื่อกลางปี 2024 ที่ผ่านมาในประเทศจีน โดยในเวอร์ชันที่วางจำหน่ายในบ้านเกิด จะมีให้เลือกทั้งในรูปแบบ EREV ซึ่งจะเรียกชื่อรุ่นว่า NETA S Hunting Edition และเวอร์ชันไฟฟ้า 100% จะถูกใช้ชื่อทางการตลาดว่า NETA S Shooting Brake
โดยรุ่นที่จะนำเข้ามาในไทยโชว์โฉมครั้งแรกที่ในงาน Motor Expo 2024 นี้จะเป็นแบบ BEV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน
ในด้านงานดีไซน์ของ NETA S Shooting Brake ตัวรถถูกถอดแบบมาจาก NETA S ที่เป็นเวอร์ชันซีดานคูเป้ไฟฟ้า ที่เน้นงานออกแบบที่ดูสปอร์ต กระจังหน้ามาแบบปิดทึบตามแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป ชุดไฟหน้าแบบแยก 2 ชั้น ด้านบนเป็นไฟ DRL LED ส่วนชุดด้านล่างเป็นไฟส่องสว่าง มาพร้อมโลโก้ NETA ที่อยู่ตรงกลาง ขณะที่ชายล่างจะมีทั้งแบบสีเดียวกับตัวรถ และแบบตกแต่งด้วยชิ้นงานโครเมียม
เส้นสายด้านข้างเน้นความสปอร์ต มือจับประตูแบบซ่อน ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว มาพร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 4 พ๊อต มีให้เลือกทั้งสีเทา เขียว หรือแดง ด้านท้ายมากับชุดไฟท้าย LED ที่พาดยาวเต็มพื้นที่
ด้านบนหลังคาติดตั้งฉนวนกันความร้อนแบบพาโนรามิกพร้อมฉนวนกันแสง UV อย่างเป็นทางการ 99.9% และฉนวนกันความร้อน 87.5% นอกจากนั้นบนหลังคายังติดตั้งแล็คหลังคา ซึ่งจากภาพจะเห็นว่าตัวแล็คหลังคาจะรองรับสิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกล่องเก็บของ, เต็นท์สำหรับตั้งแคมป์ และจักรยาน
สำหรับ NETA S Shooting Brake ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม Shanhai Platform 2.0 ใหม่ของเนต้า ตัวรถจะมีความยาว 4,980 มม. ความกว้าง 1,980 มม. ความสูง 1,480 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,980 มม.
ขณะที่ในห้องโดยสารจะออกแบบเน้นความกว้างขวาง โดยด้านท้ายจะมีพื้นที่เก็บของได้มากถึง 593 ลิตร สามารถขยายเพิ่มเป็น 1,295 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง โดยตัวเบาะหลังนั้นจะสามารถพับได้แบบราบเรียบ จนทำหให้กลายเป็นที่นอนขนาดใหญ่
รวมทั้งห้องโดยสารคาดว่าจะมาพร้อมกับตู้เก็บความเย็นขนาด 6.5 ลิตร เพื่อสำหรับใช้ในการเดินทาง
แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 17.6 นิ้ว ที่มาในแนวตั้ง มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล และหน้าจอ HUD ที่สะท้อนภาพขี้นไปยังกระจกหน้า รวมถึงยังมีหน้าจอฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว รวมทั้งเบาะนั่งด้านหน้าคาดจะมากับระบบทำความร้อน ระบายอากาศ และฟังก์ชันนวดในตัว
เบาะที่นั่งรองรับได้ 5 นั่ง เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบทำความร้อน / ระบบระบายอากาศ และระบบหน่วยความจำ
ด้านชุดอุปกรณ์จะมากับชุดไฟ Ambient Light, หลังคากระจกขนาดใหญ่, แหล่งจ่ายไฟ 220V, ตะขอแขวนที่ประตูท้าย
ด้านระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ทำงานร่วมกับ LiDAR แบบ 128-Line พร้อมเซนเซอร์ 31 ตำแหน่ง และชิพแบบ Nvidia Orin-X สามารถประมวลผลเส้นทางการขับขี่รถอัตโนมัติ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะขอพูดถึงเพียงเวอรชันไฟฟ้า โดยอิงสเปคจากที่เปิดวางจำหน่ายในจีน โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว จะให้กำลัง 200 kW หรือประมาณ 268 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 64.84 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 510 กม. (CLTC) รองรับการชาร์จ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10-80% ภายใน 21 นาที
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD โดยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให่กำลัง 170 kW หรือ 228 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าหลังจะให้กำลัง 200 kW หรือประมาณ 268 แรงม้า ให้กำลังรวม 503 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร โดยตัวรถจะทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 185 กม./ชม. มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ NMC ขนาด 91 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งให้ระยะทางวิ่งไกล 640 กม. (CLTC) พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10-80% ภายใน 42 นาที
ในด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ ส่วนด้านหลังมาในแบบห้าลิงค์
สำหรับ NETA S Shooting Brake เวอร์ชัน BEV ไฟฟ้า 100% Hozon Auto ในจีนเปิดจำหน่ายในเวอร์ชันไฟฟ้าไว้ระหว่าง 159,900 – 209,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 7.62 แสนบาท –1.001 ล้านบาท และคาดว่าน่าจะเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่ทาง เนต้าประเทศไทย เตรียมนำเข้ามาวางจำหน่ายต่อจาก NETA V / NETA V-II และ NETA X ในอนาคตอันใกล้นี้