หลังจากที่เปิตตัวเผยโฉมให้เห็นกันไปแล้วสำหรับ KIA Picanto รุ่นปรับโฉม 2024 ล่าสุดได้เดินทางมาถึงดินแดนจิงโจ้ออสเตรเลียเป็นที่เรียบร้อย โดยจะมีวางจำหน่ายทั้งในรุ่น Sport และรุ่น GT-Line เปิดราคาจำหน่ายเริ่มที่ 17,890 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว ๆ 4.2 แสนบาท
สำหรับ KIA Picanto 2024 ยังคงเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 โดยถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2017 และได้รับการอัปเดตเล็กน้อยในปี 2020 ส่วนในครั้งนี้ KIA Picanto จะถูกปรับเปลี่ยนหน้าตาใหม่จากเดิมมากขึ้นโดยจะเน้นภาพลักษณ์ตัวรถที่ดูสปอร์ตมากขึ้น โดยได้รับ DNA มาจากรุ่นพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในค่ายทั้ง KIA Sportage, Niro และ EV9 มาพร้อมกับภาษาการออกแบบใหม่ที่เรียกว่า “Opposites United”


ด้านหน้าตัวรถจะได้รับการออกแบบให้มีเหลี่ยมสัน และดูสปอร์ตมากขึ้น ชุดไฟหน้ามาในรูปตัว Y ใหม่ขนาดใหญ่ ที่ดูโฉบเฉี่ยวมากกว่ารุ่นที่ผ่านมา
โดยในรุ่น GT-Line ด้านในตัวโคมจะมีชุดไฟส่องสว่างที่เป็น LED วางเรียงซ้อนกัน 3 ดวง ขณะที่ในรุ่น Sport จะเป็นไฟฮาโลเจน ซึ่งทั้ง 2 รุ่น จะมาพร้อมกับไฟ DRL ที่เป็นเส้นวางอยู่ด้านข้าง และเส้นตัว L อยู่ด้านบน อีกทั้งชุดไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่งยังถูกเชื่อมต่อกันด้วยแถบไฟ LED ที่คั่นกลางระหว่างโลโก้ KIA ที่ถูกออกแบบใหม่
ขณะที่กระจังหน้ามาในไตล์ Tiger Nose แต่จะได้รับการดีไซน์ที่แตกต่างกันไป โดยในรุ่นท๊อป มาพร้อมช่องรับลมด้านล่างจะออกแบบให้มีขนาดใหญ่ พร้อมตกแต่งขอบด้วยชิ้นงานวัสดุสีดำเงา พร้อมขนาบข้างด้วยช่องระบายอากาศในแนวตั้ง ส่วนในรุ่น Sport จะเป็นชิ้นงานสีดำทั้งชิ้น
เช่นเดียวกับในส่วนของล้ออัลลอยจะมีลวดลายี่แตกต่างกันไปโดยในรุ่น Sport จะเป็นสีบรอนซ์เงิน ด้านรุ่น GT-Line จะมาในแบบทูโทนดีไซน์ลสดลายเป็นแบบตัว X หรือรูปบวก โดยทั้ง 2 รุ่นจะเหมือนกันตรงที่ขนาดจะเท่ากันที่ 16 นิ้ว อีกทั้งยังมาพร้อมกับดิฟฟิวเซอร์สีดำเงาใหม่ ที่ตรงกลางติดตั้งไฟทับทิมที่ช่องระบายอากาศเทียม ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะเป็นสีดำแบบธรรมดา
ด้านท้ายของตัวรถ จะออกแบบให้ดูสปอร์ต ด้วยการติดตั้งชุดไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ด้านหลัง
ด้านมิติขนาตัวรถจะมีความยาว 3,595 มม. ความกว้าง 1,595 มม. ความสูง 1,485 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,400 มม.
ภายในห้องโดยสาร จะยังคงมากับดีไซน์ที่เหมือนเดิม แผงแดชบอร์ดติดตั้งแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 4.2 นิ้ว มาพร้อมหน้าจออินโฟรเทนเมนต์แบบสัมผัสที่วางแบบลอยตัวขนาด 8 นิ้ว ที่มีการทำมุมหันมาหผู้ชับขี่ พร้อมรองรับระบบ KIA Connect เชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการอัปเดตแบบ over-the-air รวมทั้งเชื่อมต่อบลูทูธ และการจดจำเสียงออนไลน์
ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นทรงท้ายตัด ขณะที่ในส่วนเบาะที่นั่งจะมาในแบบทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนังเทียมแบบทูโทน ส่วนในรุ่นมาตราฐานจะเป็นเบาะผ้าสีดำ และปิดท้ายด้วยหลังคาซันรูปขนาดเล็ก
KIA Picanto 2024 ถึงแม้จะเป็นรถขนาด A-segment แต่ทาง KIA เผยว่าจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุมากถึง 1,010 ลิตร (35.7 ลูกบาศก์ฟุต) เมื่อพับเบาะหลังลง
ด้านอุปกรณ์ความปลอดภัยได้รับการปรับปรุงด้วย ADAS ใหม่ อาทิ ถุงลมนิรภัยสูงสุด 6 ใบ, ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา พร้อมกับระบบช่วยเบรก, ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ, ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
โดย KIA Picanto สเปกออสเตรเลียจะมีให้เลือกถึง 7 สี มาพร้อมกับสีใหม่สีเขียว Adventurous Green
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ KIA Picanto MY2024 ทั้ง 2 รุ่นย่อยเวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในตลาดออสซี่ จะมากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 MPi 4 สูบ ให้กำลัง83 แรงม้า และแรงบิด 122 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งชุดเกียร์ธรรมดา 5 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
ด้านราคาจำหน่าย KIA Picanto ในตลาดออสซี่
- KIA Picanto Sport (เกียร์ธรรมดา) ราคาจำหน่ายที่ 17,890 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 4.2 แสนบาท
- KIA Picanto Sport (เกียร์อัตโนมัติ) ราคาจำหน่ายที่ 19,490 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 4.5 แสนบาท
- KIA Picanto GT-Line (เกียร์ธรรมดา) ราคาจำหน่ายที่ 19,690 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 4.6 แสนบาท
- KIA Picanto GT-Line (เกียร์อัตโนมัติ) ราคาจำหน่ายที่ 21,290 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 5 แสนบาท