แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน กำลังไหลเข้าสู่ตลาดยุดรปอย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุดทาง Leapmotor (ลีพมอเตอร์) แบรนด์ผู้ผลิตที่อยู่ในสังกัดของทาง STELLANTIS ได้เปิดตัววางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าถึง 2 รุ่นในตลาดยุโรปอันได้แก่ Leapmotor T03 ที่เป็นรถแฮทช์แบคไฟฟ้าแบบ 5 ประตูขนาดเล็ก และ Leapmotor C10 เอสยูวีไฟฟ้าขนาดกลาง
ซึ่งทั้งคู่จะมานั้นจะมากับสนนราคาค่าตัวที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาดเดียวกันอยู่พอสมควร โดย T03 นั้นจะมีราคาเริ่มต้นที่ 18,900 ยูโร หรือประมาณ 6.8 แสนบาท ขณะที่ C10 จะมีสนนราคาคาตัวเริ่มที่ 36,400 ยูโร หรือราว ๆ 1.3 ล้านบาท
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ชอง Leapmotor T03 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปบบซิตี้คาร์ ตัวถังแฮทช์แบคแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง มุ่งเป้าสำหรับคนที่ใช้ชีวิตในเมืองเป็นหลัก ตัวรถจะมีขนาดที่เล็กกะทัดรัดโดยมีขนาดตัวที่ความยาว 3,620 มม. กว้าง 1,652 มม. สูง 1,577 มม. ระยะฐานล้อ 2,400 มม. โดยจะถูกวางให้ออกมามาเป็นคู่แข่งของทาง Citroën Ë-C3, Dacia Spring หรือ Fiat Grande Panda
ด้านตัวรถจะเหมือนกับ T03 ที่มีขายในจีน โดยในสเปคเมืองจีนนั้นถูกเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา ด้านหน้าจะมากับชุดไฟ LED ทรงมน โดยมีไฟ DRL LED อยู่ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าแบบปิดทึบ โดยมีตราโลโก้ของทางแบรนด์อยุ่ตรงกลาง และเมื่อเปิดกระจังหน้าขึ้นจะเป็นจุดชาร์จไฟ
เส้นสายด้านข้างจะมากับความเรียบง่าย มือเปิfประตูเป็นแบบปกติ ล้อมกรอบกระจกบานข้างด้วยแถบสีดำ มาพร้อมกับหลังคาดำ พร้อมติดตรา EV ไว้ที่มุมเสา A
ชุดไฟท้ายมาในทรงเดียวกับไฟหน้า เชื่อมต่อไฟท้ายทั้ง 2ฝั่งด้วยแถบสีดำ โดยมีชื่อแบรนด์ Leapmotor คั้นไว้ตรงกลาง
ภายในห้องโดยสารก็ออกแบบเน้นความเรียบง่ายในสไตล์มินิมอล แผงแดชบอร์ดจะมากับมาตรวัดดิจิทัล TFT ขนาด 8 นิ้ว อยู่ด้านหลังพวลมาฃลัยมัลติฟังก์ชันทรงสามก้าน มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว
ขณะที่คอนโซลกลางจะมีเพียงพอร์ตชาร์จ USB และ ช่อง Power Outlet และที่วางแก้วน้ำเท่านั้น มาพร้อมหลังคา Panoramic Sunroof ด้านชุดความปลอดภัยจะมากับระบบ ADAS
ในด้านระบบขับจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่วางอยู่คู่ล้อหน้า ให้กำลัง 75 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 37.3 kWh ชร์จไฟวิ่งไกลสุด 265 กม. (WLTP) รองรับการารฺจไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10 – 80% ในเวลา 36 นาที
Leapmotor T03 จะถูกประกอบขึ้นที่ที่โรงงาน Tychy ของ Stellantis ในประเทศโปแลนด์ โดยทางผู้ผลิตตั้งราคาเริ่มที่ 18,900 ยูโร หรือประมาณ 6.8 แสนบาท
ขณะที่ในรุ่น Leapmotor C10 จะเป็นครอสโอเวอร์เอสยูวีไฟฟ้า ขนาดกลาง ซึ่งมีขนาดที่ใกล้เคียงกับ Tesla Model Y โดยมีมิติขนาดตัวรถความยาว 4,740 มม. ความกว้าง 1,900 มม. ความสูง 1,680 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,825 มม.
ในด้านงานออกแบบเส้นสายตัวรถเน้นความเรียบหรู ดูแพง พร้อมดีไซน์ให้สอดรับกับระบบแอร์โร่ไดนามิค เพื่อให้ลดแรงต้ายอากาศ ชุดไฟหน้าตามแบบสมัยนิยมที่เป็นแถบไฟ LED ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนหน้า เช่นเดียวกับด้านท้ายที่มากับแถบไฟ LED ที่วางเต็มพื้นที่ส่วนท้าย
ในส่วนหลังคารถจะออกแบบให้เป็นแบบแขวน เพื่อทำให้ตัวรถนั้นดูมีความกว้าง และดูใหญ่ขึ้น มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารจะตกแต่งในสไตล์มินิมอลที่เรียบหรู โดยทาง Stellantis จะมีให้เลือกรุ่นย่อย 2 แบบที่แตกต่างกัน เรียกว่า Style และ Design โดยทั้งทั้งสองรุ่นมาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน
แผงแดชบอร์ดจะมาในแบบมินินอล เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความไฮเทค โดยจะไม่มีปุ่มสั่งงานใด ๆ ติดตั้งเพียงแผงหน้าปัด LCD ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางแบบลลอยตัวอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบก้านคู่ท้ายตัด ขณะที่หน้าจอส่วนกลางจะมีให้เลือก2 ขนาด คือ 10.25 นิ้วและ 14.6 นิ้ว (ขึ่้นอยุ่แต่ละรุ่นย่อย)
นอกจากนั้นยังได้รับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, ชุดไฟ Ambient Light 246 สี, หัลคาซันรูฟแบบพาโนรามา
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่จะมากับระบบ ADAS ที่มาพร้อมระบบต่าง ๆ ากถึง 17 รายการ พร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 2
ในด้านพละกำลังจะถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่ให้กำลัง 160 kW (215 แรงม้า) แรงบิด 320 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 69.9 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทางไกล 420 กม. (WLTP)
ด้านสนนราคาค่าตัวของ Leapmotor C10 ทาง Stellantis เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 36,400 ยูโร หรือประมาณ 1.34 ล้านบาท
สำหรับในบ้านเรานั้น Leapmotor C10 จะเป็นรถรุ่นแรกของทางแบรนด์ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย โดยจะเป็นการนำเข้ามาจำหน่ายจากทาง กลุ่มพระนครยนตรการ หรือ PNA Group ซึ่งได้สิทธิ์เป็น DISTRIBUTOR โดยคาดว่าจะได้ยลโฉม และสัมผัสตัวจริงกันในช่วงเดือย พ.ย. ที่ภายในงาน Motor Expo 2024
ทั้งทั้งนั้นหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้พื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนี่งโดยทันที