ในวงการยานยนต์บ้านเรานั้นค่ายเอ็มจี ประเทศไทย ถือเป็นเจ้าแรก ๆ ที่นำรถยนต์ไฟฟ้า 100% เข้ามาจัดจำหน่ายแบบจริงจังในบ้านเรา ซึ่งนำมาโดย MG ZS EV เอสยูวีไฟฟ้าเมื่อปี 2562 ต่อจากนั้นก็ตามมาด้วย MG EP ที่เป็นแบบสเตชั่นแวกอนไฟฟ้า และล่าสุดสด ๆ ร้อน เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมาอย่าง MG4 Electric รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100%
ส่าสุดเตรียมเปิดเซกเมนต์ใหม่ของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ในเมืองไทย เพื่อให้ครอบคลุมตามนโนบายของทางบริษัทว่าจะเป็น ท็อป 5 ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และสานต่อการเป็นผู้นำรถไฟฟ้าในไทย ด้วยการเตรียมเปิดตัว Maxus MIFA 9 รถยนต์ไฟฟ้า MPV 6 ที่นั่ง ที่เป็น 1 ในแบรนด์ในสังกัดของ SAIC Motor ในประเทศจีน
โดยการมาของ Maxus MIFA 9 หรือ LDV MIFA 9 จะยกมาทั้งคัจากประเทศจีน แต่ทำการปรับเปลี่ยนโลโก้แบรนด์ใหม่จากทาง Maxus ให้กลายเป็นตรา MG เหมือนกับรุ่นพี่ที่เคยทำมาแล้วอย่างในรุ่น MG V80 Passenger van ขนาด 11 ที่นั่ง ที่ร่างเดิมก็คือ Maxus V80 Lativa
สำหรับความดีงามของ MIFA 9 ว่าที่รถยนต์ไฟฟ้าตัวใมหม่ของทาง เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จะเป็นรถ MPV ไฟฟ้า แบบ 6 -7 ที่นั่ง ถูกเปิดตัวครั้งแรกในเมืองจีนที่ภายในงาน Guangzhou Auto Show 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะมีวางจำห่นายในบ้านเกิดที่จีนแล้ว ยังได้ส่งไปจำหน่ายที่บนเกาะอังกฤษ และที่ตลาดออสซี่แดนจิงโจ้ โดยจะใช้ชื่อว่า LDV MIFA 9
ในด้านรูปลักษณ์จะมากับความหรูหรา ตามแบบฉบับรถจากเมืองจีนที่เน้นในเรื่องดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ชุดไฟหน้าแบบ LED ทั้งระบบ มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นเส้นเรียวยาวพาดใต้ฝากระโปรงหน้า พร้อมตีตราแบรนด์ไว้ที่ปลายฝากระโปรง ในส่วนกันชนหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยชุดไฟส่องสว่าง
พร้อมตกแต่งด้วยชิ้นงานโครเมียมที่ชายขอบบันไดข้างตัวรถ และคิ้วกันชนหลัง เสริมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยโครเมียมขนาด 18-19 นิ้ว ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย
ด้านท้ายจะเป็นอีกจุดที่ดูโดดเด่น โดยจะมากับไฟท้าย LED แบบ Galaxy Halberd Fantasy ที่ดีไซน์เป็นแนวยาวรูปตัว Y ประตูหลังปิด-เปิดด้วยไฟฟ้า ส่วนประตูเข้าห้องโดยสารเปิดแบบบานสไลด์ไฟฟ้าทั้ง 2 ฝั่ง
ในด้านมิติตัวรถมีความยาว 5,270 มม., กว้าง 2,000 มม., สูง 1,840 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,200 มม.
ภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว มีให้เลือกทั้ง 6 – 7 ที่นั่ง โดยในรุ่น 6 ที่นั่ง เบาะทุกตัวจะถูกแยกออกจากกันแบบ Captain Seat
ส่วนในแบบ 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่ 2 จะเป็นแบบ Captain Seat เบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยหนัง Nappa มาพร้อมระบบทำความร้อน ทำความเย็น, ฟังก์ชันนวด และปรับเอนนอนด้วยไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำที่นั่ง โต๊ะที่สามารถปรับพับได้ ที่วางขา ที่พิงศีรษะไฟฟ้า นอกจากนั้นยังติดตั้งหน้าจอควบคุมไว้ที่บริเวณที่พักแขนของตัวเบาะนั่ง
ในส่วนแผงแดชบอร์ดของ MIFA 9 ยังออกได้ด้วยความทันสมัย และเรียบง่าย มีหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ขนาดขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay แบบมีสาย มาพร้อมแผงมาตรวัดดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัวอยู่ด้านหลังพวงมาลัยหนังมัลติฟังก์ชั่น อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงข้อมูลแบบ HUD และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
ด้านชุดอุุปกรณ์ต่าง ๆ ของ MIFA 9 จะได้รับ กระจกมองหลังแบบดิจิตอล, แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแบบแยกส่วน, เครื่องฟอกอากาศ, กระจกรอบคันแบบ Rear Privacy Glass, ไฟ Ambient Light 64 สี
นอกจากนี้ยังมีหน้าจอสั่งงานที่ติดตั้งไว้ที่พักแขนของเบาะนั่งแถวที่ 2 และจอที่หลังเบาะคู่หน้า รวมถึงยังได้รับการติดตั้งเครื่องเสียงจากทาง JBL และลำโพงรอบห้องโดยสาร 12 ตำแหน่ง ปิดท้ายด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ
ในด้านระบบความปลอดภัยและเทลโนโลยีการขับขี่จะมากับระบบ Smart Driving Butler ที่จะปรับแต่งรถให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ขับขี่ รวมถึงยังได้รับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะพร้อมฟังก์ชันการจราจรบนถนนที่แคบ, ระบบที่ช่วยควบคุมความเร็วในการขับขี่ให้สอดคล้องกับสภาพของการจราจรอย่างอัตโนมัติ, ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา และ ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ เป็นต้น
ขุมพลังของ MIFA 9 จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวาขนาด 180 kW ติดตั้งไว้ที่คู่ล้อหน้า ให้กำลัง 245 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร มีโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมดทั้ง Normal, Eco และ Sport
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 90 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 440 กม. ตามมาตราฐาน CATL พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ AC ขนาด 11 kW จะใช้เวลาประมาณ 8.5 ชม. และระบบชาร์จไฟแบบ DC จะให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ในเวลา 36 นาที
สำหรับว่าที่ MPV ไฟฟ้า ของทืางค่าย MG มีลุ้นจะเปิดตัวในเมืองไทยปีนี้ ซึ่งอาจจะเป็นในงาน Motor Show 2023 ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมืนาคมนี้ โดยเกียวก้อยเปิดตัวโฉมโชว์พร้อมกับ MG EP สเตชั่นแวกอนไฟฟ้ารุ่นปรับโฉมใหม่