MG เผยโฉม MG MAXUS 7 น้องเล็กของ MAXUS 9 ลงตลาดในไทย โดยเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ในงาน Bangkok International Motor Show 2024 ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ โดยถือว่าเป็ฺนการเผยโฉมครั้งแรกในย่านอาเซียน
สำหรับ MAXUS 7 เป็นรถที่มาในรูปแบบเอ็มพีวีไฟฟ้า 100% โดยชื่อที่วางจำหน่ายในตลาดบ้านเกิดที่เมืองจีนจะใช้ชื่อว่า MAXUS MIFA 7 โดยถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน เมื่อช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีทั้งแบบ 6 ที่นั่ง (2+1+3) และ 7 ที่นั่ง (2+3+3) มาพร้อมแบตเตอรี่ Rubik’s Cube ที่มีขนาด 64kWh และ 90 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ 527 กม. และ 605 กม. เคาะราคาจำหน่ายในจีนเริ่มที่เพียง 259,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.32 ล้านบาท
ในด้านงานดีไซน์ของ MAXUS 7 ที่จะเปิดตัวในไทย หรือ MIFA 7 ในเวอร์ชั่นจีนนั้น จะได้รับ DNA มาจาก MAXUS 9 ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ชุดไฟหน้าแบบ LED ทั้งระบบ โดยมีไฟ DRL ที่วางเป็นเส้นเรียวยาวพาดใต้ฝากระโปรงหน้า โดยชุดไฟส่องสว่างจะถูกเชื่อมต่อกับไฟ DRL ให้เหมือนกับเป้นรุปตัว U คว่ำ
พร้อมตีตราแบรนด์ M A X U S ไว้ที่ปลายฝากระโปรงหน้า ในส่วนกันชนหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ส่วนกันชนหน้าจะมีขนาดที่เล็กกว่า MAXUS 9 มาในทรงสี่เหลี่ยมคางหมู
ด้านข้างประตูเปิดแบบบานสไลด์ทั้ง 2 ฝั่ง มาพร้อมมือเปิดประตูที่เป็นแบบ Pop- Up ดีไซน์ให้ราบเรียบไปกับตัวรถ พร้อมตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียมรอบกระจกบานข้าง
นอกจากนั้นในส่วนกระจกมองข้างจะมาในแบบกล้องดิจิตอลที่จะฉายภาพไปยังภายในห้องโดยสาร โดยจะติดตั้งหน้
ด้านล้ออัลลอยจะมีขนาด 18 นิ้ว ที่ออกแบบลวยลายให้สอดรับกับระบบแอร์โร่ไดนามิค รัดด้วยยางขนาด 225/55 R18
ด้านบนหลังเสริมภาพลักษณ์ของความอเนกประสงค์ด้วยการติดตั้งราวแล็คหลังคาสีเงิน เติมความหรูหราด้วยหลังคาซันรูฟ ปิดท้ายความสปอรต์ด้วยสปอยเลอร์หลังคาที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ
ขณะที่ชุดไฟท้ายจะมาในแบบ LED ที่เป็นแนวตั้ง เชื่อมด้วยแถบไฟ LED รวมทั้งติดตรา M A X U S แบบเรืองแสงสีแดงคั้นไว้ตรงกลาง
ในด้านขนาดมิติตัวรถของจะมีความยาว 4,907 มม., กว้าง 1,885 มม., สูง 1,756 – 1,768 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,975 มม. ซึ่งจะเล็กกว่า MAXUS 9 ในทุกมิติ
ภายในห้องโดยสารของ MAXUS 7 สเปกเมืองจีนจะเป็นแบบ 3 แถว มีให้เลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง (2+1+3) และ 7 ที่นั่ง (2+3+3)
ด้านแผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอแบบใหญ่ยาว ที่รวมเอาแผงหน้าปัด Full LCD ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟรเทนเมนต์สำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว เข้าไว้เป็นจอเดียวกัน มาพร้อมชิปประมลผล Snapdragon 8155 ของ Qualcomm พร้อมกับดีไซน์ในส่วนช่องแอร์ให้เรียวยาวไปตามคอนโซลหน้า
คอนโซลกลางให้เป็นแบบสะพานเชื่อมต่อติดกับคอนโซลหน้า มาพร้อมพื้นที่เก็บของที่ด้านล่าง ส่วนด้านบนจะมีพื้นที่ขนาดกว้าง โดยมากับช่องชาร์จสมาร์ตโฟนที่ออกแบบให้สามารถชาร์จพร้อมกันได้ถึง 2 เครื่อง ด้านระบบสั่งงานภายในตัวรถจะดีไซน์ให้เป็นแบบสัมผัสติดตั้งอยู่เหนือแท่นชาร์จโทรศัพท์
ด้านเบาะที่นั่งจะหุ้มด้วยหยัง NAPPA โดยเบาะที่นั่งทั้งแถวแรก และแถวที่ 2 สามารถปรับเอนนอนได้เกือบราบเรียบ ในรุ่น 6 ที่นั่ง เบาะที่นั่งแถวแรกฝั่งผู้โดยสารสามารถหมุน 180 พร้อมเลื่อนถอยลงมาได้จนถึงเบาะนั่งแถวที่ 2 เพิ่มความหรูหราด้วยชุดไฟ Ambient light 64 สี
ระบบเครื่องเสียงติดตั้งลำโพงของทาง JBL นอกจากนั้นยังติดตั้งตู้เย็น หรือช่องเก็บความเย็นไว้ที่ด้านท้ายหลังคอนโซลกลาง ปิดท้ายด้วยหลังคาซันรูฟ
สำหรับระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่จะได้รับการติดตั้ง ระบบ ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ที่มาพร้อมระบบตรวจจับความล้าผู้ขับขี่ DMS รวมทั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
MG MAXUS 7 ถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม E2 โดยจะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 180 kW หรือให้กำลัง 241 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ Rubik’s Cube ที่มีความจุให้เลือก 2 ขนาด คือ 77 kWh และ 90 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 527 กม. และ 605 กม. ตามลำดับ (CLTC)
พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 80KW ที่ให้กำลังไฟจาก 20 – 80% ภายใน 36 นาที อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟแบบ AC 3 เฟส ขนาด 11kW ชาร์จไฟเต็มภายในเวลา 8.5 ชม. นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับระบบจ่ายไฟ V2L ไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอก
MAXUS MIFA 7 หรือ MG MAXUS 7 สเปกในจีนนั้นเปิดราคาจำหน่ายระหว่าง 259,800 – 299,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.32 – 1.52 ล้านบาท ส่วนเวอร์ชั่นสเปกเมืองไทยนั้นคาดว่าจะเปิดราคาขายไม่เกิน 2 ล้านบาท
โดยรายละเอียดของ MAXUS 7 สเปกไทยแลนด์นั้น คงต้องรอภายในมอเตอร์โชว์ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางทีมงาน Autostation.com จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด นำมารายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง
