in , ,

Maxus MIFA 7 MPV น้องเล็กใหม่ ของทาง SAIC วิ่งไกล 605 กม. ราคาเริ่ม 1.25 ล้านบาท ในจีน

SAIC เปิดตัว Maxus MIFA 7 รถเอ็มพีวีน้องเล็กรุ่นใหม่ มีให้เลือกทั้งแบบ 6 และ 7 ที่นั่ง ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ 605 กม. ราคาเริ่ม 1.25 ล้านบาท ในเมืองจีน

Maxus MIFA 7

SAIC Motor Maxus ได้ใข้เวทีภายในงาน Chengdu Auto Show 2023 เปิดตัว MPV ตัวใหม่ของทางค่ายโดยใช้ชื่อว่า Maxus MIFA 7 หรือในเมืองจีนจะถูกเรียกว่า Maxus Dajia 7

Maxus MIFA 7

สำหรับ Dajia 7 หรือ MIFA 7 จะเป็นรถเอ็มพีวีไฟฟ้า จะมีทั้งแบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง มาพร้อมแบตเตอรี่ Rubik’s Cube ที่มีขนาด 64kWh และ 90 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ 527 กม. และ 605 กม.

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

โดยในด้านการตลาดทาง SAIC จะวางตำแหน่งของ MIFA 7 ให้ต่ำกว่า MIFA 9 หรืออีกชื่อคือ MG MAXUS 9 ด้วยตัวถังที่มีขนาดเล็กว่า รวมทั้งยังเปิดราคาจำหน่ายที่ถูกกว่า โดยมีราคาจำหน่ายระหว่าง 259,800 – 299,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.25 – 1.44 ล้านบาท  

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาว 4,907 มม., กว้าง 1,885 มม., สูง 1,756 – 1,768 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,975 มม. ขณะที่ขนาดตัวถัง MIFA 9 หรือ MAXUS 9 จะมีความยาวอยู่ที่ 5,270 มม., กว้าง 2,000 มม., สูง 1,840 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,200 มม. 

Maxus MIFA 7

รูปลักษณ์หน้าตาของ Maxus MIFA 7 ยังคงมีกลิ่นอายของ MIFA 9 มากับดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ชุดไฟหน้าแบบ LED ทั้งระบบ มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นเส้นเรียวยาวพาดใต้ฝากระโปรงหน้า โดยชุดไฟส่องสว่างจะถูกเชื่อมต่อกับไฟ DRL ให้เหมือนกับเป้นรุปตัว U คว่ำ พร้อมตีตราแบรนด์ M A X U S ไว้ที่ปลายฝากระโปรง 

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

ด้านข้างประตูเปิดแบบบานสไลด์ มาพร้อมมือเปิดประตูที่เป็นแบบ Pop- Up พร้อมตกแต่งด้วยคิ้วโครเมียมรอบกระจกบานข้าง นอกจากนั้นในส่วนกระจกมองข้างจะมาในแบบกล้องดิจิตอลที่จะฉายภาพไปยังภายในห้องโดยสาร โดยจะติดตั้งหน้าจอไว้ที่มุมคอนโซลหน้าบริเวณเสา A ด้านใน รวมทั้งยังได้รับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ที่ออกแบบลวยลายให้สอดรับกับรระบบแอร์โร่ไดนามิค พร้อมรัดด้วยยางขนาด 225/55 R18

Maxus MIFA 7

ด้านบนหลังเสริมภาพลักษณ์ของความอเนกประสงค์ด้วยการติดตั้งราวแล็คหลังคาสีเงิน เติมความหรูหราด้วยหลังคาซันรูฟ ปิดท้ายความสปอรต์ด้วยสปอยเลอร์หลังคาที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ 

Maxus MIFA 7

ขณะที่ชุดไฟท้ายจะมาในแบบ LED ที่เป็นแนวตั้ง เชื่อมด้วยแถบไฟ LED รวมทั้งติดตรา M A X U S แบบเรืองแสงสีแดงคั้นไว้ตรงกลาง 

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

ภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว มีให้เลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง (2+1+3) และ 7 ที่นั่ง (2+3+3) แผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอแบบใหญ่ยาว ที่รวมเอาแผงหน้าปัด Full LCD ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟรเทนเมนต์สำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว เข้าไว้เป็นจอเดียวกัน อีกทั้งยังติดตั้งชิป Snapdragon 8155 ของ Qualcomm 

 Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

ส่วนคอนโซลกลางให้เป็นแบบสะพานเชื่อมต่อติดกับคอนโซลหน้า มาพร้อมพื้นที่เก็บของที่ด้านล่าง ส่วนด้านบนจะมีพื้นที่ขนาดกว้าง โดยมากับช่องชาร์จสมาร์ตโฟนที่ออกแบบให้สามารถชาร์จพร้อมกันได้ถึง 2 เครื่อง ด้านระบบสั่งงานภายในตัวรถจะดีไซน์ให้เป็นแบบสัมผัสติดตั้งอยู่เหนือแท่นชาร์จโทนศัพท์ 

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

ด้านเบาะที่นั่งจะหุ้มด้วยหยัง NAPPA ปรับอุณหภูมิได้ โดยเบาะที่นั่งแถวแรก และแถวที่ 2 สามารถปรับเอนนอนได้เกือบราบเรียบ อีกทั้งในรุ่น 6 ที่นั่ง เบาะที่นั่งแถวแรกฝั่งผู้โดยสารสามารถหมุน 180 พร้อมเลื่อนถอยลงมาได้จนถึงเบาะนั่งแถวที่ 2

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

เพิ่มความหรูหราด้วยชุดไฟ Ambient light 64 สี, ระบบเครื่องเสียงติดตั้งลำโพงของทาง JBL นอกจากนั้นยังติดตั้งตู้เย็น หรือช่องเก็บความเย็นไว้ที่ด้านท้าหลังคอนโซลกลาง 

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

สำหรับระบบความปลอดภัย มาพร้อมระบบตรวจจับความล้าผู้ขับขี่ DMS รวมทั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

สำหรับ Maxus MIFA 7 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 180 kW หรือให้กำลัง 241 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ Rubik’s Cube ที่มีความจุ 77 kWh และ 90 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 527 กม. และ 605 กม. ตามลำดับ (CLTC) พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 80KW ที่ให้กำลังไฟจาก 20 – 80% ภายใน 36 นาที

Maxus MIFA 7

อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟแบบ AC 3 เฟส ขนาด 11kW ชาร์จไฟเต็มภายในเวลา 8.5 ชม. นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับระบบจ่ายไฟ V2L ไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอก โดยมีชุดไฟขนาด 6.6kW

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

Maxus MIFA 7

ในด้านราคาจำหน่ายของ Maxus MIFA 7 ทาง SAIC เปิดราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 259,800 – 299,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.25 – 1.44 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอีกรุ่นที่ทาง MG ประเทศจะนำเข้ามาจำหน่ายต่อจาก New MG MAXUS 9 ในอนาคต