BYD ในประเทศจีนได้เปิดตัว BYD e2 แฮทช์แบ็กไฟฟ้า รุ่นโมเดลปี 2024 พร้อมต่อท้ายชื่อรุ่นว่า Honor Edition ซึ่งทำให้ e2 รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นนี้ จะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว BYD “Honor” ที่จะหมายถึงว่ารถรุ่นปรับปรุงใหม่ของทางบีวายดี จะใช้ชื่อต่อท้ายรุ่นว่า Honor Edition พร้อมชูจุดขายจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายมากกว่าเดิม โดย BYD e2 Honor Edition MY2024 จะมีราคาจำหน่ายในประเทศจีนเริ่มที่ 89,800 หยวน หรือประมาณ 4.5 แสนบาท เท่านั้น
สำหรับในด้านงานออกแบบของ BYD e2 Honor Edition MY2024 นั้นจะยังคงเหมือนในรุ่นเดิมที่ถูกปรับโฉมไปเมื่อในเดือนเมษายน ปี 2023 ที่ผ่านมา ตัวรถจะาในรูปแบบแฮทช์แบค 5 ประตู
กระจังหน้าแบบปิดทึบเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ มาพร้อมชุดโคมไฟหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว เชื่อมต่อชุดไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่งด้วยแถบเส้นสีดำ มาพร้อมตีตราโลโก้ BYD ไว้ตรงกลางกระจังหน้า
ส่วนกันชนหน้าออกแบบให้มีช่องดักลมปลอม ที่ออกแบบให้เป็นรุปตัว X ขนาดใหญ่ มาพร้อมช่องรับอากาศที่ด้านล่างกันชนหน้า
ด้านข้างเน้นความเรียบง่าย มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทน ด้านบนหลังคาติดตั้งราวแล็คหลังคาสีเงิน มาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลามที่เป็นสีเดียวกันกับตัวรถ ด้านท้ายมากับชุดไฟท้ายแบบเรียวยาว เชื่อมต่อซ้าย-ขวา ด้วยเส้นไฟ LED
ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมทีความยาวอยู่ที่ 4,260 มม., กว้าง 1,760 มม., สูง 1,530 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,610 มม.
ภายในห้องโดยสารของ BYD e2 Honor Edition MY2024 ยังคงมาในสไตล์แบบมินิมอล แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจออินโฟเทนเมนต์ที่มีให้เลือก 2 ขนาด ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อยโดยในรุ่น Comfort จะมีขนาด 10.1 นิ้ว ส่วนในรุ่น Luxury จะมีขนาด 12.8 นิ้ว โดยหน้าจอทั้ง 2 รุ่นย่อยสามารถหมุนได้ทั้งแบบแนวตั้ง และแนวนอน พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออัจฉริยะ DiLink มาพร้อมระบบโต้ตอบด้วยเสียงอัจฉริยะ และระบบอัปเกรด OTA
นอกจากนั้นยังได้รับแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ที่วางอยู๋ด้านหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D- Shape แบบสามก้าน ที่ดูเหมือนจะยกมาจากในรุ่น Seal และ Dolphin ที่เป็นรถยนต์ในซีรีส์ Ocean เหมือนกัน
ด้านเบาะที่นั่งจะมาในแบบทรงสปอร์ต โดยในรุ่นเริ่มต้นจะถูกหุ้มด้วยวัสดุผ้า ส่วนในรุ่นท็อปจะหุ้มด้วยหนังเทียม นอกจากนั้นยังได้รับการ์ด NFC เหมือนกับในรุ่น ATTO 3 ที่มีวางจำหน่ายในบ้านเรา
แผงคอนโซลกลางจะถูกออกแบบให้ต่อเชื่อมติดกับคอนโซลหน้า มาพร้อมชุดเกียร์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ตัวด้ามเกียร์จะถูกออกแบบให้มมีขนาดเล็กสั้น พร้อมทำจากแก้วคริสตัล
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในของ e2 Honor Edition จะได้รับ พอร์ต USB แถวหน้า 2 ตำแหน่ง, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง, กระจกไฟฟ้าสี่ประตู, กระจกมองหลังภายในแบบแมนนวลป้องกันแสงแยงตา, ช่องต่อไฟรถยนต์ 12V และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กรอง PM2.5 เป็นต้น
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่จะได้รับถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS, จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISO-FIX, ระบบเตือนคนเดินถนนความเร็วต่ำ, เบรก ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบช่วยเบรกไฮดรอลิกล ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ, ระบบกระจายแรงเบรก, เรดาร์ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง, กล้องถอยหลัง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบควบคุมการออกตัวบนทางลาดชัน
สำหรับ BYD e2 Honor Edition MY2024 ยังคงถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม e-3.0 ใหม่ ของทาง BYD ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมากับมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร AC ที่วางอยู่ที่คู่ล้อหน้าให้กำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 4.9 วินาที มีโฆมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมดได้แก่ ECO /SPORT และ SNOW
มาพร้อมแบตเตอรี่ Blade ขนาดความจุ 43.2Kwh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกลถึง 405 กม. (CLTC) รองรับการชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 40KW ที่ให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ภายใน 30 นาที และรองรับการชาร์จ AC ขนาด 6.6Kw อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี VTOL ซึ่งช่วยให้สามารถจ่ายไฟภายนอกได้สูงสุด 3.3 kW
ระบช่วงล่างด้านหน้าจะเป็นแบบ MacPherson Strut ส่วนด้านหลังจะเป็นแบบ Multi-Link ชุดเบรกหน้า และหลังจะเป็นแบบดิสก์เบรก
BYD e2 Honor Edition MY2024 ยังคงเป็น 1 ในรถในซีรีส์ Ocean ที่ประกอบไปด้วย BYD Dolphin, BYD Seal, Sea Lion และ BYD Seagull สำหรับ e2 Honor Edition จะมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่รุ่น Comfortและรุ่น Luxury เปิดราคาจำหน่้ายในจีนระหว่าง 89,800 – 96,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 4.5 – 4.8 แสนบาท ซึ่งมีราคาถูกว่ารุ่นก่อนหน้าราว ๆ 5 หมื่นบาท เลยทีเดียว