in , ,

Mercedes-Benz G580 ออฟโรดไฟฟ้าสายลุย มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว 588 แรงม้า เร่ง 0 – 100 ใน 4.8 วิ !

Mercedes-Benz G-Wagon (G580) ออฟโรดไฟฟ้ามาพร้อม เทคโนโลยี EQ แรงจัดด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่ให้กำลัง 588 แรงม้า (PS) แรงบิดที่มากถึง 1,165 นิวตันเมตร มากับอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.8 วินาที

Mercedes-Benz G580 EV

Mercedes-Benz เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่ Mercedes-Benz G580 Electric โดยถือเป็นขุมพลังไฟฟ้าครั้งแรกในรุ่น G โดยยังคงมาพร้อมความคลาสสิคด้วยรูปลักษณ์ในสไตล์เดิมแบบทรงกล่อง พละกำลังจัดจ้านร้อนแรงกว่า G63 และ G550 ด้วยพละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีมาถึง 4 ตัว ให้กำลังมากถึง 588 แรงม้า (PS) มาพร้อมแรงบิดสูงุสด 1,165 นิวตันเมตร ส่งผลทำให้มีอัตราเร่งที่จัดจ้านทำเวลาจาก 0 – 100 กม./ชม. เพียง 4.8 วินาที เท่านั้น

Mercedes-Benz G580 EV

ในด้านรูปลักษณ์งานดีไซน์ภายนอกยังคงความคลาสสิคด้วยรูปลักษณ์ในสไตล์เดิมแบบทรงกล่องแบบในรุ่นเครื่องยนต์สันดาป แต่ได้รับดีเทลบางส่วนเพื่อให้บ่งบอกว่าเป้นออฟโรดไฟฟ้า โดยจะมากับกระจัง สีดำแบบปิดทึบ รอบกรอบด้วยเส้นไฟ LED แบบเรืองแสง ที่สะท้อนแนวคิดมาจาก EQG ในปี 2021 

Mercedes-Benz G580 EV

Mercedes-Benz G580 EV

Mercedes-Benz G580 EV

ส่วนด้านท้ายจากที่ติดตั้งล้ออะไหล่ ถูกปรับเปลี่ยนเป็นกล่องเก็บของอเนกประสงค์ โดยจะมีสายชาร์จไฟติดตั้งอยุ่ด้านใน นอกจากนั้นยังสามารถเก็บสัมภาระ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ได้ โดยรองรับน้ำหนักไม่เกิน 10 กก.

Mercedes-Benz G580 EV

Mercedes-Benz G580 EV

นอกจากนั้นถึงแม้งานออกแบบโดยรวมจะเหมือนกับรุ่นเดิม แต่ทางผู้ผลิตจากเยอรมนี ก็ได้ทำการปรับรายละเอียดเล็กน้อย เพื่อให้สอดรับกับหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อให้ตัวถังมีสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ลดลง

Mercedes-Benz G580 EV

Mercedes-Benz G580 EV

Mercedes-Benz G580 EV

โดยเริ่มจากเส้นขอบฝากระโปรงหน้าที่ถูกยกขึ้นเล็กน้อย พร้อมติดตั้งครีบรีดอากาศบริเวณซุ้มล้อคู่หลัง นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วยแถบสีดำที่บริเวณบนเสา A รวมทั้งยังออกแบบในส่วนของสปอยเลอร์หลังคาใหม่ รววมทั้งยังได้รับล้ออัลลอยลายใหม่สีดำขนาด 18 นิ้ว และติดป้าย “EQ” สีเงิน ไว้ที่ด้านท้ายเพื่อให้มีความแตกต่างจากรุ่นปกติ 

Mercedes-Benz G580 EV

Mercedes-Benz G580 EV

ด้านภายในห้องโดยสารยังคงควาามสหรูหราตามแบบฉบับ G-Class ในเวอร์ชั่นปกติ แผงแดชบอร์ดยังได้รับหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมระบบ Mercedes MBUX และรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay อีกทั้งยังคงมากับนระบบสั่งงานด้วยเสียง, ระบบจดจำเสียง และระบบนำทางแบบเรียลไทม์

Mercedes-Benz G580 EV

การตกแต่งภายในยังคงถูกหุ้มด้วยหนัง Nappa ด้านชุดอุปกรณ์จะได้รับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย,  ที่วางแก้วแบบควบคุมอุณหภูม, กล้องรอบคัน 360 องศาที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็น ‘ผ่าน’ ฝากระโปรงหน้าได้, ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Burmester 3D เป็นต้น

Mercedes-Benz G580 EV

Mercedes-Benz G580 EV

ด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะได้รับการติตดั้งมอเตอร์ 4 ตัว อิสระทั้ง 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุดรวม 588 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดรวม 1,165 นิวตันเมตร ตัวรถจะมีอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที มาพร้อมความเร็วสูงุสดที่ 180 กม./ชม. มาพร้อมโหมดการขับขี่ ที่มีให้เลือกทั้ง Comfort, Sport และ Individual และยังมีโหมด Trail และ Rock สำหรับการใช้งานออฟโรด

Mercedes-Benz G580 EV

Mercedes-Benz G580 EV

ขณะที่ชุดแบตเตอรี่จะมีขนาดความจุ 116 kWh ที่ยกมาจาก EQS ในรุ่นซีดาน ที่จะมีระยะวิ่งได้อยู่ที่ราว 380 กม. โดยตัวแบตเตอรี่จะถูกหุ้มด้วยแผ่นกันกระแทกที่ทำจากพลาสติกเสริมคาร์บอนซึ่งมีความแข็งมากกว่าเหล็กหรืออลูมิเนียม ไม่ขึ้นสนิม และมีน้ำหนักเบา

Mercedes-Benz G580 EV

พร้อมรองรับชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10 – 80 % ในเวลา 32 นาที และรองรับการจ่ายไฟไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอกด้วยกำลังสูงสุด 200 kW

Mercedes-Benz G580 EV

ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าจะเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน ส่วนด้านหลังจะมาในแบบ Rigid De-Dion axle นอกจากนั้นยังรองรับการลุยในแบบออฟโรด โดยตัวรถจะมากับ ด้วยมุมชันสูงสุด 35 องศา มาพร้อมมุมไต่ที่ 32 องศา มุมจากที่ 30.7 องศา อีกทั้งยังมีระยะต่ำสุดจากพื้นถึง 250 มม. ที่ช่วยให้สามารถลุยน้ำลึกได้ถึง  33.5 นิ้ว

Mercedes-Benz G580 EV

นอกจากนั้น Mercedes-Benz G580 Electric ยังได้รับการติตดั้งฟังก์ชั่น G-Turn ช่วยให้ตัวรถสามารถลดรัศมีวงเลี้ยวได้อย่างอิสระ มาพร้อมระบบ Differential lock และโช้คอัพที่สามารถปรับระดับความหนืดได้ รวมทั้งยังมา่พร้อมระบบเลี้ยว 4 ล้อ G-Steering     

Mercedes-Benz G580 EV Mercedes-Benz G580 EV

สำหรับ Mercedes-Benz G 580 EV ใหม่นี้ยังมากับรุ่นพิเศษ Edition One ที่มีสีพิเศษจาก Manufaktur ให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีฟ้า South Sea Blue Magno, สีขาว Moonlight White Magno, สีขาว Moonlight White Metallic และสีเทา Arabian Grey และสีแบบธรรมดา 1 สี คือ สีดำ Obsidian Black Metallic โดยไม่ว่าลูกค้าจะเลือกสีไหนก็ตามจะถูกตกแต่งรอบคันด้วยวัสดุสีดำเงา

Mercedes-Benz G580 EV

พร้อมได้รับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีน้ำเงิน และกล่องด้านหลังเป็นชุดอุปกรณ์มาตรฐาน  ขณะที่ภายในจะมาในโทนสีฟ้าและสีเทา

Mercedes-Benz G580 EV

ส่วนภายในห้องโดยสารจะมาในโทนสีฟ้า และเทา พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีฟ้า และยังได้รับการติตดั้งชุดอุปกรณ์สังเคราะห์เครื่องยนต์ หรือ G-Roar เพื่อให้ความรู้สึกตอนเหยียบคันเร่งโดยจะได้ยอสเสียงเหมือนกับขับรถในแบบเครื่องยนต์สันดาป 

Mercedes-Benz G580 EV

สำหรับราคาจำหน่ายของ G-Class ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่นี้ทาง เมอร์เซเดส- เบนซ์ ยังไม่มีการประกาศตัวเลขออกมา แต่คาดว่าจะมีราคาสูงกว่า ในรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายอย่างแน่นอน