Mercedes-Benz เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่ Mercedes-Benz G580 Electric โดยถือเป็นขุมพลังไฟฟ้าครั้งแรกในรุ่น G โดยยังคงมาพร้อมความคลาสสิคด้วยรูปลักษณ์ในสไตล์เดิมแบบทรงกล่อง พละกำลังจัดจ้านร้อนแรงกว่า G63 และ G550 ด้วยพละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีมาถึง 4 ตัว ให้กำลังมากถึง 588 แรงม้า (PS) มาพร้อมแรงบิดสูงุสด 1,165 นิวตันเมตร ส่งผลทำให้มีอัตราเร่งที่จัดจ้านทำเวลาจาก 0 – 100 กม./ชม. เพียง 4.8 วินาที เท่านั้น
ในด้านรูปลักษณ์งานดีไซน์ภายนอกยังคงความคลาสสิคด้วยรูปลักษณ์ในสไตล์เดิมแบบทรงกล่องแบบในรุ่นเครื่องยนต์สันดาป แต่ได้รับดีเทลบางส่วนเพื่อให้บ่งบอกว่าเป้นออฟโรดไฟฟ้า โดยจะมากับกระจัง สีดำแบบปิดทึบ รอบกรอบด้วยเส้นไฟ LED แบบเรืองแสง ที่สะท้อนแนวคิดมาจาก EQG ในปี 2021
ส่วนด้านท้ายจากที่ติดตั้งล้ออะไหล่ ถูกปรับเปลี่ยนเป็นกล่องเก็บของอเนกประสงค์ โดยจะมีสายชาร์จไฟติดตั้งอยุ่ด้านใน นอกจากนั้นยังสามารถเก็บสัมภาระ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ได้ โดยรองรับน้ำหนักไม่เกิน 10 กก.
นอกจากนั้นถึงแม้งานออกแบบโดยรวมจะเหมือนกับรุ่นเดิม แต่ทางผู้ผลิตจากเยอรมนี ก็ได้ทำการปรับรายละเอียดเล็กน้อย เพื่อให้สอดรับกับหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อให้ตัวถังมีสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ลดลง
โดยเริ่มจากเส้นขอบฝากระโปรงหน้าที่ถูกยกขึ้นเล็กน้อย พร้อมติดตั้งครีบรีดอากาศบริเวณซุ้มล้อคู่หลัง นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วยแถบสีดำที่บริเวณบนเสา A รวมทั้งยังออกแบบในส่วนของสปอยเลอร์หลังคาใหม่ รววมทั้งยังได้รับล้ออัลลอยลายใหม่สีดำขนาด 18 นิ้ว และติดป้าย “EQ” สีเงิน ไว้ที่ด้านท้ายเพื่อให้มีความแตกต่างจากรุ่นปกติ
ด้านภายในห้องโดยสารยังคงควาามสหรูหราตามแบบฉบับ G-Class ในเวอร์ชั่นปกติ แผงแดชบอร์ดยังได้รับหน้าจอคู่ขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมระบบ Mercedes MBUX และรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay อีกทั้งยังคงมากับนระบบสั่งงานด้วยเสียง, ระบบจดจำเสียง และระบบนำทางแบบเรียลไทม์
การตกแต่งภายในยังคงถูกหุ้มด้วยหนัง Nappa ด้านชุดอุปกรณ์จะได้รับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, ที่วางแก้วแบบควบคุมอุณหภูม, กล้องรอบคัน 360 องศาที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็น ‘ผ่าน’ ฝากระโปรงหน้าได้, ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Burmester 3D เป็นต้น
ด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะได้รับการติตดั้งมอเตอร์ 4 ตัว อิสระทั้ง 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุดรวม 588 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดรวม 1,165 นิวตันเมตร ตัวรถจะมีอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที มาพร้อมความเร็วสูงุสดที่ 180 กม./ชม. มาพร้อมโหมดการขับขี่ ที่มีให้เลือกทั้ง Comfort, Sport และ Individual และยังมีโหมด Trail และ Rock สำหรับการใช้งานออฟโรด
ขณะที่ชุดแบตเตอรี่จะมีขนาดความจุ 116 kWh ที่ยกมาจาก EQS ในรุ่นซีดาน ที่จะมีระยะวิ่งได้อยู่ที่ราว 380 กม. โดยตัวแบตเตอรี่จะถูกหุ้มด้วยแผ่นกันกระแทกที่ทำจากพลาสติกเสริมคาร์บอนซึ่งมีความแข็งมากกว่าเหล็กหรืออลูมิเนียม ไม่ขึ้นสนิม และมีน้ำหนักเบา
พร้อมรองรับชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10 – 80 % ในเวลา 32 นาที และรองรับการจ่ายไฟไปยังชุดอุปกรณ์ภายนอกด้วยกำลังสูงสุด 200 kW
ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าจะเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน ส่วนด้านหลังจะมาในแบบ Rigid De-Dion axle นอกจากนั้นยังรองรับการลุยในแบบออฟโรด โดยตัวรถจะมากับ ด้วยมุมชันสูงสุด 35 องศา มาพร้อมมุมไต่ที่ 32 องศา มุมจากที่ 30.7 องศา อีกทั้งยังมีระยะต่ำสุดจากพื้นถึง 250 มม. ที่ช่วยให้สามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 33.5 นิ้ว
นอกจากนั้น Mercedes-Benz G580 Electric ยังได้รับการติตดั้งฟังก์ชั่น G-Turn ช่วยให้ตัวรถสามารถลดรัศมีวงเลี้ยวได้อย่างอิสระ มาพร้อมระบบ Differential lock และโช้คอัพที่สามารถปรับระดับความหนืดได้ รวมทั้งยังมา่พร้อมระบบเลี้ยว 4 ล้อ G-Steering
สำหรับ Mercedes-Benz G 580 EV ใหม่นี้ยังมากับรุ่นพิเศษ Edition One ที่มีสีพิเศษจาก Manufaktur ให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีฟ้า South Sea Blue Magno, สีขาว Moonlight White Magno, สีขาว Moonlight White Metallic และสีเทา Arabian Grey และสีแบบธรรมดา 1 สี คือ สีดำ Obsidian Black Metallic โดยไม่ว่าลูกค้าจะเลือกสีไหนก็ตามจะถูกตกแต่งรอบคันด้วยวัสดุสีดำเงา
พร้อมได้รับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีน้ำเงิน และกล่องด้านหลังเป็นชุดอุปกรณ์มาตรฐาน ขณะที่ภายในจะมาในโทนสีฟ้าและสีเทา
ส่วนภายในห้องโดยสารจะมาในโทนสีฟ้า และเทา พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีฟ้า และยังได้รับการติตดั้งชุดอุปกรณ์สังเคราะห์เครื่องยนต์ หรือ G-Roar เพื่อให้ความรู้สึกตอนเหยียบคันเร่งโดยจะได้ยอสเสียงเหมือนกับขับรถในแบบเครื่องยนต์สันดาป
สำหรับราคาจำหน่ายของ G-Class ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่นี้ทาง เมอร์เซเดส- เบนซ์ ยังไม่มีการประกาศตัวเลขออกมา แต่คาดว่าจะมีราคาสูงกว่า ในรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายอย่างแน่นอน