เอ็มจี เตรียมเสริมไลท์อัพใหม่ของ MG4 ELECTRIC ด้วยการเปิดตัว MG4 ELECTRIC XPOWER แฮทช์แบคไฟฟ้า 100% ตัวแรง โดยจะเผยโฉมจริงให้ได้เห็นกันที่ในงาน MG Everyday Electric ก่อนที่จะประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในงาน Motor Show 2024 โดยลุ้นราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท
ส่วนก่อนที่จะไปเจอะเจอตัวจริงทางทีมงาน Autostation.com มีข้อมูลสเปครายละเอียดตัวรถ พร้อมภาพคันจริงเวอร์ชั่นที่จะวางขายในไทยมาให้ชมกันก่อนล่วงหน้า
สำหรับ MG4 XPOWER เป็นรถยนต์ “อีวีสายพันธุ์แท้” ที่มีความโดดเด่นในทุกๆ ตัวรถถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มาพร้อมงานออกแบบใหม่แบบที่เรียกว่า AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN ที่เน้นความสปอร์ต ด้านหน้าจะมากับชุดไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS ส่วนด้านท้ายติดตั้งชุดไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT
ตัวถังจะมาในเฉดสีเขียว Wild Hunter Green หลังคาสีดำพร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING เสริมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ที่รัดด้วยยาง Bridgestone Turanza ด้านในติดตั้งคาลิปเปอร์เบรสีส้ม
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับชุดพาร์ทสีดำเงา Gloss Black รอบคัน ที่ช่วยให้ตัวรถนั้นดูมีความดุดัน และโดดเด่นกว่ารุ่นธรรมดา
มิติตัวรถมีความยาว 4,287 มม. กว้าง 1,836 มม. สูง 1,516 มม. ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มม. อีกทั้งยังมีระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มม. พร้อมออกแบบตัวรถให้มีการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 และ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบด้วยความเรียบง่าย เน้นการใช้งานที่สะดวก แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันรูปแบบใหม่ DUAL PINION ที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า
คอนโซลกลางมาในแบบ FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM ด้านชุดอุปกรณ์ภายในของจะได้รับแท่นชาร์จแบบไร้สาย, กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ, เครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 จุด, ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V, ช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ และหนัง Alcantara สีดำ ฝั่งผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงปรับ 60:40
ในด้านพละกำลังติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อนแบบ AWD มอเตอร์หน้าให้กำลัง 204 แรงม้า มอเตอร์หลังให้กำลัง 231 แรงม้า รวมให้พละกำลังสูงสุดที่ 435 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 200 กม./ชม. มีโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW
มาพร้อมระบบ One Pedal, ระบบ KERS 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งโหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ
ด้านชุดแบตเตอรี่มีขนาดความจุ 64 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 480 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จทั้งแบบ Quick Charge ที่ชาร์จไฟฟ้าขนาด 140 kWh จาก 10% – 80% ใช้เวลาประมาณ 26 นาที และ Normal Charge ขนาด 11 kWh ที่ให้กำลังไฟจาก 10% – 100% ในเวลา 6 ชม. 30 นาที รวมทั้งยังรองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension และระบบเบรอกแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ
ด้านระบบความปลอดภัย และระบยช่วยเหลือการขับขี่ มากับยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ครอบคลุม 23 ระบบ
ทั้งนี้สามารถพบเจอตัวจริงของ MG4 ELECTRIC XPOWER ได้ที่ในงาน MG Everyday Electric ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13-19 มี.ค. นี้ ที่ ลานโปรโมชั่น ฮอลล์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ขณะที่สนนราคาค่าตัวจะถูกประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ที่ภายในงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะไม่เกิน 1.2 ล้านบาท
