Munro Vehicles ผู้ผลิตรถยนต์จากเกาะอังกฤษได้เปิดตัว Munro MK_1 ที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่สะดุดตาด้วยรูปทรงเหลี่ยมแบบกล่องขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้เน้นใช้งานในไร่ในสวน มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า 375 แรงม้า แบตเตอรี่ชาร์จเต็มวิ่งไกลถึง 306 กม.
สำหรับ Munro MK_1 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับขับขี่บนทางวิบากรุ่นแรกของทางบริษัท โดยการสำหรับการมาของ Munro MK_1 ถือว่าเป็นการกลับมายังสกอตแลนด์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ทศวรรษ
ในด้านงานดีไซน์ของ Munro MK_1 จะมารูปทรงเหลี่ยมที่เน้นการใช้งาน มาพร้อมความทนทาน ตัวรถจะเป็นแบบ 5 ประตู ด้านการดีไซน์จะเป็นทรงเหลี่ยมในทุกมุมมอง กระจังหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่แบบปิดทึบ มาพร้อมชุดไฟหน้า LED ฝั่งละ 4 ดวง ดีไซน์ด้านข้างเหมือนรถจี๊ปของทางการทหาร มาพร้อมบันไดข้างขนาดใหญ่ ด้านท้ายออกแบบให้ตัดตรงเน้นความเรียบง่ายมาพร้อมประตูบานท้ายขนาดใหญ่
สำหรับภายในห้องโดยสารจะรองรับผู้โดยสารได้ 5 ที่นั่ง งานออกแบบเน้ความเรียบง่าย ปุ่มสั่งการต่างๆ จะถูกถอดออกจะเหลือไว้เท่าที่จะเป็น อาทิปุ่มเปิดระบบไฟหน้า และปรับไฟสูง-ต่ำ แผงคอนโซลจะได้รับการติดตั้งเพียงแผงหน้าปัดแบบสัมผัสขนาดเล็กที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พวงมาลัยสามาก้านในสไตล์รถซิ่ง นอกจากนั้นติดตั้งพอร์ต USB C 2 พอร์ต, ที่ชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, ปลั๊กสามขาสองจุดที่คอนโซลกลาง
ในด้านพละกำลังของ Munro MK_1 จะมีขุมพลังให้เลือก 2 ขนาด คือ มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 220 – 280 kW หรือประมาณ 295 – 375 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร โดยตัวมอเตอร์จะถูกวางไว้ตรงกลางรถเพื่อมุ่งเน้นที่การลุยแบบออฟโรดอย่างจริงจัง อีกทั้งยังต้องการในตัวรถมีการกระจายน้ำหนักแบบ 50/50
ถึงแม้ว่า Munro MK_1 จะมีสรีระที่ดูบึกบึนใหญ่โตแต่ในด้านอัตราเร่ง 0- 100 กม./ชม. สามารถทำเวลาได้ 4.9 วินาที และเนื่องจากรถได้รับการออกแบบให้เน้นแรงบิดเป็นหลักดังนั้นความเร็วสูงสุดจึงอยู่ที่เพียง 129 กม./ชม. เท่านั้น
แต่สำหรับพละดำในด้านบรรทุกและการลากจูงนั้น Mk_1 ถือว่าเป็นเอสยูวีไฟฟ้าที่มีความสามารถไม่เป็นรองใครโดย รองรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 1,000 กก. และมีวคามสามารถในการลากจูง 3,500 กก.
ในด้านแบตเตอรี่จะมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 61 -82 kWh ให้ระยะทางการวิ่งไกลถึง 306 กม. นอกจากนั้นทาง Munro ยังเผยว่า Mk_1 สามารถลุยทางวิบากได้นานถึง 16 ชม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
ด้านการชาร์จไฟรองรับการชาร์จ DC ขนาด 100 kW โดยจะให้กำลังไฟจาก 15 – 80 % ในเวลา 36 นาที อีกทั้งยังสามรถชาร์จไฟแบบ AC ขนาด 22kW โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ที่จะให้กำลังไฟจาก 15 – 100 % นอกจากนั้นทางผูู้ผลิตยังเคลมอีกว่าแบตเตอรี่ตัวนี้จะสามารถใช้งานได้นานถึง 8 ปี หรือ 100,000 ไมล์ (161,000 กิโลเมตร) โดยตัวแบตเตอรี่ยังคงเก็บพลังงานได้ถึง 80% ของความจุเดิม
สำหรับความแข็งแรงของตัวรถนั้น Munro Mk_1 ถูกสร้างขึ้นบนแชสซีแบบ body-on-frame ระบบช่วงล่างเป็นแบบดิฟเฟอเรนเชียลเซ็นทรัลล็อคมาตรฐาน, ดิฟเฟอเรนเชียลล็อคด้านหน้าและด้านหลังที่เป็นอุปกรณ์เสริม มาพร้อมกล่องเกียร์ 2 สปีด ทำให้ Mk_1 เป็นรถออฟโรดตัวจริง โดยระยะจากพื้นถึง 480 มม. (19 นิ้ว) และสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มม. (31.5 นิ้ว) พร้อมกับมีมุมเข้าหาและมุมออก 84 และ 51 องศา รวมถึงมุมเบรกโอเวอร์ของทางลาด 148 องศา
สำหรับในด้านราคาค่าตัวของ Munro Mk_1 จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 49,995 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.13 ล้านบาท โดยทาง Munro จะผลิตรถออฟโรดไฟฟ้าสายลุยคันนี้เพียงปีละ 250 คันเท่านั้น โดยจะเริ่มส่งมอบรถคันแรกให้กับลูกค้าบนเกาะอังกฤษได้ในช่วงปี 2023 ที่จะถึงนี้
