เอ็มจี มอบข้อเสนอพิเศษสำหรับ MG MAXUS 9 รถเอ็มพีวีลักชัวรี่ ไฟฟ้า 100% แบบ 7 ที่นั่ง ด้วยการปรับลดราคาพิเศษในรุ่น V ที่เป็นรถแบบ Display car ลงถึง 5 แสนบาท จากราคาปกติที่ 2,699,000 บาท เหลือเพียง 2,199,000 บาท นอกจากนี้ใน รุ่น V (สีเทํา 2-Tone) จะมีราคาจำหน่ายที่ 2,229,000 บาท จำนวนจำกัด 100 คัน
นอกจากนี้ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพ และ โปรโมชั่น
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 4 ปี หรือ 120,000 กม.
- รับประกัน มอเตอร์ขับเคลื่อน และ แบตเตอรี่ High-Voltage ตลอดอายุการใช้งาน
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- ฟรี MG Home Charger พร้อมบริการติดตั้ง
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
- ฟรี ค่าบริการ i-SMART 5 ปี
สำหรับ MG MAXUS 9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบเอ็มพีวี โดยรุ่นี่เปิดวางขายในไทยจะมีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น X – LUXURY และ รุ่น V – SUPER LUXURY
ในด้านรูปลักษณ์จะมากับดีไซน์ที่ดูหรูหรา โฉบเฉี่ยว และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวรถจะมากับกระจังหน้าแบบ Grille Less Design ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบ LED ทั้งระบบ มาพร้อมไฟ DRL ที่เป็นเส้นเรียวยาวพาดใต้ฝากระโปรงหน้า พร้อมตีตราแบรนด์ไว้ที่ปลายฝากระโปรง ในส่วนกันชนหน้าออกแบบให้มีขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยชุดไฟส่องสว่าง
ประตูข้างทั้ง 2 ฝั่งเป็นแบบสไลด์ด้วยไฟฟ้า ตกแต่งด้วยชิ้นงานโครเมียมที่ชายขอบบันไดข้างตัวรถ และคิ้วกันชนหลัง เสริมความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยโครเมียมขนาด 18-19 นิ้ว ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย
ด้านท้ายจะเป็นอีกจุดที่ดูโดดเด่น โดยจะมากับไฟท้าย LED แบบ Galaxy Halberd Fantasy ที่ดีไซน์เป็นแนวยาวรูปตัว Y มาพร้อมฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
ในด้านมิติตัวรถมีความยาว 5,270 มม., กว้าง 2,000 มม., สูง 1,840 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,200 มม.
การตกแต่งภายในมากับความพรีเมี่ยม หรูหรา กว้างขวาง โปร่โล่ง ไม่อึดอัด ห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารปรับอัตโนมัติ 4 ทิศทาง และเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ VIP Captain Seat ที่มีระบบบันทึก ระบบนวด และสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามต้องการ
โดยในส่วนตัวเบาะจะถูกหุ้มด้วยหนัง Nappa นอกจากนั้นยังติดตั้งหน้าจอควบคุมไว้ที่บริเวณที่พักแขนของตัวเบาะนั่ง และพร้อมโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้
ในส่วนแผงแดชบอร์ดของ MG MAXUS 9 ยังออกได้ด้วยความทันสมัย และเรียบง่าย มีหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ขนาดขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay แบบมีสาย มาพร้อมแผงมาตรวัดดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัวอยู่ด้านหลังพวงมาลัยหนังมัลติฟังก์ชั่น อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงข้อมูลแบบ HUD และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน
ด้านชุดอุุปกรณ์ต่าง ๆ ของ MG MAXUS 9 จะได้รับ ช่อง USB มากถึง 9 ตำแหน่ง, กระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror, แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, เครื่องฟอกอากาศ, กระจกรอบคันเป็นแบบ Rear Privacy Glass, ชุดไฟ Ambient Light 64 สี
ระบบเครื่องเสียงที่มาพร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ปิดท้ายด้วยหลังคา Dual Panoramic Sunroof ยาวถึงด้านหลังทำให้ห้องโดยสารดูโปร่งโล่ง
ขุมพลังของ NEW MG MAXUS 9 จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวขนาด 180kW ติดตั้งไว้ที่คู่ล้อหน้า ให้กำลัง 245 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร มีโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมดทั้ง Normal, Eco และ Sport
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่จัดวางแบบ Cell-To-Pack โดยมีขนาด 90kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกล 540 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ AC ขนาด 11 kW โดยชาร์จไฟจาก 5% – 100% ในเวลา 8.5 ชม. และรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ขนาด 120 kWh ที่จะให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ในเวลา 30 นาที
พร้อมมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ Full Space Frame ถุงลมนิรภัยรอบคัน และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสูงอย่าง ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADAS รวม มากถึง 25 ระบบ โดย NEW MG MAXUS 9 ได้รับมาตรฐาน 5 ดาว ทั้ง EURO NCAP และ AUSTRALIAN NCAP
MG MAXUS 9 รุ่น V จะมีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ และสีขาว และสีพิเศษเทาหลังคาดำ แกรนิต เกรย์