ขณะที่ในบ้านเรากำลังจะต้อนรับการมาของ ORA 07 (ORA Grand Cat) เจ้าแมวสปอร์ตไฟฟ้า หรือชื่อในเมืองจีนจะเรียกว่า ORA Lightning Cat ส่วนในตลาดยุโรปจะรู้จักกันในชื่อว่า ORA Next Cat โดยจะได้รับการในไทยในเร็ววันนี้
ส่วนในตลาดเมืองจีนบ้านเกิดเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าโดยทาง GWM ได้เปิดตัวแพ็คเกจพิเศษของ ORA Lightning Cat ออกมา โดยใช้ชื่อว่า Dark Night Edition โดยแพ็คเกจใหม่นี้ จะมาพร้อมกับชุดแต่งสีดำรอบคัน ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร โดยแพ็คเกจชุดแจ่งใหม่นี้จะมีให้เลือกใส่ได้ทั้งในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ รุ่น AWD โดยเปิดราคาจำหน่ายอยู้ที่ระหว่าง 176,300 – 241,300 หยวน หรือประมาณ 8.76 แสน – 1.19 ล้านบาท
สำหรับ ORA Lightning Cat Dark Night Edition 2024 จะมาในโทนเฉดสีดำ Dark Night Black แบบสีดำด้าน พร้อมกับตัดชุดแถบโครเมียมที่ตกแต่งอยู่ชายด้านล่างตัวรถออก ทั้งที่บริเวณช่องกรอบช่องดักลมหน้า และที่ชายของบันไดข้าง
มาพร้อมกับล้ออัลลอยลายใหม่สีดำขนาด19 นิ้ว รัดด้วยยาง Michelin PS EV เสริมความดุดันด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ที่เน้นให้ตัวรถดูสปอร์ตมากกว่าเดิม
ขณะที่งานดีไซน์ตัวรถยังคงเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบที่ตรงตามหลักอากาศพลศาสตร์ ฝากระโปรงหน้าทรงหยดน้ำที่เว้าลง และนูนขึ้นทั้งสองด้าน เมื่อรวมกับไฟหน้าทรงกลมแบบเรโทรทำให้เกิดเป็นความสปอร์ตอย่างเต็มพิกัด ไฟหน้า Intelligent LED ทรงกลมดีไซน์โดดเด่น
ดีไซน์ด้านข้าง ได้รับการออกแบบให้หน้าต่างด้านข้างโค้งสูง มีเส้นโดยรอบทั้งคัน เน้นความหรูหรา และความสปอร์ตเร้าใจ มาพร้อมหน้าต่างไร้กรอบที่เป็นกระจกแบบ 2 ชั้น โดยจะเลื่อนลงเมื่อเปิดประตู และเลื่อนปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดประตู เพิ่มความสปอร์ตไปอีกขั้น
หลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ มาพร้อมคุณสมบัติช่วยลดแสงและความร้อน พร้อมช่วยดูดซับเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนภายในห้องโดยสารอีกด้วย
ดีไซน์ด้านหลัง ถูกออกแบบด้วยดีไซน์ Slip-Back ทำให้ตัวรถดูสปอร์ตขึ้น ด้วยรูปทรงที่ดูเพรียวบางจะช่วยลดแรงต้านลม และช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่
ในด้านมิติตัวรถจะมีตัวถังขนาดใหญ่ โดยมีระยะฐานล้อยาวถึง 2,870 มม. และความยาวตัวรถ 4,871 มม. ความกว้าง 1,862 มม. ความสูง 1,500 มม. ในขณะที่ความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) อยู่ที่ 125 มม.
ภายในห้องโดยสารของ ORA Lightning Cat Dark Night Edition ก็๋ได้รับการออกแบบให้สอดรับความสปอร์ต แบบเดียวกับตัวถังภายนอกที่มาในโทนสีดำ โดยภายในละทิ้งโทนสีอ่อนแบบเดิม และหันไปใช้โทนสีดำทั้งหมด ในส่วนคอนโซลด้านบนคอนโซลหน้า แถบเสา A ด้านใน แผงประตู และผนังหลังคาจะถูกหุ้มด้วยหนังผ้าหนังกลับสีดำ
ส่วนตัวเบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยหนังสังเคาระห์ และผ้าที่ระบายอากาศสีดำ พร้อมเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง เสริมความร้อนแรงด้วยสายเบลสีแดงทุกจุด พร้อมกับตกแต่งด้วยวัสดุลายเคฟล่าที่คอนโซลกลาง
ขณะที่ด้านชุดอุปกรณ์ภายในยังอยู่ครบเหมือนกับรุ่นมาตรฐานที่นำมาตกแต่งทั้ง หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth และระบบนำทาง พร้อมติดตั้งซอฟแวร์ใหม่ด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 มาพร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอ Head-up display ที่สะท้อนข้อมูลไปยังกระจกบังลมหน้า
นอกจากนั้นยังคงได้รับเครื่องเสียงพร้อม HARMAN พร้อมลำโพง11 ตำแหน่ง, กุญแจ Keyless, เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ ที่มากับระบบฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี, ระบบจดจำใบหน้า, กล้องมองภาพ 360 องศา, การเชื่อมต่อระยะไกลผ่านแอพ GWM Ora, เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อนและระบายอากาศพร้อมปรับด้วยไฟฟ้า และประตูท้ายปิด-เปิดด้วยด้วยไฟฟ้าพร้อมเซ็นเซอร์เท้า
สำหรับระบบความปลอดภัย มากับระบบช่วยเหลือการขับขี่ ORA-PILOT 3.0 ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ 28 ตัว รวมถึงกล้อง ADAS 1 ตัว, กล้องเรดาร์คลื่น 5 มม. เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว กล้องมองภาพรอบทิศทาง 4 ตัว โซลูชันสร้างแผนที่ความแม่นยำสูงผ่านดาวเทียม 5G
ในด้านพละกำลังของรุ่น Dark Night Edition แมวดำสายฟ้า จะมีให้เลือก 2 รูปแบบ ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยในรุ่นมอเตอร์เดี่ยวจะติดตั้งไว้ที่คู่ล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 150kW หรือประมาณ 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร
ขณะที่ในรุ่นมอเตอร์คู่วางอยู่ทั้งเพลาคู้ล้อหล้าและหลังให้กำลัง 300kW หรือประมาณ 402 แรงม้า แรงบิด 680 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที
ด้านแบตเตอรี่จะเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมความจุขนาด 83.5kWh จะให้ระยะทางการวิ่งโดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ในรุ่น ดีลักซ์จะมีระยะทางอยู่ที่ 555 กม. ส่วนในรุ่นพรีเมียมจะวิ่งได้ระยะทาง 705 กม. ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 600 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
ด้านราคาจำหน่าย ORA Lightning Cat Dark Night Edition ในตลาดเมืองจีน ทางเกรทวอลล์มอเตอร์ประเทศจีน เปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่ระหว่าง 176,300 – 241,300 หยวน หรืออยู่ที่ราว ๆ 8.76 แสน – 1.19 ล้านบาท