หลังจากที่ Toyota Innova ZENIX ใหม่ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา และล่าสุดกำลังจะได้รับการเปิดตัวในบ้านเราช่วงกลางเดือน กรกฎาคมนี้
แต่ในประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านใกล้เคียง ก็ได้ชิงลงมือเปิดตัว ตัดหน้าไปก่อนเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Toyota Innova ZENIX ในมาเลเซียนั้นจะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และไฮบริด 2.0 ลิตร เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 165,000 – 202,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือราว 1.2 – 1.5 ล้านบาท เมื่อคิดเป็นเงินไทย
สำหรับ Innova Zenix ที่ถูกเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายในมาเลเซีย จะเป็นรถนำเข้า CBU จากอินโดนีเซียทั้งคัน รวมถึงรูปลักษณ์หน้าตาก็ยก และถอดแบบกับรุ่นที่วางจำหน่ายในดินแแดนอิเหนา
โดย Toyota Innova Zenix นี้จะเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มใหม่ TNGA แบบยูนิบอดี้ โดยในเจนฯที่ผ่านมา จะเป็นโครงสร้างแบบ Monocoque พื้นฐาน TNGA Platform ที่เหมือนกับของ Hilux และ Fortuner
นอกจากนี้ Innova Zenix ยังได้รับการปรับเปลี่ยนจากรถขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กลายเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหน้า
ในด้านมมิติตัวรถ ได้ปรับความยาว /ความกว้าง และระยะฐานล้อให้มากขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมา โดยมีความยาวอยู่ที่ 4,755 มม. (+20 มม.) /ความกว้าง 1,850 มม. (+20 มม.) และระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร (+100 มม.) ขณะที่ความสูงยังคงเดิมที่1,795 มม. รวมถึงระยะต่ำสุดถึงพื้น หรือ Ground Clearance จะอยู่ที่ 185 มม.
สำหรับดีไซน์รูปลักษณ์หน้าตา มาในสไตล์ที่คมเข้มเหมือนกับรถแบบเอสยูวี กระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้นทรงหกเหลี่ยมที่ด้านในแบบลวดลายแบบลายรังผึ้ง ซึ่งดูคล้ายกับใน Toyota Corolla Cross ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า LED แบบกว้างทรงเรียวยาวที่เชื่อมติดกับในส่วนกระจังหน้า ฝากระโปรงหน้าดีไซน์ให้มีเส้นสายที่ดูเฉียบคม กันชนหน้ามาพร้อมช่องไอดีที่ทันสมัย เสริมด้วยชุดไฟ DRLs LED ที่เป็นเส้นเรียวยาว
ซุ้มล้อถูกตีโป่งทำให้ตัวรถดูมีมัดกล้ามเหมือนรถเอสยูวีสายลุยมาพร้อมขอบซุ้มล้อสีดำ สอดรับกับล้ออัลลอยที่มีขนาด 18 นิ้ว ส่วนด้านท้ายมากับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่ทรงเรียวยาวที่ดูโฉบเฉี่ยว มาพร้อมประตูท้ายขนาดใหญ่ที่เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสารของ Innova Zenix เวอร์ชั่นมาเลเซียในรุ่น 2.0 V จะเป็นเบาะแบบ 3 แถว 8 ที่นั่ง เบาะหลังเบาะได้แบบ 60 : 40 ขณะที่ในรุ่น 2.0 HEV จะเป็นบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (2+2+3) โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 ตรงกลางจะเป็นเบาะนั่งแบบกัปตันซีท เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับอิสระแบบ 50 : 50
แผงแดชบอร์ดได้รับการออกแบบใหม่ คอนโซลกลางจะเป็นแบบลอยตัวที่ถูกยกเข้าไปติดกับคอนโซลหน้ามาพร้อมคันเกียร์ และติดตั้งปุ่มปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่, ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Brake Hold
คอนโซลหน้าจะได้รับการติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว (ขนาบข้างด้วยหน้าปัดอนาล็อก) มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์จะถูกตั้งวางแบบลอยตัวอยู่ตรงกลางมีขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto แบบมีสาย
ด้านชุดอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆของ Inonva ใหม่จะได้รับระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, กระจกมองหลังแบบปรับไฟฟ้า (ป้องกันแสงสะท้อน), หลังคากระจก Panoramic Retractable Roof
ที่วางแก้วครบทุกที่นั่ง,ช่องเสียบ USB-C, บนหลังคาเหนือแถวกลางมีแถบไฟสีน้ำเงินสองแถบ – สวิตช์เปิด/ปิดจะรวมอยู่กับส่วนควบคุม AC ด้านหลัง, กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา และกล้องบันทึกการขับขี่ด้านหน้า (DVR) เป็นต้น
สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายจะมีขนาดความจุอยู่ที 239 ลิตร และจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 690 ลิตรเมื่อพับเบาะแถวที่สามลง
ในด้านความปลอดภัยจะมากับ จะได้รับการติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และ ระบบ Toyota Safety Sense 3.0 อาทิระบบป้องกันการชนล่วงหน้า, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนการออกนอกเลน, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน และระบบช่วยจดจำป้ายจราจร
ในด้านพละกำลังในรุ่น 2.0 V จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT
นอกจากนั้นยังมีขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดรหัส M20A-FXS ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Dual VVT ที่ให้กำลัง 113 แรงม้า ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมที่186 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 207 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ e-CVT
สำหรับ Toyota Innova ZENIX ในมาเลเซียจะมีราคาจำหน่ายระหว่าง 165,000 – 202,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว 1.2 – 1.5 ล้านบาท
ส่วน All-New Toyota Innova สเปคเมืองไทยจะมีออปชันมากน้อย หรือแตกต่างจากในมาเลเซียอย่างไร รวมทั้งจะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่เท่าไหร่อีกไม่นา่นเกินรอได้รู้กันอย่างแน่นอน โดยทางทีมงาน Autostation.com จะนำเสนอให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง