เมื่อวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2566 ทาง GAC AION (จีเอซี ไอออน) ได้เชิญสื่อมวลชนจากประเทศไทย เข้าเยี่ยมชมโรงงาน และเทคโนโลยีความก้าวหน้าด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 100% ที่สำนักงานใหญ่ AION ณ เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน
สำหรับ GAC AION นั้นเป็นแบรนด์รถยนต์บริษัทลูกของทาง Guangzhou Automobile Group Co., Ltd.’(GAC Group) หรือกว่างโจว ออโตโมบิล ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์พลังงานใหม่ ที่มีระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ และได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยานยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำของโลก โดยมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี มากกว่า 120%
โดย GAC AION ในปี 2565 สามารถสร้างยอดขายรถได้มากถึง 271,200 คัน เพิ่มขึ้น 97% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงสิงหาคม 2566 GAC AION มียอดขายสูงถึง 299,390 คัน นับเป็นรายได้รวมทั้งหมด 38.7 พันล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 103% และก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 2 ในอุตสาหกรรมยานยนต์
สำหรับในประเทศไทยนั้นทาง GAC AION ได้บุกตลาดเมืองไทยด้วยการเปิดตัว AION Y Plus รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มาในรูปแบบเอสยูวีอเนกประสงค์ ชูจุดเด่นด้วยโครงสร้างแพลตฟอร์มไฟฟ้า AEP ทำให้สามารถขับขี่ได้ไกล และมีความปลอดภัยสูงด้วย Magazine Battery เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ที่เป็นนวัตกรรมของทาง GAC AION โดยล่าสุดเพิ่มมีโปรโมชั่นเด็ดหั่นราคาลง 1 แสนบาท ทำให้รุ่นเริ่มต้นราคาเพียง 969,900 บาท จำกัด 1,000 คันแรกเท่านั้น
และเพื่อให้ได้ประจักษ์กับความยิ่งใหญ่ และความทันสมัย รวมถึงรับรู้ของข้อมูลนวัตกรรม และเทคโนโลยีทีทันสมัยทาง GAC AION ที่จะนำเสนอให้กับลูกค้า ทาง GAC จึงได้เชิญสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมโรงงาน และศูนย์ R&D รวมทั้งความก้าวหน้าของด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ของทางบริษัทที่เมืองกว่างโจว
สัมผัสแรกบนอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของ GAC AION
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปยังโรงงานของทาง GAC AION ต้องบอกว่าเป็นโรงงานที่มีทั้งความยิ่งใหญ่ และความทันสมัย ผสานเข้าไว้อย่างลงตัว แต่ก่อนที่จะไปเดินชมตัวโรงงาน และสายการผลิตของแบรนด์ GAC AION นั้น ก็มีทางผู้บริหารของทาง GAC AION อย่าง มร. เฉิน วาน ผู้อำนวยการธุรกิจระหว่างประเทศ และคุณหรรรษา แซ่ซึ้ง ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโสประจำประเทศไทย กล่าวในการต้อนรับคณะสื่อมวลชน
พร้อมกับนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดังของทางแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมาจัดแสดงโชว์ตัว ให้บรรดาสื่อมวลชนชาวไทย ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด
ไม่ว่าจะเป็น GAC AION Y Plus เอสยูวีที่นำมาจำหน่ายในบ้านเรา รวมทั้ง GAC AION Hyper GT ว่าที่รถสปอร์ตตัวใหม่ที่มีโอกาสจะนำเข้ามาขายในไทยในอนาคต อีกทั้งยังมี GAC AION Hyper HT เอสยูวีไฟฟ้าสุดหรูประตูเปิดแบบปีกนก และ GAC AION Hyper SSR ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า ที่มีอัตราเร่งจาก 0 -100 กม./ชม .ในเวลา 1.9 วินาที ซึ่งที่ว่ามาทั้งหมเจะถูกนำมาจัดแสดงในประชาชนชาวไทยได้เห็นกันอย่างแน่นอนที่ในงาน Motor Expo 2023 ที่จะมีขึ้นปลายเดือน พ.ย. นี้
สำหรับบริษัท Guangzhou Automobile Group หรือ GAC (จีเอซี) นั้นถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยมุ่งเน้นการพัฒนา EV (รถยนต์ไฟฟ้า100%) เป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทยานยนต์แบบครบวงจร ภายใต้ GAC Group มีแบรนด์รถยนต์ในเครือมากมายหลายแบรนด์ อาทิ GAC AION, GAC Hyper, GAC Trumpchi, GAC Toyota, GAC Honda นอกจากนี้แล้ว ในเครือมีธุรกิจ R&D โรงงานผลิตและขายยานยนต์แบบครบวงจร โดยตัวโรงงานบริษัท AION แห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 3,200 ไร่ และพื้นที่โรงงานผลิตรถยนต์กว่า 753,000 ตร.ม.
นอกจากนั้นในปี 2022 หรือในปี 2565 ที่ผ่านมาทาง GAC GROUP ได้ผลิต และการขายรถไปมากกว่า 2.4 ล้านคัน โดยมีรายได้มากกว่า 2.5 ล้านล้านบาท อยู่ในอันดับที่ 165 ในกลุ่ม Fortune Global 500 (เป็นการจัดอันดับบริษัทชั้นนำระดับโลกของนิตยสาร Fortune)
สำหรับการคาดหมายในปีนี้ ทางบริษัทคาดว่าจะมีการผลิต และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้ประมาณ 600,000 คัน ซึ่งติด 1 ใน 3 อันดับแรกของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของโลก
ในปัจจุบัน AION มีรถยนต์ไฟฟ้า 2 แบรนด์ ได้แก่ แบรนด์ AION ซึ่งเน้นรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ง่ายและมีคุณภาพ และแบรนด์ Hyper ซึ่งเน้นดีไซน์และความหรูหรา ทั้ง 2 แบรนด์ครอบคลุมทุกช่วงราคา ตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน
ไลน์การผลิตที่มีความทั้งไฮเทคล้ำสมัย และปลอดภัยด้วยระบบ AI
สำหรับในการเยี่ยมชมโรงงานครั้งนี้เราได้ใช้เส้นทางการเดินเยี่ยมชม สายการผลิตทั้งหมดของโรงงาน AION บนเส้นเดียวกับท่านประธานสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มาเยี่ยมชมโรงงานแห่งนี้เมื่อเดือเมษายนที่ผ่า่นมา
ในสายการผลิตรถของทาง GAC AION จะใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะแบบ A.I. (Artificial Intelligence) ช่วยในการควบคุมการผลิตที่มีความแม่นยำ และรวดเร็ว ตัวสายการผลิตสามารถประกอบแบบสลับรุ่น หรือสลับสีได้ และแต่งตามออปชั่นที่แตกต่างกันได้ ทั้งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน พร้อมกับสามารถประกอบตามออเดอร์ และคำสั่งจากดีลเลอร์ หรือตัวแทนจำหน่าย รวมถึงลูกค้า ได้ตามความต้องการ
ขณะที่โดยขบวนการผลิตประกอบในส่วนของตัวถังนั้นจะใช้หุ่นยนต์ในการประกอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อม ตรวจสอบ โดยในสายการผลิตรถทั้งคันนั้นจะใช้เวลาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเสร็จออกมาเป็นคันโดยจะใช้เวาลต่อคัยอยู่ที่ 3 ขั่วโมงเศษๆ โดยในแต่ละสเตชั่นจะใช้เวลาเพียง 53 วินาที ในการประกอบ ซึ่งจะมีทั้งหมด 216 สเตชั่น
และที่สำคัญตลอดระยะเวลาการเดินเยี่ยมชมโรงงานผลิน ประกอบตัวรถนั้นแทบจะไม่ได้กลิ่นไหม้ของการเชื่อม และอ๊อกตัวรถ รวมทั้งเสียง และประกายไฟ ที่มีมาให้เห็น และได้ยินที่ได้น้อยมาก เพราะการทำงานทุกอย่างนั้นถูกควบคุม และสั่งงานจากระบบ A.I. จึงให้ความมั่นใจ และปลอดภัยในทุกการก้าวย่างที่เดินเยี่ยมชมอยู่ในโรงงงานแห่งนี้
นอกจากนี้ทาง GAC AION ยังเปิดดฮกาสให้คณะสื่อมวลชนชาวไทยเข้าไปชมไลน์การผลิต Aion Hyper SSR ซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่มากับอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 1.9 วินาที โดยในไลน์การผลิตของ รุ่น SSR นั้นจะเป็นการผลิตแบบ Handmade ด่้วยมือทั้งคันโดยไม้ใช้เครื่องจักรเลย ซึ่ง Aion Hyper SSR รนั้นก็จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่ทาง GAC AION เตรียมนำมาจัดแสดงไว้ที่ในงาน Motor Expo 2023 ในช่วงปลายเดือย พ.ย. นี้
แบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยที่สุดในโลก
หลังจากที่เดินเยี่ยมชมไลน์การประกอบ ก็เดินทางมาถึงจุดประกอบชุดแบตเตอรี่ ทีเป็นหัวใจหลักของรถยนต์ไฟฟ้า โดยชุดแบตเตอรี่ของทาง GAC AION จะเป็นชุด Magazine Battery เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก และเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ GAC AION
สำรับชุด Magazine Battery คือเทคโนโลยีความปลอดภัยของแบตเตอรี่ทั้งระบบ ตั้งแต่ขั้น “เซลล์ โมดูล และ Pack” วัสดุเซลล์ของ Magazine Battery ที่ทนความร้อนเพิ่มขึ้น 30% มาพร้อมโมดูลกันความร้อนมากขึ้น เซลล์แบตเตอรี่ข้างเคียงไม่เกิด Thermal runaway PACK โดยตัวแบตเตอรี่จะระบายความร้อนได้เร็วขึ้น โดยมีพื้นที่ระบายความร้อนเพิ่มขึ้น 40% ประสิทธิภาพการระบายความร้อนเพิ่มขึ้น 30% ตัวเคสด้านบนทนความร้อนถึง 1,400 องศา พร้อมติดตั้งระบบจัดการแบตเตอรี่ BMS รุ่นที่ 4 และระบบระบายความร้อนทันทีสามตำแหน่ง (ส่วนหน้า ส่วนกลาง ส่วนหลัง) รวมถึงการจัดการแบตเตอรี่ที่อัจฉริยะยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นทางบริษัทยังเคลมว่าการซีลกันน้ำของตัวแบตเตอรี่นั้นจะกันน้ำในระดับ IP67 และสามารถแช่น้ำได้นานกว่า 6 ชั่วโมง โดยไม่มีความเสียหาย
โดยชุด Magazine Battery ของทาง GAC AION นั้นตั้งแต่นำมาใช้ติดตั้งในรถไฟฟ้าของทางค่ายนั้น ยังไม่เคยเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการระเบิด หรือไฟไหม้เลยสักครั้งเดียว จึงให้ความมั้นใจถึงความปลอดภัยขั้นสูงุสด โดยชุดแบตเตอร์รี่ดังกล่างรุ่นนี้ก็ได้ถูกนำเข้ามาติดตั้งบนตัว AION Y Plus ที่เป็นเอสยูวีไฟฟ้าที่มีวางจำหน่ายในบ้านเราขณะนี้
ทดลองนั่งรถสปอร์ตไฟฟ้า ก่อนเข้ามาในไทย
หลังจากเสร็จสิ้นการชมโรงงานอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว ทาง GAC AION ก็ได้ให้เหล่าสื่อมวลชนชาวไทยได้ทดลองนั่ง (เสียดายที่ไม่ได้ทดลองขับ) AION และ Hyper รถยนต์ไฟฟ้า 2 แบรนด์ดังของทาง GAC โดยในการทดลองครั้งนี้จะมีมาทั้งในรุ่น AION LX Plus, AION V Plus และ Hyper GT สปอร์ตไฟฟ้าที่แฟน ๆ ชาวไทยจะได้เห็นตัวจริงเร็ว ๆ นี้
โดยทาง GAC จะให้ทดลองนั่งเพื่อสัมผัสความเร็ว และร้อนแรง อัตราเร่งของยนตกรรมไฟฟ้าในสนามทดสอบของ GAC AION
เทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะแบบไร้คนขับ
นอกจากนี้ยังได้สาธิตโชว์เทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะแบบไร้คนขับของ AION V Plus โดยความดีงามของระบบช่วยจอดนี้จะถูกสั่งงานจากสมาร์ตโฟน โดยตัวระบบจะถูกบันทึกความทรงจำจากเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้ครั้งแรก โดยเมื่อผู้ขับขี่จากจุดเริ่มไปยังจุดจอดรถ แล้วขับมายังจุดเริ่มอีกครั้ง เพื่อให้ตัวระบบจดจำเส้นทางที่บันทึกไว้
หลังจากนั้นเมื่อทุกอย่างถูกบันทึกไว้แล้ว ผู้ขับขี่ก็สามารถจอดรถจากจุดเริ่มต้น แล้วให้รถเคลื่อนที่อัตโนมัติไปยังจุดจอดที่เรามาร์คไว้ รวมทั้งยังสามารถสั่งรถจากจุดจอดมายังผู้ขับขี่ที่ยืนรออยู่ที่จุดเริ่มต้นได้โโยไม่ต้องมีคนขับ โดยเราสามารถรีเซทปรับตำแหน่งจอกรถรับ – ส่งได้ตลอดเวลา และทุกที่ โดยในละแวกนั้นจะต้องมีสัญญาณนะบบโทรศัพท์ และระบบนี้จะมีรัศมีสั่งงานอยุ่ที่ไม่เกิน 150 เมตร
โดยระหว่างเส้นทางก็ไม้ต้องกังวลในเรื่องของอุบัติเหตุ เพราะตัวระบบจะมีเซนเซอร์ และกล้องรอบคันช่วยตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย โดยมีการตัดหน้ารถระจะสั่งเบรกอัตโนมัติโดยทันที จากนั้นก็จะเดินหน้าต่อมาถึงยังจุดหมายที่กำหนดไว้
ชมศูนย์ R&D ที่สุดไฮเทค
หลังจากที่เยี่ยมโรงงาน พร้อมกับทดลองนั่งรถยนต์ไฟฟ้า และสัมผัสกับนวัตกรรมสุดไฮเทคของ GAC AION ไปแล้ว จากนั้นทางคณะสื่อมวลชน ก็เดินทางกันไปอีกเล็กน้อยด้วยรถบัส มุ่งหน้าสู่ ศูนย์ R&D ซึ่งน่าเสียดายที่ในจุดนี้ไม่สามารถบันทึกภาพได้
แต่จากที่ได้เดินชมภายในต้องบอกว่าสถานที่นี้ ดูอลังการ และเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจเป้นอย่างมาก เพราะจะถูกบรรจุไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจสอบรถว่าอยุ่จุดไหนของประเทศ หรือระบบเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติไร้คนขับ ADIGO PILOT ที่ในปัจจุบันถูกใช้อยู่บนรถ Taxi ที่มีให้บริการมากถึง 60 คัน ทั่วเมืองกวางโจว
นอกจากนี้ภายในศูนย์ R&D ยังมีการโชว์ของรถยนต์ต้นแบบไว้หลากหลายรุ่น ที่แต่ละคันนั้นดูแปลกตา และสุดล่ำ โดยในอนาคตคาดว่ารถต้นแบบเหล่านี้จะถูกพัฒนาต่อยอดให้กลายมาเป็นรถยนต์โปรดักชั่นคาร์ต่อไป
ปิดท้าย GO-VE รถยนต์บินได้ และหุ่นยนต์เล่นกู่เจิง
สำหรับในทริปนี้การเดินทางเยือนอาณาจักร GAC AION เราจะปิดท้ายด้วยการเข้าชมพิพฺธภัณฑ์วิทยาศ โดยเมื่อเดินเข้าไปสิ่งแรกที่จะจอดอยู่อย่างโดดเด่นจะเป็นรถต้นแบบ และรถที่อยู่ในสังกัดของทาง GAC ทั้ง GAC Honda และ GAC Toyota และที่เป็นไฮไลท์ก็คือ GAC GOVE รถแนวคิดใหม่ สำหรับการเดินทางในอนาคต ซึ่งมีลักษณะเป็นพาหนะสำหรับการเดินทางบนพื้นดิน และท้องฟ้าที่สามารถแยกส่วนห้องโดยสารออก เพื่อการเดินทางบนท้องฟ้าได้
โดย GAC GOVE เป็นตัวย่อมาจาก GAC’s on-the-go, Vertical-flight, Electric Vehicle ถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นแชสซีส์ที่มีล้อซึ่งเป็นเหมือนฐาน โดยมีห้องโดยสารลักษณะเหมือนพอดอยู่ด้านบนสำหรับการเดินทางทั้งบนพื้นดิน
โดยสามารถแยกส่วนพอดออกจากแชสซีส์ได้เพื่อการเดินทางบนท้องฟ้า ในขณะที่ส่วนพอดมีลักษณะเป็นห้องโดยสารที่นั่งเดียวที่มี 6 ใบพัดในลักษณะคล้ายโดรน พร้อมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีการบินอัตโนมัติ ADiGo-Pilot ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเพื่อให้เจ้าของสามารถเดินทางไปยังจุดหมายได้เร็ว และสะดวกขึ้น
นอกจากนั้นทาง GAC ยังได้โชว์เทคโนโลยีสุดไฮเทคปิดท้ายด้วยหุ่นยนต์ที่สามารถเล่นกู้เจิง ได้เพราะ และพริ้วไหว เหมือนกับใช้คนเล่นจริง ๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับผุ้ที่สนใจสามารถร่วมเข้าชมทเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของทาง GAC AION ได้อย่างใกล้ชิดที่ในงาน Motor Expo 2023 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย. ถึงวันที่ 11 ธ.ค. นี้ แล้วคุณจะได้สัมผัสเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ่าแบบของแท้ และของจริง อย่างที่ผู้เขียนได้ไปเจอของจริงที่ในเมืองจีนมา