เอ็มจี ประกาศเปิดตัว NEW MG IM6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าดีไซน์หรู สเปคพวงมาลัยขวาครั้งแรกของโลกในไทย มีทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว 295 แรงม้า และคู่ที่ให้กำลังแรงถึง 787 แรงม้า แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 75 / 100 kWh ชาร์จไฟวิ่ง 550 / 634 กม.
ราคาจำหน่าย NEW MG IM6
- รุ่น Premium 2WD ชาร์จไฟวิ่งไกล 550 กม. ราคา 1,399,900 บาท
- รุ่น Performance AWD ชาร์จไฟวิ่งไกล 634 กม. ราคา 1,799,900 บาท
พร้อมรับโปรโมชั่น และรับประกันคุณภาพ ดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 160,000 กม.
- รับประกัน มอเตอร์ขับเคลื่อน และ แบตเตอรี่ High-Voltage ตลอดอายุการใช้งาน Lifetime Warranty
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 2 ปี
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
- ฟรี ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
- ฟรี ค่าบริการ i-SMART นาน 5 ปี
- ฟรี MG Premium Call Center
- ฟรี บริการแบบ PREMIUM FAST LANE
- ฟรี IM MAG HUB PACKAGE
- ฟรี Privacy Glass สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง
- ฟรี PANORAMIC GLASS ROOF เคลือบ SILVER COATED
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ระดับพรีเมียม นาน 5 ปี
- ฟรี บริการค่าจดทะเบียน กรอบป้ายทะเบียน และชุดพรมปูพื้น
- ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 48 เดือน
NEW MG IM6 เป็น e-SUV อัจฉริยะที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ด้วยการผสานนวัตกรรมขั้นสูงเข้ากับงานออกแบบที่เหนือระดับ โดย IM6 ยังชูจุดเด่นในการเป็นยนตรกรรม EV ระดับพรีเมียม ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความหรูหรา เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยสำหรับผู้ใช้งาน
NEW MG IM6 หรือชื่อเดิมในจีนจะรู้จักกันในชื่อว่า IM LS6 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปแบบเอสยูวี Fastback ท้ายลาด เป็นรถของทางแบรนด์ IM Motors ที่เป็นบริษัทร่วมทุนกันะหว่าง SAIC Motor, Zhangiang Hi-Tech และ Alibaba Group
ในด้านงานดีไซน์ภายนอกนั้นจะมากับความหรูหราแต่ล้ำสมัย แปลกใหม่ และโดดเด่นไม่ซ้ำใคร โดยเป็นผลงานการออกแบบดีไซน์ร่วมกันของนักออกแบบจาก SAIC MOTOR CORPORATION และ University of Art London
ภายนอกถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Gentle Sculpture ตัวรถเน้นความโค้งมน ดูพลิ้วไหว ดีไซน์กระจังหน้าเป็นเอกลักษณ์ พร้อมไฟหน้าดีไซน์แบบ L Shape ทำให้รถดูโฉบเฉี่ยว มาพร้อมชุดไฟ DRL
เส้นสายด้านข้างเน้นความลู่ลม มือจับประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมกระจกข้างแบบไร้กรอบ พร้อมกระจกรอบคัน 2 ชั้น ส่วกระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว ส่วนชุดล้ออัลลอยในรุ่น Premium 2WD จะมีขนาด 20 นิ้ว ส่วนในรุ่น Performance AWD จะมีขนาด 21 นิ้ว
ส่วนด้านท้ายมากับไฟท้ายพาดยาวแบบ Skyline Taillights และการออกแบบเส้นสายให้ดูโค้งโอบล้อมลงตัวเข้ากับช่วงท้ายรถ ทั้งยังคำนึงถึงการใช้หลักอากาศพลศาสตร์ หรือ Aero Dynamics ในการออกแบบเพื่อช่วยเสริมสมรรถนะและเพิ่มประสิทธิภาพของตัวรถได้อย่างลงตัว นอกจากนั้นยังมากับระบบไล่ฝ้าที่กระจกหลัง
ในด้านขนาดมิติตัวรถตะมีความยาว 4,904 มม. กว้าง 1,988 มม. สูง 1,669 มม. และมีระยะความยาวฐานล้อ 2,950 มม.
ภายในเหนือระดับ กับหลากลูกเล่นที่ตอบไลฟ์สไตล์ สะดวกสบาย และลงตัว การออกแบบภายในเน้นความเรียบหรู และคำนึงถึงความสะดวกสบายให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน โดยจะถูกตกแต่งด้วยวัสดุแบบ Soft Touch
ในส่วนของแผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งจออัจฉริยะระบบสัมผัส Intelligent Immersive Touch Screens ที่มีขนาดยาวถึง 26.3 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย มาพร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะ IM OS
มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มด้วยหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ นอกจากนั้ยังมากัยชุนคันเกียร์ทีอยู่บริเวณคอพวงมาลัย
ด้านคอนโซลกลางออกแบบให้เชื่อมต่อกับคอนโซลหล้าที่รูปแบบสะพาน โดยด้านบนจะได้รับการติดตั้งหน้าจอแนวตั้งขนาด 10.5 นิ้ว ที่จะทำหน้าที่ควบคุมและสั่งงานส่วนต่าง ๆ ภายในรถ รวมทั้งยังมาพร้อมกับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนที่ให้กำลังชาร์ต 50W ถูกออกแบบให้วางในแบบแนวตั้งแบบเอียง โดยด้านข้างจะมีช่องวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ให้อีก 2 ช่อง
เบาะที่นั่งออกแบบการตัดเย็บให้เป็นแบบ POPO Sofa ทรงขนมปังที่เพิ่มความสบายยิ่งขึ้น ตัวเบาะหุุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์ เบาะที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้าเป็นแบบระบายความร้อน พร้อมระบบนวดสำหรับผู้ขับขี่
ขณะที่เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40 โดยจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถจุได้มากถึง 596 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,640 ลิตร พร้อมที่เก็บสัมภาระเพิ่มเติมที่ท้ายรถได้อีก 69 ลิตร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้ารถจุได้มากถึง 32 ลิตร
สำหรับชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับลำโพง 20 จุด ประกอบด้วย ลำโพงรอบทิศทาง 16 จุด และลำโพงบริเวณหลังคา 4 จุด, ชุดไฟ Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนได้ 256 เฉดสี, กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down, กระจกมองหลังแบบ Streaming Media Rearview Mirror, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกโซนอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE C จำนวน 2 จุด เปิดท้ายด้วยฝาท้ายไฟฟ้าที่มาพร้อมระบบเตะเปิดอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมความพิเศษด้วย IM MAG HUB อุปกรณ์เสริมติดแม่เหล็กภายในตัวรถ เพื่อใช้ติดตั้งแอคเซสเซอรี่ต่าง ๆ อาทิ โคมไฟ กระจกแต่งหน้า ไฟอ่านหนังสือ ฯลฯ จำนวน 5 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์เฉพาะจาก SAIC เพื่อครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานรถอย่างแท้จริง
MG IM6 มาพร้อมมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวมระบบ ADAS เพื่อรองรับ EURO-NCAP อาทิ ระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก, ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ APA, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB, ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA, ระบบควบคุมการทรงตัว VDC, ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHC , ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC, ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS, ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS, ระบบช่วยเบรก AEB, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC, ระบบแจ้งเตือนความเร็วอัตโนมัติ SLF, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LCC, ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน LDP, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD, ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA, ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB และระบบระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW
รวมทั้งยังมากับระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง, จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ / พร้อมสัญญาณเตือนระยะด้านหน้และหลัง, ระบบกุญแจอัจฉริยะพร้อมการ์ด NFC สำหรับแปะเพื่อล้อค และปลดล็อคตัวรถ
IM6 ถูกสร้างขึ้นบนแชสซีดิจิทัลอัจฉริยะใหม่ (IM Digital Chassis) ที่ทำจากอะลูมิเนียม ในด้านขุมพลังขับเคลื่อนติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor มาพร้อมสถาปัตยกรรม 800V Dual SiC Platform โดยจะมากับแบตเตอรี่ Lithium-ion พร้อมระบบ Cooling system เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่สามารถระบายความร้อนได้ 15 องศาเซลเซียส ภายในเวลาเพียง 30 วินาที
สำหรับ NEW MG IM6 สเปคไทยมีให้เลือก 2 รุ่น
- Premium 2WD มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 295 แรงม้า (217 kW) แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 5.9 วินาที จับคู่กับแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 75 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 400V ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทางไกล 550 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC)
- Performance AWD มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุด 787 แรงม้า (572 kW) แรงบิดสูงสุด 802 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 3.48 วินาที โดยสามารถทำความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. จับคู่กับแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 100 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 875V ชาร์จไฟวิ่งได้ะยะทางไกลสุด 634 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC)
รองรับการชาร์จ DC ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาที ด้วยแรงดันไฟฟ้า 800V รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW นอกจากนี้ยังรองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6.6 kW รวมทั้งยังได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ 12V ที่เป็นแบบ Lithium- ion
มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 6 โหมด ได้แก่ Eco / Comfort / Sport / Snow / Custom และ Super Eco ซึ่งจะดึงไฟสำรองจากแบตเตอรี่มาใช้อีก 80 กม.สำหรับในยามฉุกเฉิน
นอกจากนั้นยังมากับระบบ KERS 2 ระดับ มาพร้อมรัศมีวงเลี้ยว 5.09 เมตร รวมทั้งยังมากับดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อนจาก Continental
ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone พร้อมระบบถุงลมอัจฉริยะที่สามารถปรับสูง-ต่ำได้ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับความสูงปกติ ปรับเตี้ยลง 5 ซม. และปรับสูงขึ้น 2 ซม. พร้อมปรับการทำงานอัตโนมัติตามรูปแบบการขับขี่ ส่วนด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์พร้อมระบบถุงลมสำหรับรุ่น Performance AWD
รวมทั้งยังได้รับระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four-Wheel Steering System) มาพร้อมการถอยจอด และขับออก ด้วยปลายนิ้วสัมผัสกับระบบ One Touch iAD ที่ช่วยในการถอยจอดด้านข้าง (One Touch Side Parking)
อีกทั้งยังมาพร้อมระบบ Crab Mode ที่สามารถปรับมุมทั้ง 4 ล้อแล้วสไลด์เข้าจอดได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการจอดและออกจากช่องจอดรถในพื้นที่จำกัด (One Touch Escape) และการถอยหลังอัตโนมัติเมื่อขับเจอซอยตัน (One Touch Traceback)
MG IM6 เป็นรถที่ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน โดยจะมีเฉดสีตัวถังให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีชมพู Ferdinand Pink / สีขาว Raphael Beige / สีดำ Ares Black / สีเทา Rembrandt Grey และสีน้ำเงิน Nevis Blue