หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Honda ได้กระโดดเข้ามาร่วมตลาดออโตเมติกพรีเมียม 125cc. ด้วยการเปิดตัว Honda Giorno+ จนทำให้เจ้าตลาดอย่าง Yamaha นั้นอยู่เฉยไม่ได้ รีบส่ง Yamaha Grand Filano Hybrid ใหม่ ออกมาประชันทันที ซึ่งยังคงชูจุดเด่นด้วยเครื่องยนต์ Blue Core Hybrid 125cc. เจ้าเดียวในตลาด ที่ให้อัตราประหยัดน้ำมันมากถึง 62.5 กม./ลิตร
แต่ก่อนที่เราจะไปเทียบสเปคของ 2 คู่นี้ ขออนุญาตพาไปชมคันจริง พร้อมสเปคโดยละเอียดของ Yamaha Grand Filano Hybird 2023 กันก่อน ว่ามีการปรับเปลี่ยนตรงไหนบ้าง และอะไรคือจุดเด่นที่จะทำให้ Yamaha ยังครองเบอร์หนึ่งพรีเมียมออโตเมติก 125cc. เอาไว้ได้
สำหรับ Yamaha Grand Filano เปิดตัวในไทยครั้งแรกตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งจัดเป็นรถพรีเมียมออโตเมติก 125cc. ในสไตล์แบบโมเดิร์นคลาสสิครุ่นแรกของไทย ก่อนที่ในปี 2018 จะเปิดตัว Yamaha Grand Filano Hybrid ออโตเมติกไฮบริดรุ่นแรกของไทยตามออกมา และนั่นจึงทำให้ Yamaha ครองเบอร์ 1 พรีเมียมออโตเมติก 125cc. มาตลอดระยะเวลา 10 ปี
และล่าสุดในปี 2023 Yamaha Grand Filano Hybrid ใหม่ ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยยังคงมาพร้อมกับภาพลักษณ์สุดพรีเมียม ดีไซน์สง่างามเหนือกาลเวลา สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก และยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์ Blue Core Hybrid 125cc. หนึ่งเดียวในคลาส ที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้น ทั้งในเรื่องของอัตราเร่ง ความนุ่มนวลในการขับขี่ และอัตราประหยัดน้ำมันที่ทำได้ได้มากถึง 62.5 กม./ลิตร (สูงสุดใน A.T. 125cc.)
โดย Yamaha Grand Filano Hybrid 2023 นั้น มีการปรับสีตัวถังใหม่ทั้งหมด เพื่อยกระดับความพรีเมียม ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี จากทั้ง 2 รุ่นย่อย
รุ่น ABS Version มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา Elixir Silver, สีน้ำเงิน Prestige Blue และ สีขาว Super White ซึ่งจัดตัดด้วยเบาะสีแดง ราคาจำหน่าย 63,700 บาท
รุ่น Standard Version มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีชมพู Nudy Pink, สีดำ Massy Black, สีแดง Vivid Red และ สีน้ำเงิน Indigo Blue (เบาะนั่งสีดำ) ราคาจำหน่าย 68,200 บาท
ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐาน และฟีเจอร์สิ่งอำนวยความสะดวกสบายยังคงติดตั้งมาให้ครบครันเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น ระบบไฟหน้า – ไฟ Daylight – ไฟเลี้ยว – ไฟท้าย แบบ Full LED
เรือนไมล์แบบ Digital Meter LCD & TFT ที่แสดงผลการทำงานของระบบ Hybrid ในตัว
ONE PUSH START ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ สตาร์ทง่าย รวดเร็วกว่า ไร้เสียงมอเตอร์รบกวน และมาพร้อมระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ STOP & START SYSTEM ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถเปิดปิดได้ตามความต้องการ
ช่องเก็บของด้านหน้า พร้อมจุดเสียบไฟสำรอง Power Outlet 12V และฮุคเกี่ยวของด้านหน้า
ช่องเติมน้ำมันด้านหน้าแบบ Smart & Easy Refuel ใช้งานง่ายเพียงปุ่มเดียว
พื้นที่ Grand Box ขนาดใหญ่ถึง 27 ลิตร สามารถเก็บหมวกกันน็อคได้ 2 ใบ มาพร้อมไฟ LED ส่องสว่างภายใน
ระบบเบรก UBS (Unified Brake System) ช่วยกระจายแรงเบรกหน้า – หลัง
โดยในรุ่น ABS Version จะยกระดับความพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้นด้วย กุญแจรีโมทอัจฉริยะ SMART KEY SYSTEM สะดวกกว่าด้วยสวิตช์เปิด-ปิด แบบ Multi Functions และระบบเบรก ABS ป้องกันล้อล็อคขณะเบรกกระทันหัน
เทียบสเปค Yamaha Grand Filano Hybrid กับ Honda Giorno+
แน่นอนว่าหลายคนคงอยากรู้ ระหว่าง Yamaha Grand Filano Hybrid 2023 กับ Honda Giorno+ สเปคแตกต่างกันจุดในบ้าง?
จากตารางสเปคข้างต้น จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 รุ่นนั้น มีความใกล้เคียงกัน โดยจะแตกต่างกันที่ในเรื่องของเครื่องยนต์ และสมรรถนะ แต่เอาจริงๆ รถขนาด 125cc. ในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่ อัตราเร่ง แทบจะไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากเลย แม้ตัวเลขจะดูต่างกันก็ตาม
แต่ในเรื่องที่แตกต่างกันชัดเจนคือ ในเรื่องของน้ำหนักตัวถัง และอัตราความประหยัด ซึ่งจุดนี้ Yamaha Grand Filano Hybrid ทำได้ดีกว่าชัดเจน ซึ่งต่างกันถึง 10 กม./ลิตร เลยทีเดียว
บทสรุป
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทีมงาน Autostation.com เราพอจะสรุปให้ได้ว่า Yamaha Grand Filano Hybrid นั้น เป็นพรีเมียมออโตเมติกที่ดูหรู สง่างาม และมีความประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่า
ส่วน Honda Giorno+ นั้น จะเป็นพรีเมียมออโตเมติกที่มีความแฟชั่น และมีสมรรถนะการขับขี่ที่เป็นต่ออยู่นิดนึง
ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมองว่า รถคลาสนี้มันว่ากันที่ความชอบของดีไซน์ และสไตล์ล้วนๆ ในเรื่องของสมรรถนะคงไม่ใช่ใจความสำคัญในการตัดสินใจ และที่สำคัญคือราคาจำหน่าย แม้ว่า Yamaha Grand Filano Hybrid จะมีราคาที่สูงกว่าเล็กน้อยจากราคาแนะนำตอนเปิดตัว แต่ทว่าหากไปที่โชว์รูม หรือหน้าร้านดีลเลอร์จริงๆ คุณจะรู้ว่าราคาแนะนำของ Honda Giorno+ นั้นไม่มีอยู่จริง ไหนจะเรื่องการรับประกันที่ทาง Yamaha มอบให้ 5 ปี หรือ 50,000 กม. ซึ่งถ้ามองถึงความคุ้มค่าในระยะยาว Yamaha Grand Filano Hybrid ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า
