in

เปิดราคา All-New Honda BR-V อย่างเป็นทางการ เริ่ม 9.15 แสนบาท พร้อมส่งมอบได้ทันที

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดราคาจำหน่าย All-New Honda BR-V อย่างเป็นทางการ พร้อมเผยโฉมครั้งแรก และเป็นไฮไลต์ในบูทฮอนด้า ที่งาน Big Motor Sale 2022

โดย All-New Honda BR-V พร้อมขับเคลื่อนตลาดในกลุ่มรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์และสร้างความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้าไปอีกขั้น ด้วยการผสานจุดเด่นทั้งดีไซน์สปอร์ตแข็งแกร่งสไตล์เอสยูวี พร้อมด้วยความอเนกประสงค์กว้างขวางคล่องตัวสไตล์รถเอ็มพีวี สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน อีกทั้งมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย

มร. โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชันที่ 2 ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบคุณค่าที่ตอบโจทย์ในทุกด้าน มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ในคลาสเดียวกัน และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย พร้อมทั้งผสานความสปอร์ตพรีเมียม ดีไซน์แข็งแกร่งสไตล์เอสยูวี และความอเนกประสงค์ ห้องโดยสารกว้างขวางและคล่องตัวแบบรถเอ็มพีวี อีกทั้งครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย

โดยฮอนด้า เชื่อมั่นว่า ฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ จะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนตลาดเอสยูวี รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปรถเอสยูวีของ Honda ไปอีกขั้น”

ดีไซน์ภายนอก

  • กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สะท้อนความโดดเด่นยิ่งขึ้นในรุ่น EL ที่มาพร้อมสี Piano Black
  • กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ตกแต่งสีเงิน (รุ่น EL)
  • ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น EL)
  • กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ (รุ่น EL)
  • คิ้วตกแต่งสเกิร์ตข้างสีเงิน (รุ่น EL)
  • ราวหลังคาตกแต่งแบบสปอร์ต
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น EL) และขนาด 16 นิ้ว (รุ่น E)

ภายในห้องโดยสาร

  • ห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง สะดวกสบายทุกที่นั่ง
  • โดดเด่นด้วยคอนโซลดีไซน์ใหม่ ยกระดับความพรีเมียมด้วยวัสดุตกแต่งแบบ Piano Black
  • เบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ในทุกรุ่นย่อย ที่วางแก้วน้ำ 8 ตำแหน่ง พร้อมพนักเท้าแขนด้านหน้า-ด้านหลัง
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)

ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยห้องเก็บสัมภาระท้ายมากขึ้นกว่าเจเนอเรชันก่อน พร้อมเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้หลากหลายรูปแบบ

  • เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) โดยสามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และพนักพิงปรับเอนได้ 3 ระดับ
  • เบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น โดยสามารถพับแยกแบบ 50:50 และพนักพิงปรับเอนได้ 2 ระดับ

สมรรถนะการขับขี่เหนือสุดในคลาส

  • เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบ/นาที
  • ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทรงพลัง มอบอัตราการประหยัดน้ำมัน 16.1 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น EL)
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง
  • ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 3 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
  • ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น E) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)

เทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ครบทุกรุ่นย่อย ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)

ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน

  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
  • ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock By Speed)
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
  • กล้องส่องภาพด้านหลัง
  • ถุงลม 6 ตำแหน่ง (รุ่น EL)
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
  • ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
  • ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
  • โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACE ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)

All-New Honda BR-V มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น E ราคาเริ่มต้น 915,000 บาท
  • รุ่น EL ราคาเริ่มต้น 973,000 บาท

โดยมีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่สี

  • ขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) (เฉพาะรุ่น EL)
  • สีดำคริสตัล (มุก) (รุ่น EL และรุ่น E)
  • สีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น E)

โดยรุ่น EL สีภายในจะเป็นสีดำ / รุ่น E สีภายในจะเป็นสีทูโทน (ดำ/มอคค่าเกรย์)

มาพร้อมข้อเสนอ พิเศษดอกเบี้ย 0.99% พร้อมรับ ฟรีบัตรน้ำมัน มูลค่า 5,000 บาท และ ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะตามตารางการบำรุงรักษา 2 ปี 6 เดือน หรือ 50,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) มูลค่า 2,915 บาท เมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565 – 30 กันยายน 2565