in , , , ,

All-New MG3 2024 ขุมพลัง Hybrid+192 แรงม้า เปิดตัวในยุโรป พร้อมจ่อเตรียมมาไทยกลางปีนี้ !

MG เปิดตัว All-New MG3 20224 รถแฮทช์แบ็คขนาดเล็กเจนเนอเรชั่นที่ 2 ในยุโรป มาพร้อมขุมพลัง Hybrid+ 192 แรงม้า พร้อมลุ้นเปิดตัวต่อในไทย ก.ค. นี้

All-New MG3 2024

หลังจากที่ปล่อยทีเซอร์ออกมาล่วงหน้า ล่าสุดทาง MG ได้เปิดตัว All-New MG3 2024  เจนเนอเรชั่นใหม่ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ โดยเลือกใช้เวทีในงาน Geneva Auto Show 2024 ที่ถูกจัดขึ้นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นสถานที่เปิดผ้าคลุมโฉม 

All-New MG3 2024

สำหรับ All-New MG3 2024 เจนฯ ใหม่นี้ จะเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของรถแฮทช์แบ็คขนาดเล็ก โดยจะได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หน้าจรดท้าย มาพร้อมขุมพลัง Hybrid + ที่เป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุดรวม 192 แรงม้า 

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

ในด้านงานดีไซน์ของ MG3 ใหม่จะเน้นความโฉบเฉี่ยว โดยจะดูคล้ายคลึงกับรถซีดานรุ่นพี่อย่าง MG5 และ MG7 โดยด้านหน้าจะมากับชุดไฟหน้า LED ทั้งระบบ มาในทรง 3 เหลี่ยมที่ปรับให้ดูเล็ก และเรียวลงกว่าเจนฯ ที่ผ่านมา โดยจะถูกลากยาวไปถึงด้านข้างของฝากระโปรงหน้า ฝากระโปรงหน้าที่ปรับใหม่ให้มีความสั้น และมีความลาดลง อีกทั้งยังมาพร้อมกับเส้นสายที่เฉียบคม 

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

มาพร้อมกระจังหน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยมีขนาดที่ใหญ่ และดูยาวขึ้น ด้านในมาพร้อมลวดลายตะแกรงสีดำขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังย้ายตนราโลโก้ MG จากเดิมที่อยู่ตรงกลางกระจังถูกเปลี่ยนตำแหน่งให้ขึ้นไปวางไว้ที่เหนือกระจังหน้าใต้ฝากระโปรงหน้า รวมทั้งมาพร้อมดักอากาศรูปตัว C ขนาดใหญ่ที่ขนาบข้างทั้ง 2 ฝั่งของตัวกระจัง ขณะที่ชายกันชนหน้า ออกแบบให้ดูมีความสปอร์ตมากขึ้น โดยจะมาในลายคาร์บอนไฟเบอร์ 

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

เส้นสายด้านข้างตัวรถจะดูโฉบเฉี่ยวกว่าเจนฯ ที่ผ่าน หลังคาด้านท้ายดีไซน์ใหม่มีความลาดเท ส่วนล้ออัลลอยมาในลวดลาย 5 ก้าน แบบทูโทนปัดเงา ขนาด 16 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 195/55 R16 

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

ขณะที่ในด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้าย LED ทรงสามเหลี่ยมที่เหมือนกับด้านหน้า มาพร้อมตราโลโกแบรนด์ขนาดใหญ่ที่ฝาท้ายใต้กระจกหลังของรถ นอกจากนั้นยังเสริมควารมดุดันให้กับตัวรถด้วยดิวฟิวเซอร์สีดำขนาดใหญ่

All-New MG3 2024

ในด้านขนาดมิติตัวรถของ MG3 ใหม่ จะมีความยาว 4,113 มม. ความกว้าง 1,797 มม. ความสูง 1,502 มม. มาพร้อมระยะฐานล้อ  2,570 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับ MG3 รุ่นเดิม จะมีขนาดตัวใหญ่กว่าทุกมิติโดยยาวขึ้น 58 มม.  กว้างขึ้น 50 มม. รวมทั้งระยะฐานล้อยาวขึ้น 50 มม. แต่จะมีความสูงที่ลดลง 14 มม. เพื่อช่วยเสริมให้ตัวรถนั้นดูสปอร์ตขึ้น

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

ภายในห้องโดยสารจะได้รับการออกแบบดีไซน์ใหม่ทั้งหมด แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอคู่ที่ประกอบไปด้วยแผงหน้าปัดดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว ที่ถูกวางแบบลอยตัวอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.25 นิ้ว ที่ถูกวางแบบลอยตัวเช่นกัน รองรับระบบนำทาง และการเชื่อมต่อ Android Auto / Apple CarPlay

All-New MG3 2024

นอกจากนั้นยังออกแบบในส่วนของชุดควบคุมปรับอากาศใหม่ให้เป็นแบบปุ่มกด โดยวางเรียงกันในลักษณะคล้ายแป้นเปียโน ที่อยู่นล่างหน้าจอควบคุมส่วนกลาง 

All-New MG3 2024

คอนโซลกลางถูกวางเชื่อมต่อกับแผงคอนโซลหน้า โดยจะมากับชุดแป้นเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติแบบปุ่มหมุน Shift By Wire ที่คล้ายคลึงกับที่พบใน MG4 EV รวมถึงยังได้รับชุดเบรกมือไฟฟ้า และปุ่ม Auto Brake Hold ที่วางอยู่ด้านข้างแป้นเกียร์ รวมทั้งยังได้รับแท่นชาร์จสมาร์ต และช่องวางขวดน้ำขนา่ดใหญ่ 2 ช่อง 

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

ด้านเบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยหนังคุณภาพสูง ตัดเย็บตัวเบาะนั่งในรูปแบบเพชรพร้อมเย็บ และเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง ทั้งที่ตัวเบาะนั่ง, คอนโซลหน้า รวมทั้งคอนโซลกลาง ขณะที่ชุดอุปกรณ์จะได้รับระบบเสียงลำโพง 6 ตำแหน่ง, ช่องต่อ USB 4 ช่อง 

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

โดย MG3 ใหม่นั้นจากมิติตัวรถที่ยาวขึ้น และกว้างขึ้น ส่งผลให้ห้องโดยสารกว้างขวางขึ้นเช่นกัน และช่วยให้มีพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระที่มีขนาดความจุมากถึง 293 ลิตร โดยสามารถวางกระเป๋าเดินทางแบบลากขนาดใหญ่ได้ถึง 3 ใบ 

All-New MG3 2024

ด้านระบบความปลอดภัยจะมากับชุด MG Pilot ADAS พร้อมระบบต่างๆ อาทิระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้, เซ็นเซอร์และกล้องหลังสำหรับช่วยจอดรถ, ระบบช่วยให้รถอยู่ในช่องจราจรพร้อมระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกช่องจราจร, ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

ในด้านระบบกำลังขับเคลื่อนของ All-New MG3 2024 ใหม่จะมากับระบบ Hybrid+ ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 102  แรงม้า แรงบิด 128 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่ให้กำลัง 134 แรงม้า เมื่อทั้ง 2 ระบบทำงานร่วมกันจะให้กำลัง 192 แรงม้า ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ Eco, Standard และ Sport โดยในโหมด Sport จะให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ภายใน 8 วินาที 

All-New MG3 2024

มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ 1.83 kWh ในด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทางเอ็มจี เคลมไว้ที่ 4.4 ลิตร/100 กม. หรือประมาณ 22.7 กม. ต่อลิตร พร้อทปล่อยค่า CO2 อยู่ที่ 100 กรัม/กม.

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

All-New MG3 2024

สำหรับ All-New MG3 Hybrid+ ที่เปิดวางจำหน่ายในยุโรปจะมีเฉดสีตัวถังภายนอก ให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีดำ Pebble Black, สีขาว Dover White, สีเงิน Cosmic Silver, สีเหลือง Pastel Yellow, สีแดง Diamond Red, สีเทา Hampstead Grey และสีน้ำเงิน Como Blue

ส่วนราคาจำหน่าย และกำหนดการลงโชว์รูมทาง MG ในยุโรปยังไม่ได้มีการเปิดเผยออกมา แต่คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 20,000 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือราว ๆ 9.1 แสนบาท

All-New MG3 2024

สำหรับแฟน ๆ MG3 ในประเทศไทยนั้น เตรียมปูเสื่อรอได้เลย คาดว่าจัะได้สัมผัสตัวจริง เสียงจริงของ All-New MG3 Hybrid+ ได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้  โดยถ้าหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาทางทีมงาน Autostation.com จะนำเสนอรายงานให้ทราบอีกครั้งโดยทันที