หลังจากที่ทยอยเผยภาพ และข้อมูลออกมาตลอดในช่วง 3-4 เดือนี่ผ่านมา ล่าสุดทาง เกรทวอลล์มอเตอร์ในประเทศจีน ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับเอสยูวีรุ่นใหญ่ในตระกูล TANK อย่าง TANK 700 Hi4-T แล้ว โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่นพื้นฐานที่เปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่ 428,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ทีี่ราว ๆ 2.13 ล้านบาท ตามมาด้วยรุ่น Range-Topping Option ที่มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 468,000 หยวน หรือประมาณ 2.38 ล้านบาท และรุ่นท็อปที่มาพร้อมชุดตกแต่งคาร์บอนรอบคัน มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเสริม เปิดราคาจำหน่ายสูงถึง 700,000 หยวน หรือตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว 3.49 ล้านบาท
สำหรับแบรนด์ TANK เป็นแบรนด์รถออฟโรดระดับไฮเอนด์ ที่อยู่ภายใต้ชายคาของทาง Great Wall Motor เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2021 ในปัจจุบันมีรถวางจำหน่ายไปแล้ว 3 รุ่น ได้แก่ TANK 300, TANK 400 Hi4-T และ TANK 500
โดย TANK 700 Hi4-T จะเป็นรถ PHEV รุ่นที่ 3 ของแบรนด์ โดยใช้เครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.0 ลิตร ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ TANK 700 Hi4-T จะมาในลักษณะรูปทรงกล่อง ที่แฝงไปด้วยความบึกบึนตามสไตล์รถออฟโรดสายลุย กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยโครเมียม พร้อมตีตราโลโก้ TANK ไว้บนกระจังหน้า ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ภายในกรอบสี่เหลี่ยม มาพร้อมกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตพร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ขณะที่บนฝากระโปรงหน้ามีช่องระบายอากาศ
ด้านข้างเน้นภาพลักษณ์ที่ดูดุดัน ซุ้มล้อขนาดใหญ่ทรงเหลี่ยม เสริมความโหดด้วยล้ออัลลอยสีดำขนาด 22 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 275/50 R22
โดยในรุ่นท็อปของ TANK 700 Hi4-T จะมาพร้อมกับชุดพาร์ทที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นลิ้นหน้า, ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง, สปอยเลอร์หลังคา และฝากระโปรงหน้า
รวมทั้งยังติดตั้งราวแล็คหลังคาที่มาพร้อมชุดไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้า นอกจากนั้นยังได้รับล้ออัลลอยสีทองขนาด 22 นิ้ว ยาง 275/50 R22
ในด้านมิติขนาดตัวรถของ TANK 700 Hi4-T จะมีความยาว 5,113 มม. ความกว้าง 2,061 มม. ความสูง 1,952 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,000 มม. รวมถึงมีองศามุมไต่ และมุมจากอยู่ที่ 32 และ 33 องศา ตามลำดับ นอกจากนี้ยังสามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 970 มม.
ภายในห้องโดยสาร ในรู่นท็อปผนังหลังคาด้านในจะถูกตกแต่งในแบบ Starlight โดยจะเหมือนกับท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบยับ ที่ดูคล้ายกับภายในห้องโดยสารของรถแบรนด์หรูอย่างทาง Rolls-Royce นอกจากนี้ยังมีหลังคาซันรูฟให้ออฟชั่นเสริมอีกด้วย
ขณะที่ในรุ่นทั่วไป ตกแต่งด้วยวัดสุโครเมียม พร้อมหุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมียมคุณภาพสูงทั้งที่ในส่วนของเบาะที่นั่ง และแผงคอนโซลหน้า รวมทั้งแผงประตู ขณะที่ในส่วนของผนังหลังคาด้านในจะหุ้มด้วยหนังกลับ
ส่วนในแผงแดชบอร์ดทุกรุ่นย่อย จะมากับหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 2 จอที่ประกอบไปด้วยหน้าจอมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์ 16.2 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัว อีกทั้งยังได้รับจอ HUD ที่สะท้อนข้อมูลต่าง ๆ ไปยังกระจกบังลมหน้า
คอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เชื่อมต่อติดกับแผงคอนโซลหน้า โดยจะมีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่องวางแก้ว 2 ช่องขนาดใหญ่ คันเกียร์ดีไซน์ล้ำสมัย, สวิทช์ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ นอกจากนี้ยังจะได้รับการติดตั้วระบบเครื่องเสียง Harman Kardon
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้ามาพร้อมระบบระบายอากาศ และระบบอุ่น, ระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน, ชุดไฟ Ambient Light และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง 26 ระบบ
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมาพร้อมขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ที่จะเป็นการทำงานรวมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงสุด 354 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 560 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 163 และแรงบิด 400 นิวตันเมตร จะให้พละกำลังรวมที่มากถึง 523 แรงม้า มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9HAT ไปยังล้อทั้ง 4
มาพร้อมแบตเตอรี่แบบไตรภาค (NMC) ที่ผลิตโดย SVOLT ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ GWM ขนาด 37.1 kWh โดยจะวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ระยะทางไกลถึง 100 กม. (NEDC) ในด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทางเกรทวอลล์มอเตอร์ เคลมไว้อยู่ที่ 2.97 ลิตรต่อ 100 กม. หรือประมาณ 33.67 กม.ต่อลิตร นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์พ่วงพ่วงแบบไฟฟ้าที่เป็นชุดอุปกรณ์เสริม โดยจะสามารถลากจูงน้ำหนักได้กว่า 2,500 กก.
สำหรับระบบช่วงล่างจะได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลังได้อัตโนมัติ มาพร้อมถุงลมโช้คอัพแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเหล็กกันโคลงแบบอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่เฟืองท้ายหน้า-หลังทำจากอลูมิเนียมลดขนาดที่มีความแข็งแรงสูงกว่าและทนทานต่อการสึกหรอได้ดีขึ้น
นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบออฟโรด อาทิระบบล็อคเฟืองขับด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบ TANK Turn, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Off-road, ระบบตรวจจับความลึกของน้ำ (Wading Depth Detection) และระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Body Transparent)
สำหรับราคาจำหน่ายของ TANK 700 Hi4-T เอสยูวี PHEV ในเมืองจีนจะมีราคาอยู่ที่ระหว่าง 428,000 – 700,000 หยวน หรือตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว 2.17 – 3.49 ล้านบาท
