ถ้าเอ่ยชื่อ BYD Seal แฟน ๆ ชาวไทยหลายท่านคงอาจจะได้สัมผัส และได้เห็นกันไปบ้างแล้ว เพราะทาง BYD ประเทศไทย ได้เคยนำมาโชว์ในงาน Motor Show และงาน Motor Expo ในปีที่ผ่านมา โดยเจ้า BYD Seal นั้นเป็นกลุ่มรถที่อยู่ในซีรี่ส์ Ocean ของทางบีวายดี ที่ประกอบไปด้วย BYD Seagull, BYD Sea Lion และ BYD Dolphin แฮทข์แบ็กไฟฟ้า 5 ประตู ที่เปิดวางจำหน่ายอยู่ในบ้านเราขณะนี้
แต่สำหรับในประเทศจีนบ้านเกิดนั้นนอกจากจะมี BYD Seal ที่เป็นรุ่นขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100 % แล้ว ล่าสุดยังได้เปิดตัว BYD Seal DM-i ที่เป็นเวอร์ชั่น PHEV ออกวางจำหน่ายในตลาดเมืองจีน โดยเปิดราคาแบบพรีเซลเริ่มที่ 180,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 8.6 แสนบาท
สำหรับ BYD Seal DM-i เวอร์ชั่น PHEV อันที่จริงแล้วก็เป็นตัวเดียวกับ BYD Destroyer 07 ที่ถูกเปิดตัวภายในงาน Shanghai Auto Show 2023 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่ให้มาใช้ชื่อรุ่นว่า Seal
ในด้านงานออกแบบยังคงยึดแนวทางงานดีไซน์ที่เหมือนกับ BYD Seal เวอร์ชันไฟฟ้า 100% โดยด้านหน้าตัวรถมาพร้อมงานดีไซน์ที่เรีกว่า Dragon Face ด้วยชุดกระจังหน้าขนาดใหญ่ ขนาบข้างชุดไฟหน้าดีไซน์ที่เฉียบคมเป็นรูปตัว C
ฝากระโปรงหน้าติดตรา BYD ไว้ที่ด้านปลาย ขณะที่กระจังหน้าออกแบบให้มีช่องรับอากาศที่เป็นริ้ว ส่วนถ้าเป็นในรุ่น BYD Seal EV จะเป็นแบบปิดทึบ รวมถึงในส่วนของช่องรับลมด้านข้างจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า ขณะที่ของในรุ่น BYD Seal DM-i นั้นจะมีขนาดเล็ก และดูเรียวกว่า ส่วนด้านล่างจะมากับช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ เติมความหรูหราด้วยคิ้วใต้สีเงินใต้ตัวกันชน
ด้านข้างตัวรถเน้นความเรียบหรู ติดตรา BYD Design ไว้ที่บังโคลนหน้าทั้ง 2 ฝั่ง มือเปิดประตูออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 19 นิ้ว
ด้านท้ายรถออกแบบให้ลาดเทตามสไตล์รถคูเป้ท้ายลาด ชุดไฟท้าย LED ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ มาพร้อมเส้รโครเมียมที่ลากยาวเต็มพื้นที่ด้านหลังฝั่งอยู่ในส่วนของชุดไฟท้าย รวมถึงยังได้รับการติดตั้งตราโลโก้ BYD แทนที่ ชื่อ Bulid Your Dreams เหมือนกับรถรุ่นอื่น ๆ ของทางค่าย
ในด้านมิติขนาดตัวรถ จะมีความยาว 4,980 มม., กว้าง 1,890 มม., สูง 1,495 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,900 มม. โดยจะมียาว และใหญ่กว่า Seal EV ทุกมิติ โดยจะกว้างกว่า 180 มม., กว้างกว่า 15 มม., สูงกว่า 35 มม. รวมทั้งยังมีระยะฐานล้อที่ยาวกว่าเล็กน้อยที่ 20 มม.
ภายในห้องโดยสารของ BYD Seal DM-i จะมีความแตกต่างจากเวอร์ชั่นไฟฟ้า ทั้งในส่วนของ คอนโซลหน้า, คอนโซลกลาง และพวงมาลัย อีกทั้งยังมาพร้อมพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางมากกว่า เพราะด้วยมิติตัวรถที่ใหญ่ และกว้างกว่า
งานออกแบบภายในของ BYD Seal DM-i ถูกออกแบบให้เน้นงานง่าย และมีความสะดวกสบายมากกว่า ใช้ภาษาการออกแบบที่เรียกว่า “ Ocean Aesthetics ” ซึ่งประกอบด้วยมือเปิดประตูที่โดดเด่น ถูกดีไซน์เหมือนเปลือกหอย พวงมาลัยดีไซน์คล้ายกับหางปลา สีตกแต่งภายใน จะเน้นโทนสีขาว – สีม่วง พร้อมตกแต่งด้วยชิ้นส่วนลายไม่ตามส่วนต่าง ๆ ทั้งที่แผงคอนโซลหน้า, แผงประตู และคอนโซลกลาง
แผงแดชบอร์ดจะได้รีบการติดตั้งหน้าจอแผงหน้าปัดขนาด 10.25 นิ้ว มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสที่วางแลลลอยตัว โดยมีขนาด 15.6 นิ้ว อีกทั้งยังสามารถหมุนได้ รองรับระบบปฏิบัติการ DiLink 5.0 ใหม่ นอกจากนี้ยังมากับชิป Qualcomm 7325 รวมทั้งยังได้รับหน้าจอ HUD
ขณะที่คอนโซลกลางอกแบบบให้มีพื่นีท่ขนาดใหญ่ มาพร้อมแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่สามารถวางชารืจพร้อมกันได้ถึง 2 ตำแหน่ง เติมความหรุหราด้วยคันเกียร์แบบคริสตัลขนาดเล็ก ที่ทาง BYD เรียกว่า Ocean Heart
ด้านความบันเทิง และความหรูหรายังจะได้รับระบบเครื่องเสียงของทาง Dynaudio ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์หลักของ BYD, ชุดไฟ Ambient lighting ที่ปรับได้มากถึง 31 เฉดสี และหลังคาซํนรูฟขนาดใหญ่
ในเบาะแถวที่ 2 ของ BYD Seal DM-i ถูกออกแบบให้มีที่นั่งที่กว้างขวาง มาพร้อมที่พักแขน, พนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่ง และรองรับจุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
ขณะที่ในด้านพละกำลังจะมากับขุมพลัง PHEV เสียบปลั๊กชาร์จไฟ ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องเบนซิน DM-i ขนาด1.5 ลิตร Turbo ให้กำลัง 136 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 231 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 194 แรงม้า แรงบิต 316 นิวตันเมตร
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ให้เลือก 2 ขนาด ทำให้ซีดานคันนี้สามารถวิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ระยะทางไกลถึง 121 – 200 กม. ตามมาตรฐาน NEDC นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมตัวถังลดแรงกระแทกอัจฉริยะ DiSus-C ที่จะช่วควบคุมความหนืดในการยืด-ยุบของช่วงล่าง เพื่อควบคุมการทรงตัว
ในราคาค่าจำหน่ายของ BYD Seal DM-i ทาง BYD เปิดราคาแบบพรีเซลไว้ที่ 180,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว ๆ 8.6 แสนบาท