New Suzuki Swift GL Plus อัปเกรดชุดแต่งหล่อรอบคัน เวอร์ชันพิเศษ Limitless Edition ตอกย้ำภาพลักษณ์สปอร์ตแฮทช์แบ็กคาร์ จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกัน
Suzuki Swift เป็นรถขนาดเล็กที่สร้างชื่อให้กับทางค่าย Suzuki ตลอดมา นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2011 และเพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จทาง Suzuki ได้เปิดตัวสปอร์ตแฮทช์แบ็กรุ่นพิเศษ Suzuki Swift GL PLUS ที่อัปเกรดใส่ชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน เวอร์ชันพิเศษ Limitless Edition 2022 ใหม่ ที่ปรับแต่งเพิ่มเติมขึ้นมาจากตัว GL PLUS ที่เป็นรุ่นกลางของSwift เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชมและชื่นชอบรถในสไตล์ตกแต่งแบบสปอร์ตแท้ที่ส่งตรงออกจากโรงงาน
โดยล่าสุดทาง บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด ก็ได้เชิญทีมงาน Autostation.com เข้าร่วมทดสอบรถใหม่ Suzuki Swift GL Plus 2022 เพื่อสัมผัสสมรรถนะการขับขี่และใช้งานบนเส้นทางจริงของสปอร์ตแฮตช์แบ็กตัวใหม่ของทาง ซูซูกิ
สำหรับการทดลองขับ Suzuki Swift GL Plus 2022 เวอร์ชันพิเศษ Limitless Edition เราใช้เส้นทางจากหัวหิน มุ่งหน้ากลับมายัง กทม. โดยเส้นทางที่ใช้จะเส้นทางคลองโคน วิ่งเส้นนาเกลือ มาออกพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางขนาดเล็กแบบ 2 เลนส์ วิ่งเลาะตามหมู่บ้าน และนาเกลือเพื่อได้รับรู้และสนุกกับ Handling รวมถึงความคล่องตัวของ New Suzuki Swift GL Plus ของตัวรถให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนจะไปรับรู้ถึงสมมรถนะตัวรถ เราไปดูรายละเอียดกันก่อนว่าในรุ่นตกแต่งพิเศษนี้ได้ ถูกเพิ่มเติมอะไรไปบ้างจากราคาที่เพิ่มขึ้นมา 10,000 บาท
New Suzuki Swift GL PLUS นี้จะเป็นรุ่นพิเศษที่อัปเกรดความสปอร์ตให้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยชุดแต่งแท้ที่ออกมาจากโรงงาน โดยมาพร้อมกับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Limitless Edition สไตล์ท้าทาย ทุกขีดจำกัด”
ดีไซน์ภายนอกปรับเสริมเพิ่มชุดแต่งใหม่ดูสปอร์ตมากขึ้น
ตัวรถถูกพัฒนาต่อมาจากรุ่น Suzuki Swift GL ด้วยชุดแต่งดีไซน์ใหม่รอบคันที่ออกมาจากโรงงาน โดยชุดแต่งนี้จะไม่มีวางจำหน่ายแยกขายแต่อย่างใด ดีไซน์ภายนอกนั้นจะดูโดดเด่น ดูสปอร์ต ปราดเปรียว ด้วยกระจังหน้าสีดำตกแต่งลายเส้นโครเมียม มาไฟหน้าแบบฮาโลเจนมัลติรีเฟลคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED บริเวณกันชนหน้ารถ
นอกจากนั้นยังเสริมความลุคสปอร์ตเต็มขั้นด้วย ชุดสเกิร์ตหน้าที่ออกแบบใหม่ให้ความบางน้อยลงกว่าในรุ่นที่ผ่านมา มาพร้อมกับลายสติ้กเกอร์ใหม่รอบคันที่ดูเนียนตา ไม่ติดมาเยอะมีเพียงที่ปลายฝาประโปรงหน้า และที่ชายขอบประตูล่าง
อีกทั้งยังมาพร้อมสปอยเลอร์หลังที่เติมเต็มความสปอร์ตให้มากขึ้น รวมถึงยังได้รับเสาอากาศแบบครีบฉลาม และยังคงเติมเต็มความดุดันด้วยซุ้มล้อสีดำ รับกับล้อกระทะที่มาพร้อมฝาครอบ พร้อมรัดด้วยยางขนาด 175/65R15
ภายในยังคงเดิม แต่ความคุ้มค่า คุ้มราคา ยังอยู่ครบ
ส่วนภายในห้องโดยสารยังคงเหมือนรุ่น GL ไม่ได้มีการตกแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด มีเพียงตกแต่งด้วย วัสดุสีเงินในสไตล์สปอร์ต ด้านชุอุปกรณ์ยังคงมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย มาตรวัดสไตล์สปอร์ต พร้อมจอแสดงข้อมูลขับขี่แบบ LCD รวมถึงพวงมาลัยทรงรูปตัว D เเพิ่มพื้นที่วางขาและปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
เบาะนั่งยังคงโอบกระชับสรีระผู้ขับขี่ให้รู้สึกสบายตลอดการเดินทาง ที่นั่งคู่หน้าปรับตำแหน่งสูง-ต่ำบริเวณคนขับ พร้อมพนักพิงศีรษะแยกส่วน สำหรับที่นั่งด้านหลังสามารถปรับพับแบบ 60:40 พร้อมพนักพิงศีรษะแบบแยกส่วน 3 ตำแหน่ง รองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร น่าเสียดายที่ยังขาดในชุดอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบ Bluetooth
ขุมพลังตามสไตล์อีโคคาร์ ระบบช่วงล่างเนียน
ในด้านพละกำลังยังคงความประหยัดและแรงด้วยขุมพลังเครื่องยนต์รหัส K12M เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร DUALJET ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท E20
ลองอัตราเร่งและสมรรถนะบนถนนแบบใช้งานจริง
สมรรถนะการขับขี่ อัตราเร่งช่วงออกตัวเป็นไปตามมาตรฐานรถอีโคคาร์ ถึงจะไม่ปู๊ดป๊าดเร้าใจ กระชากตัว แต่เมื่อได้รอบได้จังหวะตัวรถก็จะทะยานได้ดั่งใจ ตามกำลังของเครื่องยนต์
รวมถึงเป็นรถขนาดเล็กที่มีขนาดความยาวอยู่ที่ 3,840 มม. และออกแบบโครงสร้างที่มีการจัดวางล้อหน้า-หลัง ให้เกือบสุดกันชน หรือเรียกว่าช่วงโอเวอร์แฮงค์ที่สั้น ช่วยในการขับขี่ให้เกาะถนนดีขึ้นง่ายต่อการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นในช่องที่ทางที่แคบ หรือตอนเลี้ยวโค้งต่างๆ ทำให้ควบคุมตัวรถได้ง่าย อีกทั้งยังได้ในเรื่องของพวงมาลัยไฟฟ้าที่มีน้ำหนักที่ดีไม่เบามากเกินไป มีความคม และแม่นยำตอนบังคับหักเลี้ยวไปมาทุกสภาพเส้นทาง
สำหรับระบบช่วงล่างเป็นอีกจุดที่โดนใจของ Suzuki Swift ไม่ว่าจะเป็นตัวแต่งพิเศษหรือตัวธรรมดาช่วงล่างด้านหน้าที่เเป็นแม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อมคอยล์สปริง กับด้านหลังที่เป็นทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง นั้นถูกปรับเซ็ทมาเป็นอย่างดี มีความนุ่ม และหนึบในช่วงเข้าโค้งตัวรถไม่มีการโคลงเมื่อเข้าโค้งในช่วงความเร็วสูง ๆ มีความนิ่งและมั่นคงในย่านความเร็วสูง
ระบบความปลอดภัยมาครบสมราคา
ทางด้านความปลอดภัยของ Suzuki Swift ยังคงโดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ให้ความแข็งแรงกับตัวถัง แต่มีน้ำหนักที่เหมาะสม เป็นผลลัพธ์ทำให้ Swift เป็นรถที่ขับสนุกในตัว ตอบสนองได้ดี
นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก อีกทั้งยังมาพร้อมกับ ระบบ ESP ช่วยควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS และระบบ IDLING STOP ที่ลดมลพิษ และลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่งเสริมความมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบ Hill Hold Control ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และยังติดตั้งถุงลมนิรภัยคุ้มครองผู้ขับมากถึง 6 ตำแหน่ง
บทสรุป
โดยรวมแล้วก็ต้องบอกว่า Suzuki Swift GL PLUS เวอร์ชันพิเศษ Limitless Edition 2022 นั้นจัดเป็นรถสปอร์ตแฮทช์แบ็ก ที่ครบเครื่อง ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่โดดเด่นมีความสปอร์ตลงตัวตั้งแต่หน้าจรดท้าย ผสานเข้ากับสมรรถนะขับขี่ที่เร้าใจ ช่วงล่างที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี
โดยสิ่งที่น่าประทับใจต้องบอกว่าเป็นในเรื่องของ Handling ของตัวรถ เป็นรถที่คล่องตัวมาก ๆ โดยเฉพาะการขับใช้งานในถนนเมืองไทย ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งถนนซอกซอยที่เล็ก รวมถึงการจราจรที่ติดขัด มีการปรับเปลี่ยนเลนไปมา ซึ่งด้วยตัวรถเล็ก และคล่องตัวจึงเหมาะมากกับถนนในเมืองไทย อัตราการบริโภคน้ำมันถึงแม้ว่าทางผู้ผลิตเคลมออกมาว่าอยู่ที่ 23 กม./ลิตร แต่ทางผู้ทดลองได้ขับขี่โดยใช้งานแบบจริง ทั้งใช้ความเร็ว และช้งานบนถนนที่ติดจัดรวมถึงถนนหนทางตามหมู่บ้าน โดยค่าที่ออกมาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 20-21 กม./ลิตร ซึ่งก็จัดว่าใกล้เคียงกับทางที่บริษัทเคลมมา เรียกว่าประหยัดใช้ได้เลยทีเดียวในยุคน้ำมันแพงขึ้นแบบรายวันอย่างในบ้านเราขณะนี้
และที่สำคัญนอกจากจะได้รถใช้งานได้คล่องตัว และมีความประหยัดแล้ว ยังได้รถในรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ไม่ต้องแต่งเพิ่มเติมดูหล่อสปอร์ตส่งตรงมาจากโรงาน พร้อมกับราคาค่าตัวที่ไม่แรงเกินไปเมื่อเทียบกับในค่ายอื่น ๆ ด้วยค่าตัวเพียง 572,000 บาท ที่มากับชุดแต่งเท่ ๆ แท้จากโรงงาน ที่ปรับเพิ่มขึ้นมา 10,000 บาท ที่เรียกว่าแค่ค่าชุดแต่งรอบอย่างเียวก็คุ้มแล้ว บวกกับสมรรถนะอันพอตัว จึงน่าจะรถที่ตอบโจทย์คนที่รักความสปอร์ตในรูปแบบรถอีโคคาร์ ได้ดีเลยคันหนึ่งเลยครับในชั่วโมงนี้
ราคาจำหน่าย Suzuki Swift 2022
- รุ่น GL ราคาจำหน่าย 562,000 บาท
- รุ่น GL PLUS เวอร์ชันพิเศษ Limitless Edition ราคาจำหน่าย 572,000 บาท
- รุ่น GLX ราคาจำหน่าย 632,000 บาท
