หลังจากที่ทาง HAVAL หนึ่งในซับแบรนด์ของทาง GWM ได้เผยภาพแรก และรายละเอียดของ Haval Raptor เอสยูวีใหม่ของแบรนด์ออกมาเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดทาง ฮาวาล แบรนด์รถยนต์เอสยูวีภายใต้กลุ่มยานยนต์ Great Wall Motors (เกรท วอลล์ มอเตอร์)
ล่าสุดได้เปิดตัว พร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ GWM Haval Raptor เอสยูวี Plug-in Hybrid ออกมาแล้ว โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 165,800 – 183,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราว 8.36 – 9.28 แสนบาท
สำหรับ Haval Raptor จะมีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า 猛龙 ถูกให้จัดอยู่ในซีรี่ส์ Dragon ของทาง Haval ในด้านงานออกแบบมาในรูปแบบรถเอสยูวีสายพันธุ์ออฟโรด ตัวรถมาในแบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง งานดีไซน์จะมาในทรงเหลี่ยมเหมือนกับ Haval Big Dog โดยในส่วนกระจังหน้าจะมีขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยแถบสีเงินเรียงซ้อนกัน 3 ชั้น มาพร้อมโลโก้ H A V A L ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยไฟหน้าทรงกลมแบบเรโทร
เติมมาคลุครถสายลุยด้วยกันชนหน้าไซซ์ใหญ่ มาพร้อมการ์ดกันกระแทกสีเงินใต้ห้องเครื่อง ด้านข้างดีไซน์ด้วยเส้นสายที่ราบเรียบ ตกแต่งขอบซุ้มล้อด้วยแถบสีดำ
ขณะที่ชุดไฟท้ายมาในรูปทรงสี่เหลี่ยมขอบมนข้างละ 2 ดวง ที่วางเรียงต่อซ้อนกัน มือเปิดประตูด้านท้ายถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่จับถนัดมือ โดยตัวประูจะถูกเปิดออกแบบด้านข้าง พร้อมติดตั้งยางอะไหล่ไว้ที่กลางฝากระโปรงท้าย
ด้วยตำแหน่งตัวรถที่จะมาในแบบเอสยูวีที่มีขนาดกะทัดรัด ในด้านมิติขนาดตัวรถของ Haval Raptor จะมีความยาวอยู่ที่ 4,680 – 4,800 มม. (ยางอะไหล่ภายนอก), กว้าง 1,916 มม., สูง 1,822 มม. ซึ่งเทียบกับ All New GWM TANK 300 HEV เอสยูวีสายพันธุ์ออฟโรดขุมพลังไฮบริดที่อยู่ในสังกัดเดียวกัน และถูกเปิดตัวในบ้านเราเมื่อไม่กี่วันมานี้ จะมีสัดส่วนที่เล็กกว่าในทุกมิติ
แต้ถึงแม้ว่า Haval Raptor จะมีขนาดที่เล็ก แต่ด้วยการออกแบบมาให้เป็นทรงเอสยูวีออฟโรด จึงได้ดีไซน์ระบบช่วงล่างให้มีสรรถนะที่พร้อมลุย โดยมีมุมไต่อยู่ที่ 24 องศา, มุมออกตัว 30° และมุมจากอยู่ที่ 19 องศา และมีระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 200 มม. มาพร้อมความสามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 560 มม. จึงทำให้สามารถวิ่งในเส้นทางออฟโรดแบบเล็ก ๆ ได้อย่างสบาย
ภายในห้องโดยสารจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง แผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งหน้าจอส่วนกลางที่วางแบบลอยขนาด 14.6 นิ้ว มาพร้อมแผงหน้าปัด LCD ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลบนกระจก W-HUD ขนาด 9 นิ้ว รวมทั้งยังได้รับการติดตั้งชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 และระบบ Coffee Intelligence ของ GWM Coffee Pilot ADAS ประกอบด้วยระบบนำทางในตัวและแผนที่ที่มีความแม่นยำสูง Coffee Pilot
มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานของรถสมัยปัจจุบัน ทำงานภายใต้บรรดาฮาร์ดแวร์อย่าง กล้องหน้า เซนเซอร์และเรดาร์ต่างๆ อย่างครบครัน อาทิระบบช่วยในทางลาดชัน, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน และระบบเตือนเมื่อผุ้ขับขี่เกิดความเหนื่อยล้า เป้นต้น
ด้านคอนโซลกลางดีไซน์ให้มีขนาดกว้างขวาง โดยออกแบบให้เชื่อมต่อกับคอนโซลหน้าแบบสะพาน โดยจะมีช่องวางด้านล่างสำหรับจัดเก็บสัมภาระ ด้านบนจะมาพร้อมติดตั้งปุ่มควบคุมสั่งงานระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป้นระบบอุ่นเบาะที่นั่ง, ระบบดิฟฟ์ลอคล้อ, ปุ่มกล้อง นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับแป้นหมุนสำหรับปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ รวมทั้งยังมีแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย และช่องวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ 2 ช่อง ขณะที่ในส่วนคันเกียร์จะมีดีไซน์ที่เหมือนกับในตัว TANK 300 และเพิ่มภาพลักษณ์ให้ดูดัน และสปอร์ต ยังได้ตกแต่งด้วยวัสดุคลาฟล่าที่คอนโซลกลาง และที่บริเซรแผงเปิด-ปิด หน้าต่างที่แผงแระตูข้าง
ในด้านขุมพลังจะได้รับการติดตั้งระบบไฮบริด Hi4 มาพร้อมขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยจะมีให้เลือก 2 ความแรง เริ่มจากรุ่นมาตรฐาน จะมากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5T ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลังรวมสูงสุด 372 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ DHT มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ LFP ขนาด 19.09 kWh วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ไกล 120 กม. ตามมาตรฐาน NEDC
ขณะที่ในรุ่นไฮเอนด์จะให้กำลัง 282 kW หรือให้กำลัง 378 แรงม้า มาพร้อมสูงุสด 750 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ DHT จับคู่กับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 27.54 kWh วิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน ๆ ได้ระบะทาง 145 กม. ตามมาตรฐาน NEDC
โดยทั้ง 2 เวอร์ชั่นจะมีโหมดการการขับขี่ให้เลือกถึง 7 โหมด ขณะที่แบตเตอรี่จะรองรับการชาร์จเร็ว หรือ DC ที่กำลังไฟฟ้าสูงสุด 41 kW และรองรับระบบจ่ายไฟสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ กำลังไฟสูงสุด 3.3 kW
สำหรับ GWM Haval Raptor เอสยูวีขุมพลังเสียบปลั๊กชาร์จไฟรุ่ยใหม่ที่เปิดวางจำหน่ายในเมืองจีนนี้ จะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 165,800 – 183,800 หยวน หรือราว 8.36 – 9.28 แสนบาท
ส่วนจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยตามแบบรุ่นพี่อย่าง All New GWM TANK 300 HEV และ All New GWM TANK 500 Hybrid หรือไม่นั้นต้องติดตามกันให้ดี อาจจะมีลุ้นเข้ามาในปี 2567 ก็เป็นไปได้
