เปิดศักราชใหม่ปี 2025 ทาง GWM ในประเทศจีนก็ประเดิมด้วยการเปืดตัวรถรุ่นใหม่ในตลาดจีนกับ GWM TANK 500 Hi4-Z เอสยูวี PHEV สายพันธุ์ออฟโรด ที่เป็นเครือญาติเดียวกันกับ TANK 500 Hi4-T ที่เปิดตัวไปในเมืองจีนเมื่อต้นปี 2024 ที่ผ่านมา โดยจะมีวางจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น เคาะราคาไว้ที่ 363,800 หยวน หรือราว ๆ 1.71 ล้านบาท
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ TANK 500 Hi4-Z จะเหมือนกับ TANK 500 Hi4-T ทุกประการ ยกเว้นเพียงตราสัญลักษณ์เท่านั้น นอกนั้นจะเหมือกันหมด ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ ที่ถูกขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า LED ทรงเหลี่ยม มาพร้อมไฟตัดหมอก LED ที่วางเรียงต่ดกันเป็นเส้นที่กันชนหน้า โดยเสริมความหรูหราด้วนเส้นโครเมียมรูปตัว C ตัวกันชนหน้า
ส่วนด้านข้างตัวรถจะมากับความเรียบง่ายดูภูมิฐาน ด้านท้ายติดตั้งชุดไฟท้ายทรงแนวตั้ง ในด้านขนาดมิติตัวรถจะมีความความยาว 5,078 มม. กว้าง 1,934 มม. สูง 1,905 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,850 มม.ความสูงใต้ท้องรถ 210 มม. และมีมุมเงยที่ 29° มาพร้อมมุมจากที่ 24°
ภายในห้องโดยสารจะถูกดีไซน์ให้มีความหรูหราเหมือนกับรถในตระกูล TANK แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมหน้าจอความคุมส่วนกลางแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งจอ HUD ที่สะท้อนข้อมุลไปยังกระจกบังลมหน้า
เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบจดจำตำแหน่ง และฟังก์ชันต้อนรับ มาพร้อมระบบปรับดันหลังไฟฟ้า และระบบนวด 8 จุด ขณะที่เบาะผู้โดยสารหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมระบบจดจำตำแหน่งและฟังก์ชันต้อนรับ เบาะแถวที่สองติดตั้งระบบทำความร้อน และระบายอากาศสำหรับ
ด้ายชุดอุปกรณ์ภายใน จะมากับกระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่ง, ระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร 256 สี, ระบบไฟส่องสว่างภายในรถหลายจุด เช่น ไฟห้องสัมภาระ, ไฟในที่วางเท้า, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ, ระบบเสียงแบรนด์ระดับพรีเมียม (12 ลำโพง) นอกจากนั้นยังได้รับการติดตั้งระบ Coffee OS 3.0 รุ่นล่าสุดจาก GWM อีกด้วย
ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนของ TANK 500 Hi4-Z จะมากับระบบ PHEV แบบคู่ (P2 และ P4 มอเตอร์ไฟฟ้า) โดยความแตกต่างของสถาปัตยกรรมขับเคลื่อน 4 ล้อนี้จะแตกต่างจาก TANK 500 Hi4-T โดยจะไม่มีเพลาส่งกำลัง และเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบแยกส่วน มีโครงสร้างคล้ายกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Hi4 ของ Great Wall เพลาหน้าขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์รวมถึงเครื่องยนต์ และเพลาหลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีพื้นที่ว่างตรงกลางแชสซีเพื่อวางแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยให้ขยายแบตเตอรี่รวมถึงรยะการวิ่งที่ไกลกว่าเดิม
โดยขุมพลังจะเป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ 2.0T ที่ให้กำลัง 185 kW (248 แรงม้า) แรงบิด 380 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ DHT ไฮบริดสามสปีด
มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัว มอเตอร์ด้านหน้าให้กำลัง 215 kW (288 แรงม้า) แรงบิด 400 นิวตันเมตร ในขณะที่มอเตอร์ด้านหลังให้กำลังสูงสุด 240 kW (321 แรงม้า) แรงบิด 415 นิวตันเมตร ให้กำลังรวม 635 kW (851 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 1,195 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 4.6 วินาที มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้งโหมดมาตรฐาน, ประหยัด, สปอร์ต, หิมะ, โคลน, ทราย รวมทั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อความเร็วสูง (4H) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อความเร็วต่ำ (4L)
จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมเทอร์นารี NCM ขนาดความจุ 59.05kWh วิ่งไฟฟ้า 201 กม. (ตามมาตราฐาน WLTC) วิ่งในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกล 201 กม. และวิ่งครอบคลุมระยะทางไกลถึง 1,096 กม. เมื่อน้ำมันเต็มถัง และแบตเตอรีชาร์จไฟเต็ม โดยทาง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ระบุว่า TANK 500 Hi4-Z จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 8.6 ลิตร/100 กม.
พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 163 kWใช้เวลาเพียง 15 นาที (จาก 30%-80%) และรองรับการชาร์จแบบ AC ใช้เวลา 7.5 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมาพร้อมฟังก์ชันจ่ายไฟภายนอกสูงสุด 6kW
ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าจะเป็นแบบปีกนกคู่ ส่วนด้านหลังเป้นมัลติลิงค์แบบไม่อิสระ มาพ้อมฟังก์ชันพิเศษสำหรับการขับขี่ออฟโรดอาทิ ระบบ Tank Turn, ระบบ Transparent Chassis ระบบกล้องช่วยแสดงภาพใต้ท้องรถแบบโปร่งใส, ระบบ Creep Mode ที่รองรับการขับขี่ในสภาพถนนที่ลื่นหรือขรุขระรวมทั้งระบบ Hi4-Z ที่ช่วยให้การขับขี่ลื่นไหลทั้งบนถนนเรียบและขรุขระ ด้วยการปรับแรงบิดที่ล้อแต่ละข้างอย่างอิสระ มาพร้อมระบบล็อกเฟืองท้ายแบบควบคุมด้วยไฟฟ้าด้านหน้า ที่เป็นชุดอุปกรณ์เสริม และระบบล็อกเฟืองท้ายแบบควบคุมด้วยไฟฟ้าด้านหลัง
GWM TANK 500 Hi4-Z ที่เปิดวางจำหน่ายในจีนจะมีเฉดสีตัวถังให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีทอง, สีดำ สีเทา, สีขาว และสีพืเศษที่จะมีเฉดสีแดงอยู่ที่ด้านหลัง
สำหรับราคาจำหน่ายจะเปิดวางจำหน่ายเพียงรุ่นย่อยเดียว โดยมีราคาอยู่ที่ 363,800 หยวน หรือราว ๆ 1.71 ล้านบาท