หลังจากที่ทาง ฮอนด้าอินโดนีเซีย ได้เปิดตัว All-new Honda WR-V 2023 ใหม่ ที่เป็นรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็กรุ่นล่าสุดจากทางค่าย Honda อย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลกเมื่อช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุดมีข่าวว่าทางฮอนด้าประเทศไทยเตรียมที่จะนำครอสโอเวอร์ขนาดเล็กคันนี้เข้ามาตีตลาดในไทย โดยจะเป็นอีกตัวเลือกใหม่ สำหรับผู้ที่ต้องการมีรถอเนกประสงค์แบบครอบครัวไว้ใช้ แต่มีงบไม่มากพอที่จะไปนำรถไซซ์ใหญ่อย่าง H-RV หรือ CR-V มาไว้ครอบครอบ ดังนั้น Honda WR-V น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่เพราะสนนราคาค่าตัวของเจ้าครอสโอเวอร์ตันนี้ที่เปิดราคาอยู่ในอินโดนีเซียนั้นมีราคาเริ่มอยู่ที่เพียง 6 แสนกว่าบาท
ซึ่งก่อนจะไปลุ้นเจอตัวจริงกันในตลาดเมืองไทยในปีนี้ ทางทีมงาน Autostation.com รวบรวมรายละเอียดของ Honda WR-V ใหม่นี้มาไว้ในชมกันก่อน
สำหรับ Honda WR-V เป็นรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็กขนาด A- Segment ที่ถูกวางการตลาดให้อยู่รองมาจาก HR-V โดยจะออกมาเป็นคู่ต่อกรโดยตรงกับ Toyota Yaris Cross และ Hyundai Creta
ในด้านมิติตัวรถมีขนาดความยาว 4,060 มม. และกว้าง 1,780 มม., สูง 1,608 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,485 มม. มาพร้อมกับการออกแบบให้ตัวรถเป็นนแบบครอสโอเวอร์จึงมีระยะห่างจากพื้นสูง 220 มม. แต่ซึ่งเมื่อเทียบกับ Honda HR-V จะพบว่า WR-V สั้นกว่า 325 มม. แคบกว่า 10 มม. สูงกว่า 18 มม. และมีระยะฐานล้อสั้นกว่า 125 มม.
งานดีไซน์ตัวรถจะเป้นการรวบรวมดีเทลรายละเอียดของฮอนด้าแต่ละรุ่นมารวมไว้ในคันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม Mesh Grille ที่มีความคล้ายกับ HR-V ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว
มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED และสัญญาณไฟเลี้ยวแบบ Sequential ชุดไฟตัดหมอกถูกแยกออกมาอยู่ในกรอบสีดำ ขณะที่สเกิร์ตชายล่างนั้นก็มี DNA มาจาก Honda City พร้อมเสริมมาดให้เป็นรถสายลุยด้วยแผ่นกันกระแทกโครเมียมใต้ห้องเครื่อง
ขณะที่ด้านข้างตัวรถตกแต่งขอบซุ้มล้อด้วยชิ้นงานสีดำ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 – 17 นิ้ว ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย ในส่วนฝาครอบกระจกมองข้างจะมีทั้งสีเดียวกับตัวรถ และสีดำในรุ่น Top รวมถึงหลังคาสีดำ
ด้านท้ายจะมากับกันชนหน้าขนาดใหญ่ มาพร้อมชุดไฟท้าย LED รูปตัว L แบบคว่ำ ที่ดูคล้ายกับ Honda Civic
สำหรับภายในห้องโดยสารของ Honda WR-V งานดีไซน์เหมือนกับ Honda BR-V ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นหน้าปัดแบบอนาล็อก มาพร้อมหน้าจออินโฟรเทนเมนต์ขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนและสามารถแสดงข้อมูลการทำงานของระบบ Honda SENSING
เบาะที่นั่งทรงสปอร์ตหุ้มด้วยวัสดุผ้าสลับหนังสีดำเย็บและเดินจะเข็บด้วยด้ายสีแดง (รุ่น RS) เบาะนั่งด้านหลังที่สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุ 380 ลิตร
ในด้านชุดอุปกรณ์ภายในที่ได้รับการติดตั้ง อาทิ เครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง, เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ, กระจกมองข้างแบบพับอัตโนมัติ, ช่องเสียบ Power Outlet ที่มีให้ 2 ตำแหน่งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ช่องเสียบ USB 2 ช่อง, ปุ่ม Push Start พร้อมกับออกแบบให้มีช่องวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ไว้ที่บริเวณคันเกียร์
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่นั้นมาพร้อมกับระบบ Honda SENSING จัดเต็ม
สำหรับพละกำลังใต้ฝากระโปรงหน้า ถ้าเป็นเวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในอินโดนีเซีย หรือนำเข้ามาจากอินโดจะมากับขุมพลังบล็อกเดียวกับ BR-V ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ไปยังคู่ล้อหน้า
แต่ก็แอบบลุ้นให้รุ่นนี้ผลิตในเมืองไทย เพราะอาจจะได้เห็นขุมพลังแรงอย่าง 1.0 Turbo ที่เหมือนกับในตัว Honda City
สำหรับ Honda WR-V เวอร์ชั่นอินโดนีเซียจะมีให้เลือก มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ WR-V 1.5 E, WR-V 1.5 RS และ WR-V 1.5 RS with Honda SENSING และมีให้เลือกถึง 5 เฉดสีได้แก่ สีขาว Taffeta White , สีเทา Meteoroid Grey Metallic, สีดำ Crystal Black Pearl, สีน้ำเงิน Stellar Diamond Pearl และ สีแดง Ignite Red Metallic ส่วนถ้ามาเมืองไทยจะมีสีอะไรบ้างนั้นต้องรอลุ้นกัน
ขณะที่สนนราคาค่าตัวนั้นในตลาดอินโดนีเซียเปิดราคาอยู่ที่ระหว่าง 271,900,000 – 309,900,000 รูเปียห์ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.5 – 7.4 แสนบาท ซึ่งมามาจำหน่ายในบ้านเราแล้วเคาะราคาต่ำกว่า H-RV งานนี้ตลาดแตกแน่นอน
