GAC AION แบรนด์รถจากประเทศจีนประกาศเปิดตัว HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าลักซ์ชัวรี่ระดับไฮเอนด์ ที่เป็นรถรุ่นที่ 3 ของทางค่ายในตลาดเมืองไทย ต่อมาจาก AION Y Plus และ AION ES ที่มาพร้อมความหรูหรา และเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ผสานเข้ากับการออกแบบและการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยจุดเด่น 5 ด้านของตัวรถ ได้แก่ HYPTEC Design, HYPTEC Space, HYPTEC Smart, HYPTEC Energy และ HYPTEC Performance โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบรุ่นประตูเปิดแบบธรรมดาทั่วไป และรุ่นประตูคู่หลังเปิดแบบปีกนก ชาร์จไฟวิ่งไกล 620 กม. เคาะราคาจำหน่ายในไทยเริ่มที่ 1.449 ล้านบาท
HYPTEC HT ในประเทศไทยจะมีให้เลือก 2 รุ่น
- HYPTEC HT 620 LUXURY รุ่นประตูธรรมดา ราคา 1.449 ล้านบาท
- HYPTEC HT 620 PREMUM รุ่นประตูคู่หลังเปิดแบบปีกนก ราคา 1.749 ล้านบาท
พร้อมได้รับ HYPTEC Exclusive Privilege
- Financial Benefit ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (เมื่อดาวน์ 30% ผ่อน 48 งวด) เมื่อรับรถและจดทะเบียนรถ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น
- รับประกันแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบรวม ตลอดอายุการใช้งาน (เฉพาะเจ้าของรถส่วนบุคคล ผู้ครอบครองรถลำดับที่ 1, และไม่ใช้งานรถในลักษณะเชิงพาณิชย์)
- Insurance Gift ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- Exquisite Gifts ฟรี ฟิล์มกระจก แผ่นรองเท้า ค่าจดทะเบียน
- Exclusive Deal for Home Charger ฟรี Home Chager พร้อมบริการติดตั้ง (ฟรีสายไฟความยาวไม่เกิน 20 เมตร / รับประกันเครื่องชาร์จ 1 ปี)
- In-car Internet Service แพ็กเกจอินเตอร์เน็ตในรถยนต์ฟรี นาน 2 ปี ไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน
- Lifetime OTA Firmware Update ล้ำสมัยตลอดการขับขี่ บริการอัพเกรดซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องในระบบรถยนต์ฟรีตลอดชีพ
- 24 Hours Roadside Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
สำหรับ HYPTEC HT เป็นรถในแบรนด์ HYPTEC ที่อยู่ในสังกัดของทาง GAC AION ในปะเทศจีน โดยจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ที่ต่อมาจาก HYPTEC GT และ HYPTEC SSR ความโดดเด่นของ HYPTEC HT สเปคเมืองไทยจะอยู่ที่ประตูคู่บานหลังจะเปิดแบบปีกนก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถในตระกูล HYPTEC มาพร้อมสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 800V ชาร์จไฟจาก 10-70% ในเวลา 15 นาที วิ่งได้ไกล 372 กม.
ในด้านงานออกแบบตัวรถจะมาในรูปแบบเอสยูวีฟาสต์แบ็คขนาดกลาง ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม AEP3.0 งานดีไซน์จะมากับกระจังหน้าแบบปิดทึบ ชุดไฟดีไซน์ที่เรียบง่าย ด้านในตัวโคมจะเป็นไฟ LED ที่วางเรียงกัน 4 ชั้น มาพร้อมแถบไฟ LED แนวตั้งอยู่ในกันชน
ด้านข้างมากับเส้นสายที่ราบเรียบ เพื่อให้ตัวรถมีความลู่ลม มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ โดยส่วนที่โดดเด่นที่สุดสำหรับตัวรถภายนอกจะเป็นประตูคู่บานหลังที่สามารถเปิดได้แบบปีกนก (Gull Wing Door) เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ที่ควบคุมได้เพียงปลายนิ้ว
โดยเปิดประตูจะเปิดเมื่อมีระหว่างจะด้านข้าง 34 ซม. และเมื่อเปิดขึ้นจะมีความสูงอยู่ที่ 2.3 เมตร ทำให้สามารถเข้า-ออก รถได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องก้มหัว มาพร้อมเซนเซอร์ด้านข้าง 12 จุด เพื่อป้องกันประตูปีกนกกระทบกับสิ่งของด้านข้าง
นอกจากนั้น HYPTEC HT ยังมีเวอร์ชันที่เป็นรุ่นประตูเปิดแบบธรรมดาทั้ง 4 บาน โดนทั้ง 4 บานจะมาในแบบไร้กรอบ
ขณะที่ด้านท้ายจะออกแบบให้มีความลาดเทในสไตล์ Fastback เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์แบบ Duck Trail ที่ประตูด้านท้าย
ขณะที่ชุดล้ออัลลอยจะมีขนาด 20 นิ้ว โดยจะมีให้เลือก 2 ลาย รุ่นประตูแบบธรรมดาจะเป็นล้อสีดำ ส่วนในรุ่นประตูปีกนกเป็นล้อสีเทาด้าน
ชุดไฟท้ายมาในแบบวางพาดเต็มพื้นที่ส่วนท้าย มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนหลังด้านท้าย อีกทั้งยังมีกล้องหลังที่อยู่ตรงกลางกับไฟเบรกอีกด้วย
ในด้านมิติขนาดตัวรถจะมีความยาวอยู่ที่ 4,935 มม., กว้าง 1,920 มม., สูง 1,700 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,935 มม. วงเลี้ยว 5.6 เมตร
ภายในห้องโดยสารจะเน้นความกว้างขวาง และสะดวกสบาย งานดีไซน์จะออกแบบให้ดูเรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความหรูหราทันสมัย แผงคอนโซลหน้าจะไม่มีปุ่มควบคุมใด ๆ ทั้งสิ้น โดยจะติดตั้งเพียงหน้าปัดแบบดิจิทัลทรงแปดเหลี่ยม ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยที่จะมาในทรงรูปทรงวงรี มาพร้อมกล้องที่บนคอพวงมาลัยซึ่งจะเป็นระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ และคันเกียร์ไฟฟ้า
ขณะที่หน้าจอส่วนกลางจะวางแบบลอยตัวโดยมีขนาด 14.6 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง 2.5K ประมวลผลด้วยชิป Qualcomm 8155 ที่ช่วยให้การเล่นลื่นไหล รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และแอปพลิเคชันอื่น ๆ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ ADiGO 5.0 ของ GAC ที่มีระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบ 4 ตำแหน่ง ไม่ว่าผู้ใช้อยู่ที่ใดภายในรถ ระบบสามารถรับรู้และดำเนินการตามคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว, ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิขณะขับขี่ ระบบสามารถวิเคราะห์สถานะการขับขี่ของผู้ขับได้อย่างชาญฉลาด และจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงและข้อความบนจอคอนโซลกลาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ รวมถึงฟีเจอร์การปรับที่นั่งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าแบบคลิกเดียว สามารถเลื่อนที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าไปด้านหน้าด้วยการกดเพียงครั้งเดียว เพื่อเพิ่มพื้นที่นั่งในแถวที่สองได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ HYPTEC HT ยังมาพร้อมระบบน้ำหอมปรับอากาศ ที่สามารถสั่งการผ่านหน้าจอกลาง เลือกกลิ่นได้ถึง 3 รูปแบบ
ด้านคอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ วางเชื่อมต่อติดกับแผงคอนโซลหน้า ด้านบนจะเป็นที่ชาร์จสมาร์ตโฟนที่มีให้ถึง 2 ช่อง นอกจากนั้นยังได้่รับการติดตั้งชุดเครื่องเสียง Dolby Atmos 7.1.2 ระดับไฮเอนท์มาพร้อมลำโพง Dolby Atmos 22 ตำแหน่ง
ด้านเบาะที่นั่งของ HYPTEC HT จะถูกหุ้มด้วยหนัง Nappa เบาะฝั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Lumbar support ที่สามารถปรับได้ถึง 4 ทิศทาง มาพร้อมระบบเบาะนวดแบบ 10 จุด อีกทั้งยังมากับฟีเจอร์ระบายอากาศเบาะโดยสารคู่หน้า
ขณะที่เบาะผู้โดยสารตอนหลังปรับเอนได้ 143 องศา เพื่อไปต่อชนกับเบาะด้านหลังเพื่อให้กลายเป็นโซฟา หรือที่นอนขนาดใหญ่ นอกจากนั้นที่ด้านหลังเบาะคู่หน้ายังมาพร้อมกับถาดวางของที่สามารถพับเก็บได้
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และหลังคากระจก Panoramic Sunroof ขนาด 2.6 ตารางเมตร พร้อมม่านไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น 620 Premium) และมีพิ้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่พิเศษ 670 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋ากอล์ฟได้ถึง 3 ใบ พร้อมด้วยพื้นที่จัดเก็บสัมภาระแบบสองชั้นขนาด 80 ลิตร สามารถบรรจุกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว และอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดเก็บด้านหน้ารถใต้ฝากระโปรงหน้าขนาด 55 ลิตร
ด้านระบบความปลอดภัยมาพร้อมระบบการขับขี่อัจฉริยะ ADiGO PILOT อาทิกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา และระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า พร้อมเบรกฉุนเฉิมอัตโนม้ติ เป็นต้น
HYPTEC HT จะมากับชุดมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 4 in 1 เป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่คู่ล้อหลังให้กำลัง 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.8 วินาที ความเร็วสูงสุดอยุ่ที่ 183 กม./ชม.
มาพร้อมชุด Magazine Battery 2.0 ขนาดความจุ 83 kWh ที่ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกลสุดถึง 620 กม. ที่ทนทานต่อสภาพอากาศเย็นหรือร้อนจัด และมีความปลอดภัยสูงถึงแม้จะทดสอบยิงด้วยกระสุนปืน แต่แบตเตอรี่ก็ไม่เกิดประกายไฟหรือเกิดเพลิงลุกไหม้แต่อย่างใด
มาพร้อมสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 800V ที่รองรับกา่รชาร์จทั้งแบบ DC สูงสุด 250 kW ชาร์จไฟจาก 10-70% ในเวลา 15 นาที วิ่งได้ไกล 372 กม. รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L สูงสุด 3.3 kW
ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbones) และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link ช่วยเพิ่มสมรรถนะและความสบายในการขับขี่ ลดการโคลงและสะเทือนในขณะจอดหรือเลี้ยว เสริมด้วย ASTC (Eagle Claw) ระบบรักษาเสถียรภาพอัจฉริยะ ช่วยปรับสมดุลของตัวรถโดยอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงจากการลื่นไถลของรถในสภาพฝนตก หรือเมื่อรถเสียการควบคุม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
สำหรับ HYPTEC HT ที่เปิดวางจำหน่ายยในประเทศไทยจะมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเงิน Crytal Silver, สีเทา Spinel Grey, สีดำ Onyx Black, สีขาว Alpine White และสีแดง Star Rose (มีเฉพาะในรุ่นประตูปีกนก) ส่วนภายในห้องโดยสารจะมีให้ 2 สี ได้แก่สี สีเบอร์ลินเบจจ Berlin Beige (มีเฉพาะในรุ่นประตูปีกนก), สีดำ Midnight Black และสีแดง Olympus Brown
