Lamborghini ได้ปิดฉาก Aventador ซูเปอร์คาร์ที่ใช้เครื่องยนต์ V12 อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากที่โลดแล่นอยู่ในเส้นทางความเร็วมายาวนานด้วย Lamborghini Aventador LP 780-4 Ultimae Roadster โดยคันที่เห็นอยู่นี้เป็นคันสุดท้ายที่ส่งออกมาจากไลน์การผลิต จะได้รับแรงบันดาในการตกแต่งมาจาก Lamborghini Miura Roadster รถแรงจากอดีตเมื่อปี 1968
สำหรับความพิเศษของ Lamborghini Aventador LP 780-4 Ultimae Roadster คันสุดท้ายจากไลน์การผลิตคันนี้ จะเป็นรุ่นโรดสเตอร์ที่มีเพียง 250 คันเท่านั้น จาก 600 คัน ของรุ่นพิเศษ Lamborghini Aventador LP 780-4 Ultimae ที่แบ่งออกเป็น รุ่นคูเป้ 350 คัน
โดย Lamborghini Aventador LP 780-4 Ultimae คำว่า Ultimae ในภาษาละติน แปลว่า “สุดท้าย”ซึ่งหมายความว่า Aventador LP 780-4 Ultimae คันนี้จะเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นสุดท้ายที่รวบรวมความสุดยอดของ Aventador ทั้งหมดที่มีมารวมอยู่ในคันนี้
โดย Aventador รุ่นส่งท้ายความเร็วเครื่องยนต์ V12 นี้จะถูกผลิตขึ้นมาเพียง 600 คันเท่านั้น มาพร้อมกับเทคโนโลยี และการดีไซน์รูปลักษณ์ที่งดงาม พร้อมกับสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่เป็นการรวบรวมจุดเด่นแต่ละรุ่นของ Aventador เข้าไว้ด้วยกัน
ส่วน Lamborghini Aventador LP 780-4 Ultimae Roadster คันสุดท้ายจากไลน์การผลิตคันนี้ จะมากับตัวถังสีฟ้า Azzuro Flake สั่งพิเศษผ่าน Ad Personam ซึ่งจะเป็นสีเดียวกันกับรุ่นพี่อย่างในตัว Lamborghini Miura Roadster
ขณะที่ชายด้านล่างตัวรถตัดด้วยสีเทา Grigio Liqueo และเสริมเส้นขอบสีดำ Nero Aldebaran ที่เพิ่มความโแตกต่างจากคันอื่น ๆ นอกจากนั้นในส่วน สปลิตเตอร์หน้า ดิฟฟิวเซอร์หลัง หลังคา และฝาครอบเครื่องยนต์จะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ดำเงาทั้งหมด มาพร้อมท่อไอเสียสีดำด้าน เสริมความหล่อโดดเด่นด้วนล้อฟอร์จ Center Lock ลาย Dianthus สีเงิน shiny silver มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรดสีดำที่ตีตรา Lamborghini ที่ด้านใน
ส่วนในด้านรูปลักษณ์ภายนอกด้านหน้าได้ถอดแบบมาจาก Aventador S กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมกับลิ้นหน้าที่เป็นแบบแอคทีฟ เสริมด้วยช่องดักอากาศรูปแบบใหม่ ที่จะให้ประสิทธิภาพทั้งด้านแอโรไดนามิกและการระบายความร้อนที่ดี
ด้านท้ายได้รับการถ่ายทอด DNA มาจากตัว Aventador SVJ ที่มีทั้งความดุดัน และความงาม ปีกหลังเป็นแบบแอโรแอคทีฟวิงก์ ที่ปรับการทำงานได้ถึง 3 รูปแบบ คือแบบที่หนึ่งจะช่วยเสริมสมรรถนะสูงสุด แบบที่สองจะช่วยให้สามารถการควบคุมตัวรถได้อย่างมั่นคง และแบบที่สามจะทำงานเมื่อตอนปีกหลังปิดตัวลง โดยจะทำงานร่วมกับระบบสร้างลมหมุนวนที่บริเวณข้างรถ เพื่อที่เพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนอากาศ และยังช่วยในเรื่องการระบายความร้อนของระบบเบรก
ภายในห้องโดยสารของ Lamborghini Aventador LP 780-4 Ultimae Roadster คันสุดท้ายนี้จะเพิ่มความพิเศษ โดยเบาะที่นั่งที่ถูกหุ้มด้วนหนัง Bianco Leda สีขาว สลับสีดำ Nero Aldebaran แผงคอลโซลฝั่งผู้โดยยังยังปักอักษร Miura เหมือนกับตัว Miura Roadster ที่ปักไว้ที่ บริเวณใกล้คันเกียร์
Aventador LP 780-4 Ultimae Roadster ถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์โมโนค็อกที่มีน้ำหนักเบา พร้อมตกแต่งตัวรถด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ตัวมีน้ำหนักอยู่ที่ 1,600 กก.
ด้านพละกำลังนั้นถูกติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ V12 N/A 6.5 ลิตร ให้กำลังสุงุสด 780 แรงม้า ซึ่งจะมีกำลังแรงม้ามากว่าในรุ่น Aventador S ถึง 39 ตัว รวมถึงมากกว่าในรุ่น Aventador SVJ 10 ตัว
ส่วนแรงบิดจะอยู่ที่ 720 นิวตันเมตร ส่งต่อกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ Single-Clutch 7 สปีด เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งระบบเกียร์นั้นสามารถเปลี่ยนได้เร็วถึง 50 มิลลิวินาที หรืออยู่ที่ 0.05 วินาที มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 355 กม./ชม.
ระบบช่วงล่างนั้น ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบแม่เหล็ก พวงมาลัยล้อหลัง และระบบเบรคเป็นดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิก มาพร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 6 พอตที่ด้านหน้า และคาลิปเปอร์แบบ 4 พอตที่ด้านหลัง
สำหรับราคาค่าตัวของ Lamborghini Aventador LP 780-4 Ultimae Roadster คันสุดท้ายจากไลน์การผลิตนี้ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา