MG4 Electric รถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบแฮทช์แบ็ค ปรับราคาจำหน่ายลง 1 แสนบาท ในทุกรุ่นย่อยทั้ง รุ่น D จาก 869,000 บาทเหลือ 769,000 ส่วนรุ่น X จากราคาจำหน่าย 969,000 บาท เหลือ 869,000 บาท เฉพาะลูกค้าที่จอง และรับรถภายในวันที่ 30 พ.ย. 2566 นี้ เท่านั้น
ซึ่งนอกเหนือจากราคาพิเศษดังกล่าวแล้วยัง ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง นาน 1 ปี, พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมรับฟรีชุดพรมปูพื้น
สามารถรับชมรีวิวแบบ MG 4 Electric แบบละเอียดได้ที่ ➡️รีวิว MG 4 Electric รถยนต์ไฟฟ้าที่ขับสนุกที่สุด
สำหรับ MG4 Electric เป็นรถแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น D และ X ดีไซน์ภายนอกออกแบบตัวรถใหม่แบบ Avant-Garde Inductive Design เน้นความโฉบเฉี่ยว ชุดไฟหน้า LED Galaxy Technology Matrix Headlights กันชนหน้าเสริมหล่อด้วยช่องรับลมที่ขอบชายล่าง มาพร้อมชุดไฟสปอร์ตไลท์แนวตั้ง ขณะที่กระจังหน้ามาแบบปิดทึบ โดดเด่นด้วยโลโก้ MG พร้อมติดตั้งกล้องด้านหน้า
เส้นสายด้านข้างที่โฉบเฉี่ยวมาพร้อมหลังคาที่ลาดเท สอดรับกับล้อแบบ Aero Wheel Cover ขนาด 17 นิ้ว
ด้านท้ายของ MG4 โดดเด่นด้วยสปอยเลอร์หลังแบบ Twin Arrow Wing มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ตรงกลาง ขณะที่ชุดไฟท้ายจะเป็นแบบ LED ลาย Cgynus Symbol Decorative Light ที่พาดยาวตลอดแนวด้านท้าย ที่ออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของสปอยเลอร์ชุดล่างแบบ Duck Trail
สำหรับการตกแต่งโดยในรุ่นย่อย D และ X จะแตกต่างกันเล็กน้อยในส่วนของโคมไฟหน้า ตำแหน่งไฟเลี้ยว รายละเอียดของไฟท้าย และสีหลังคา
ในด้านมิติตัวตัวถัง 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร
ภายในห้องโดยสารลดการใช้ปุ่มสั่งการต่าง ๆ คอนโซลกลางที่ออกแบบให้เป็นแบบลอยตัว หรือที่ทาง MG เรียกว่า Floated Central Control Platform โดยจะมีเพียงแป้นหมุนปรับโหมดเกียร์ กับเบรกมือไฟฟ้า และที่ชาร์จสมาร์ตโฟน
คอนโซลหน้าจะมากับหน้าจอ 2 ชุดโดยเป็น หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ทำงานคู่กับระบบเชื่อมต่อ MG iSMART และรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
ในส่วนเบาะที่นั่งฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง หุ้มหนังสลับผ้า โดยในรุ่น X จะเป็นแบบสึทูโทน ส่วนในรุ่น D จะมาในโทนสีดำ ขณะที่เบาะหลังสามารถพับเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ในสัดส่วน 40:60 น่าเสียดายที่ไม่มีที่วางแขนสำหรับเบาะหลัง รวมถึงมือจับบนเพดานที่ไม่มีการติดตั้งมาให้
ในด้านพละกำลังทั้ง 2 รุ่นย่อย จะมากับติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ที่วางอยู่ที่เพลาคู่ล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
พร้อมแบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate ขนาดความจุ 51 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 425 กม. ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC พร้อมรองรับการชาร์จแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10 – 80% ในเวลาราว 35 นาที
MG4 Electric จะมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า Brighton Blue, สีดำ Black Knight, สีแดง Scarlet Red, สีเทา Andes Grey และสีขาว Arctic White
ด้านโปรโมชันราคาล่าสุดของ MG4 Electric
- NEW MG4 ELECTRIC รุ่น X ราคาพิเศษ 869,000 บาท (จากราคาปกติ 969,000 บาท)
- NEW MG4 ELECTRIC รุ่น D ราคาพิเศษ 769,000 บาท (จากราคาปกติ 869,000 บาท)