หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง NETA ได้ประกาศพร้อมประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รุ่นพวงมาลัยขวาในประเทศไทย โดยจะประเดิมด้วยรุ่น NETA V-II เป็นรุ่นแรก ล่าสุดทางเนต้าได้เปิดตัว NETA V-II อย่างเป็นทางแล้วที่ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2024 โดยจะมีให้เลือก 2 รุ่น คือ NETA V-II รุ่น LITE และ รุ่น SMART เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 5.49 – 5.69 แสนบาท
สำหรับ NETA V-II 2024 ใหม่ (เนต้า วี-ทู) จะถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก NETA V มาพร้อมแนวคิด “SMART & PLAY” สมาร์ทให้สุด สนุกให้เหนือใคร ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมฟังก์ชันที่ครบครันยิ่งขึ้น พร้อมระบบความปลอดภัยและช่วยในการขับขี่ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสนุกและมั่นใจยิ่งขึ้น
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ภายนอก จะมีความเปลี่ยนแปลงไปจาก NETA V เริ่มจากในส่วนของบริเวณกันชนหน้า ที่จะถูกออกแบบให้มีช่องดักอากาศสีดำ มาพร้อมขนาดช่องที่ใหญ่ขึ้น โดยมาในรูปทรงตัว U คว่ำ
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับช่องรับลมแนวตั้งที่เป็นแบบหลอกตา อยู่ด้านข้างกันหน้าทั้ง 2 ฝั่ง อีกทั้งยังเสริมเพิ่มความหรูหราด้วยคิ้วสีเงินใต้กันชนหน้า และยังตกแต่งด้านในช่องดักลมด้วยเม็ดสีเงินที่ส่องประกายคล้ายกับดวงดาว
ส่วนด้านชุดไฟหน้าจะมาแบบ Projector LED พร้อม ระบบเปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ มาพร้อมไฟ DRL LED ขณะที่เส้นสายด้านข้างของตัวรถนั้นก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งในส่วนของล้ออัลลอยก็ยังคงลวดลายเดิมโดยมีขนาดอยู่ที่ 16 นิ้ว จะมีเพิ่มในส่วนของชายล่างด้านข้าง ที่แต่งด้วยเส้นโครเมียม
ด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้ายแบบ Through-type LED และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เาริมทความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลัง
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับกระจกมองข้างปรับไฟฟ้า, ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบตั้งเวลาหน่วง ในรุ่น LITE และแบบอัตโนมัติในรุ่น SMART, ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง และระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และกระจกมองข้าง
ในด้านขนาดมิติตัวของ NETA V-II จะมีความยาวอยู่ที่ 4,070 มม. ความกว้าง 1,690 มม. ความสูง 1,540 มม. และระยะฐานล้อ 2,420 มม.
ภายในห้องโดยสารจะได้รับการรออกแบบในสไตล์ Hi-Tech Minimalist Concept โดยจะมีให้เลือก 2 สี สีดำ โดยจะเพิ่มในเฉดสีฟ้า-ขาว และสีดำ-ขาว ขึ้นอยู่กับสีภายนอก
แผงแดชบอร์ดยังคงรักษางานออกแบบของ NETA V เอาไว้ พวงมาลัยยังคงมาในแบบสปอร์ตทรง 2 ก้าน มาพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเนต์ขนาด 14.6 นิ้ว ที่มาในแบบแนวตั้งรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay
ด้านชุดอุปกรณ์จะมาพร้อมกับระบบเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter), เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Vehicle Hold, แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย, กุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ, ระบบปรับอากาศควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัส พร้อมระบบกรองอากาศ N95 และช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 3 ตำแหน่ง
ด้านเบาะที่นั่งจะรองรับได้ 5 ที่นั่งเบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังสไตล์สปอร์ตออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ Ergonomic Zero Gravity Seat เบาะนั่งคนขับ และผู้โดยสารตอนนหน้าปรับ 6 ทิศทาง ขณะที่พื้นที่เก็บของด้าหลังจะมีความจุอยู่ที่ 335 ลิตร ้มื่อพับเบาะหลังลงจะเพิ่มพื้นที่มากถึง 552 ลิตร
ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่นั้น อาจจะยกเวอร์ชั่นเดียวกับที่ขายในเมืองจีน ที่จะได้รับการติตดั้งระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะระดับ L2 ที่มาพร้อมกับระบบ ADAS ชุดใหญ่ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนคนเดินถนน, ไฟสูง/ต่ำอัจฉริยะ, ระบบเตือนจุดบอด, ระบบช่วยเปลี่ยนเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบเตือนรถออกจากเลน, ระบบจดจำป้ายจราจร, ระบบเตือนการขับขี่เมื่อยล้า, ระบบเตือนการสตาร์ทรถด้านหน้า และระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ เป็นต้น
ขุมพลังขับเคลื่อนของ NETA V-II จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous ให้กำลังสูงสุด 70kW หรือเทียบเท่า 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ Lithium-ion ให้ระยะทางการวิ่งสูงสุด 382 กม. (NEDC)
รองรับการชาร์จไฟฟ้าด้วยช่องชาร์จทั้ง Normal Charge (AC) แบบ Type 2 ชาร์จไฟเต็ม 0% – 100% ในเวลา 8 ชม. รวมทั้งชาร์จไฟแบบ Quick Charge (DC) แบบ CCS ที่ชาร์จไฟจาก 30% – 80% ในเวลา30 นาที นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบ Regenerative Systems รวมทั้งยังมากับระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) ฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าสู่ภายนอก
สำหรับราคาจำหน่าย NETA V-II
- รุ่น LITE ราคาจำหน่าย 549,000 บาท
- รุ่น SMART ราคาจำหน่าย 569,000 บาท
