in , ,

BYD Shark 6 กระบะปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวในออสเตรเลีย เคาะราคา 1.28 ล้านบาท

BYD เปิดตัว Shark 6 กระบะ PHEV ในออสเตรเลีย ที่มากับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่เป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 430 แรงม้า ขับขี่ในโหมด EV ได้ไกล 100 กม. พร้อมวิ่งครอบคลุมระยะทางไกล 800 กม. เคาะราคาเริ่มที่ 1.28 ล้านบาท

BYD Shark 6

BYD Shark 6BYD Shark 6หลังจากที่ทางบีวายดีได้เปิดตัว BYD Shark รถกระบะปลั๊กอินไฮบริดคันแรกของแบรนด์ที่ในประเทศเม็กซิโก ล่าสุดทางผู้ผลิตรถรายใหญ่จากประทศจีนก็ได้เปิดตัวกระบะ PHEV ใหม่นี้ในตลาดออสเตรเลีย แต่จะมาในชื่อใหม่ที่เรียกว่า Shark 6 เวอร์ชันพวงมาลัยขวาที่แรกของโลก 

BYD Shark 6

โดยซึ่งก่อนหน้านี้ทางกัมพูชาก็ได้เปิดตัว BYD Shark 6 เช่นกันแต่เป็นสเปคพวงมาลัยซ้ายที่นำเข้ามาจากประเทศจีน 

BYD Shark 6

BYD Shark 6
BYD Shark 6 เปิดตัวในกัมพูชา

สำหรับ BYD Shark 6 ที่เปิดตัวในออสเตรเลียนี้มากับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ที่เป็นการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 430 แรงม้า ขับขี่ไฟฟ้าไกลสุด 100 กม. พร้อมวิ่งครอบคลุมระยะทางไกล 800 กม. เมื่อน้ำมันบวกแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็ม เคาะราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 57,900 AUD หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.28 ล้านบาท

BYD Shark 6

BYD Shark 6

ในด้านงานออกแบบก็ไม่ต่างจากสเปกที่เปิดในเม็กซิโก และที่กัมพูชา ที่เน้นความบึกบึน ด้านหน้ามากับกระจังหน้าที่ติดอักษร BYD ไว้ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้า Dual LED ในแบบแนวตั้ง มาพร้อมไฟ LDR LED รูปตัว C พร้อมติดการ์ดกันกระแทกสีเงินไว้ที่ตัวกัชนหน้า 

BYD Shark 6

BYD Shark 6

BYD Shark 6

ด้านข้างออกแบบให้ดูแข็งแกร่งด้วยซุ้มล้อที่ถูกตีโป่งเสริมให้ตัวรถดูมีมัดกล้าม มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทนปัดเงาขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง AT ขนาด 265/65R18, กระจกมองข้างขนาดใหญ่ มาพร้อมบันไดข้างตามแบบฉบับรถสายลุย 

BYD Shark 6

ส่วนด้านบนหลังคาติดตั้งราวหลังคา และซันรูฟขนาดใหญ่ นอกจากนั้นยังดีไซน์ในส่วนของหลังคาให้เป็นแบบลอยตัวด้วยการตกแต่งเสาตัวรถด้วยเฉดสีดำ 

BYD Shark 6

BYD Shark 6

BYD Shark 6

ส่วนพื้นที่กระบะท้ายออกแบบให้ค่อนข้างสั้น โดยจะสามารถจุของได้ที่ 1,450 ลิตร เสริมความสปอร์ตด้วยสปอร์ตบาร์ขนาดใหญ่ ด้านชุดไฟท้าย LED มาในแบบทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่แนวตั้ง โดยชุดไฟเบรกจะเป็นรูปตัว C ที่ด้านใน อีกทั้งยังมีเส้นแถบไฟลากยาวเชื่อมไฟท้ายทั้ง 2 ฝั่ง โดยติดตั้งไว้ที่ฝากระบะท้าย 

BYD Shark 6

BYD Shark 6

ในด้านมิติขนาดตัวรถจจะความยาวอยู่ที่ 5,457 มม. ความกว้าง 1,971 มม. สูง 1,925 มม.และมีระยะฐานล้อ 3,260 มม. โดยมีระยะห่างจากพื้น หรือ Ground Clearance อยุ๋ที่ 230 มม. โดยตัวรถจะมีมุมเข้าอยู่ที่ 31 องศา มุมผ่าน 17 องศา และมุมออก 19.3 องศา 

BYD Shark 6

BYD Shark 6

ดีไซน์ภายในแผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าปัดดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว แบบหมุนได้รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto, Apple CarPlay พร้อมรองรับการอัปเดต OTA และรองรับระบบช่วยสั่งงานด้วยเสียง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหน้าจอ W-HUD ที่สะท้อนข้อมูลการขับขี่ไปยังกระจกบังลมหน้าที่มีขนาดใหญ่ ถึง 12 นิ้ว

BYD Shark 6

ด้านเบาะที่นั่งจะรองรับได้ 5 ที่นั่งตัวเบาะถูกหุ้มด้วยหนังสาีดำ พร้อมปักชื่อแบรนด์ BYD ไว้ที่หัวเบาะทุกตำแหน่ง รวมทั้งในส่วนช่องแอร์ยังตกแต่งด้วยกรอบสีแดงทั้งที่ด้านหน้า และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

BYD Shark 6

BYD Shark 6

BYD Shark 6

คอนโซลกลางออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ถูกเชื่อมต่อกับคอนโซลหน้าแบบสะพาน โดยด้านล่างจะเป็นช่องเก็บของ มาพร้อมพอร์ต USB-A / USB-C อย่างละ 1 ช่องที่ด้านหน้า และ USB-A 1 ช่องที่ด้านหลัง รวมทั้งยังได้รับแท่นชาร์จสามาร์ตโฟนแบบไร้สาย และยังได้รับระบบเครื่องเสียงของทาง Dynaudio พร้อมลำโพง 12 ตัว

ขณะที่ในส่วนด้ามคันเกียร์จะออกแบบให้สามารถยืดหดได้ อีกทั้งยังมาพร้อมปุ่มควบคุมสั่งการในรถที่ออกแบบให้ดูคล้ายกับปุ่มงานงานบนเครื่องบิน 

BYD Shark 6

นอกจากนี้ BYD Shark 6 ยังมากับ ระบบกุญแจ NFC ทำงานควบคู่กับ กุญแจแบบคีย์การ์ด พร้อมระบบ Keyless Start เหมือนกับรถทุก ๆ รุ่นของทาง BYD 

BYD Shark 6

BYD Shark 6

ในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ BYD Shark 6 จะมากับระบบช่วยขับขี่ ADAS พร้อมกล้องมองภาพ 540° ที่ประกอบด้วยกล้องมองภาพรอบคัน 360° และกล้องภาพใต้ท้องรถ 180° รวมทั้งยังได้รับระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า,  ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้, ระบบเตือนการชนด้านหน้า/ด้านหลัง, ระบบการเตือนชนด้านหลัง, ระบบเตือนรถออกนอกเลน, ระบบเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และถุงลมนิภัย 7 ตำแหน่ง เป็นต้น 

BYD Shark 6

BYD Shark 6 เป็นรถกระบะขนาดกลาง ถูกสร้างขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม DMO (Dual Mode Off-Road) ที่เน้นประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรด ของทาง BYD ที่เหมือนในรุ่น Fangbaobao 5 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Leopard 5

BYD Shark 6

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อน จะมากับระบบ Plug-in Hybrid ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเทอร์โบความจุ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 135 kW (181 แรงม้า) แรงบิด 260 นิวตันเมตร 

BYD Shark 6

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 436 แรงม้า แรงบิดที่มากถึง 650 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. มีพละกำลังในการลากจูงสูงสุด 2,500 กก. รองรับน้ำหนักในการบรรทุก 835 กก.

BYD Shark 6

BYD Shark 6

มีโหมดการขับขี่แบบลุยหรือ Terrain Mode ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ Sand, Mud และ Snow พร้อมลุยน้ำลึกถึง 700 มม. ด้านระบบช่วงล่างของ BYD SHARK 6 จะเป็นแบบปีกนกคู่หน้าและหลัง 

BYD Shark 6

BYD Shark 6

BYD Shark 6

มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 29.58 kWh วิ่งในโฟมดไฟฟ้าได้ระยะางไกลสุด 100 กม. พร้อมวิ่งครอบคลุมระยะทางไกลถึง 800 กม .เมื่อน้ำมันเต็มถัง บวกแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็ม โดยจะมากับถังน้ำมันขนาดความจุ 60 ลิตร พร้อมรองรับการชาร์จไฟ AC สูงสุด 7 kW ส่วนชาร์จไฟ DC จะมีขนาด 55 kW รวมทั้งยังมากับระบบ V2L ที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอกได้

BYD Shark 6

BYD Shark 6

BYD Shark 6

BYD Shark 6 ที่เปิดวางตัวในออสเตรเลียจะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Deep Sea Blue, สีดำ Tidal Black และสีขาว Great White

BYD Shark 6

BYD Shark 6

ส่วนด้านราคาจำหน่ายทางบีวายดีออสเตรเลียเปิดราคา BYD Shark 6 สเปกพวงมาลัยขวาไว้ที่  57,900 AUD หรือประมาณ 1,280,000 บาท ขณะที่สเปกพวงมาลัยซ้ายที่เปิดตัวในกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นแห่งแรกในย่านอาเซียนนั้นจะมีราคาอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท 

BYD Shark 6

ส่วนในบ้านเราที่ประเทศไทยนั้นจากข่าวเตรียมขึ้นไลน์ประกอบ ที่ในโรงงาน จ.ระยอง และพร้อมทำตลาดได้ในปี 2568 ที่จะถึงนี้