ขณะที่ใครหลาย ๆ คนกำลังเฝ้ารอการเปิดตัววางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ AVATR 11 เอสยูวีไฟฟ้าดีไซน์หรู ที่เป็นหนึ่งใน Sub-Brand ของทาง Changan ในตลาดเมืองไทย ซึ่งข่าวล่าสุดคาดว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ วันนี้
แต่ที่ในเมืองจีนประเทศแม่ของทาง AVATR ได้เผยโฉม AVATR 11 โมเดลปี 2024 ที่มาพร้อมความหรูหรามากกว่าเดิมด้วยการปรับแต่งภายในใหม่ รวมทั้งยังเพิ่มเฉดสีทองใหม่เติมเข้ามา เปิดราคาจำหน่ายในจีนเริ่มต้นที่ 300,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยุ่ที่ราว ๆ 1.5 ล้านบาท
ในด้านรูปลักษณ์ดีไซน์ของ AVATR 11 โมเดลปี 2024 นั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยนำมาดชว์ตัวในบ้านเราเมื่อครั้งในงาน Motor Expo 2023 และงาน Motor Show 2024 ที่ผ่านมา โดย AVATR 11 รุ่นอัปเกรดใหม่ปี 2024 จะมากับเฉดสีทองเรืองแสงใหม่ เหมือนกับในรุ่น AVATR 12 ที่ถูกเปิดตัวไปก่อนล่วงหน้า โดยสีทองพเศษนี้ จะมาเป็นแบบเม็ดสีที่เปลี่ยนสีได้ เมื่อสะท้อนกับแสงจะทำให้สีของตัวรถนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละมุม
ส่วนภายในห้องโดยสารของ AVATR 11 โมเดลปี 2024 ก็ได้่รับการตกแต่งใหม่ด้วยโทนสีขาวสลับม่วง เสริมความหรูหราด้วยขอบสีทองบรเวณตัวคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงประตู เพื่อให้เข้ากับตัวถังสีทองใหม่
ขณะที่แผงแดชบอร์ดยังคงโดดเด่นด้วยหน้าจอถึง 3 จอ โดยจะแบ่งเป็นแผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนต์ส่วนกลางขนาด 15.6 นิ้ว ที่รองรับฟังก์ชันการแบ่งหน้าจอ เพื่อแสดงการนำทาง เล่นเกม และรับชมวิดีโอได้
นอกจากนี้ AVATR 11รุ่นปี 2024 ยังมาพร้อมระบบเครื่องเสียงของทาง Meridian ที่มากับลำโพง 25 ตัวเป็นชุดอุปกรณ์มาตรฐาน ที่ช่วยทำให้ภายในห้องโดยสารมีเสียงแบบเซอร์ราวด์ 7.1.4 แชนเนล รวมทั้งยังมากับเพาเวอร์แอมป์ PA3 DSP ที่มีกำลังขับ 2016W ที่จะช่วยให้เพลินเพลินกับเสียงเพลงตลอดการเดินทาง
ขณะที่ตัวเบาะที่นั่งของ AVATR 11 รุ่นใหม่นี้ จะได้ปรับเปลี่ยนมาใช้เป้นแบบหนังกึ่งอนิลีนฟูลเกรน ที่ให้ความนุ่มสบายมากกว่ารุ่นเดิม รวมทั้งระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ในทุกรุ่นย่อยของเอสยูวีไฟฟ้าสุดหรูนี้ตัวเบาะคู่หน้าจะเป็นแบบ Zero-gravity ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อความสบายสูงสุดยามเดินทาง ในขณะที่เบาะด้านหลังจะมากับระบบระบายอากาศ และฟังก์ชันเบาะอุ่น ที่ช่วยยกระดับให้ตัวรถมีความพรีเมียมมากขึ้น
AVATR 11 ยังคงมากับแพลตฟอร์ม EP1 และมากับระบบส่งกำลัง DriveONE ของ Huawei มีให้เลือกทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยในรุ่นมอเอตร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว จะให้กำลัง 230kW หรือราว 309 แรงม้า แรงบิดสูงสด 370 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 6.6 วินาที
ส่วนในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่จะให้กำลัง 425kW หรือ 570 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 3.9 วินาที
ด้านชุดแบตเตอรี่มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 90 kWh และ 116 kWh มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว 750V ให้ระยะทางวิ่งไกล 580 – 730 กม.
ด้านเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยของ AVATR 11 โมเดลปี 2024 จะมากับระบบป้องกันการชนรอบด้าน ที่ประกอบไปด้วยระบบ AEB/GAEB ด้านหน้า, ระบบ ELKA/LOCP ด้านข้าง และ ระบบ RAEB ด้านหลัง รวมถึงมีการป้องกันการชนกันของสิ่งกีดขวางด้านข้าง (LOCP) ใหม่ที่ทำงานโดย เครือข่าย Laser Radar GOD โดยเมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็อยู่ในช่วง 30 – 130 กม./ชม. ระบบป้องกันการชนด้านข้างจะช่วยหลบหลีกเมื่อตรวจพบสิ่งกีดขวาง และควบคุมรถให้กลับเข้าสู่เลนเดิม เพื่อป้องกันการชน
สำหรับราคาจำหน่าย AVATR 11 รุ่นปี 2024 ใหม่ จะมีให้เลือก 4 รุ่นย่อยในตลาดเมืองจีน
- รุ่น 630 RWD ราคา 300,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.56 ล้านบาท
- รุ่น 580 AWD ราคา 330,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.69 ล้านบาท
- รุ่น 730 RWD ราคา 330,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1.69 ล้านบาท
- รุ่น 700 AWD ราคา 390,800 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 2.03 ล้านบาท
ส่วนสเปคเวอร์ชั่นที่จะเปิดวางขายนบ้านเรานั้นต้องรอลุ้นกันว่าจะมาแบบไหนกันบ้าง รวมทั้งจะเปิดราคาจำหน่ายอยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งถ้าหากมีความคืบหน้าออกมาอย่างไร ทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง