หลังจากที่ทาง BYD ได้ปล่อยรถยนต์ไฟฟ้าลงตลาด ก็สามารถสร้างกระแส โดยได้รับการตอบรับที่ดีมาโดยตลอด ทั้งในบ้านเกิดที่เมืองจีน รวมทั้งในตลาดบ้านเราที่เมืองไทย
ล่าสุดทางบีวายดีผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหย่จากประเทศจีนเตรียมที่จะส่งรถยนต์ไฟฟ้าตัวใหม่ออกวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศอีกรุ่น ซึ่งต่อมาจาก BYD ATTO 3 และ BYD Dolphin นั้นก็คือ BYD Seal U โดยเตรียมที่จะไปเปิดตัวอย่างเป้นทางการในตลาดยุโรปที่ในงานมิวนิคมอเตอร์โชว์ ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
สำหรับ BYD Seal U เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบเอสยูวีที่มีขนาดใหญ่กว่า ATTO 3 โดยจะเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่ของซี่รี่ส์ Ocean ที่ประกอบด้วย Dolphin, Seal, Frigate, Destroyer และ Seagull ซึ่งอันที่จริงแล้ว BYD Seal U นั้นก็จะเป้นตัวเดียวกันกับ Song Plus Champion Edition ที่ถูกเปิดวางจำหน่ายในประเทศจีน โดยเป็นรถในซีรี่ส์ Dynasty ที่เป็นชื่อของราชวงศ์จีน อันประกอบไปด้วย Han, Tang, Qin, Yuan และ Song
ในด้านการตลาดนั้นทาง BYD หมายมั่นว่าจะเปิดตัว BYD Seal U เอสยูวีไฟฟ้าตัวใหม่นี้ในตลาดยุโรป เพื่อออกมาแข่งกับ Tesla Model Y
ในด้านงานออกแบบตัวรถของ BYD Seal U นั้น จะมากับกระจังหน้าแบบปิดทึบ พร้อมดีไซน์แนวฝากระโปรงลาดเอียง ตรงปลายฝากระโปรงติดแบรนด์ BYD ขนาดใหญ่ มาพร้อมชุดไฟหน้า LED และไฟ DRL ที่ดีไซน์ให้เป็นรูปตัว L วางเชื่อมต่ออยู่ด้านล่าง ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นช่องรับอากาศขนาดใหญ่พร้อมตกแต่งด้วยชื้นงานสีเงิน ขณะที่ด้านปลายมุมกันชนทั้งสองฝั่งจะออกดแบบให้มีช่องดักลมเทียม ที่มาพร้อมแถบไฟตัดหมอก LED ที่วางเรียวซ้อนกัน 2 ชั้น
เส้นสายข้างตัวรถออกแบบให้มีความเส้นที่ดูเฉียบคมลากยาวตั้งแต่โคมไฟหน้า ไปยังชุดไฟท้าย แนวหลังคาท้ายออกแบบให้ลาดเอียงเล็กน้อย เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคา และเสาอากาศแบบครีบฉลาม
ด้านชุดไฟท้ายมาตามแบบสมัยนิยมที่เป้ชุดไฟ LED ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนท้าย ขณะที่กันชนท้ายออกแบบให้มีช่องระบายอากาศแบบหลอก มาพร้อมตัวกันชนท้ายที่ติดตั้งดิวฟิวเซอร์สีเงิน และที่น่าสังเกตุอีกอย่างของ Seal U โดยที่ด้านหลัง จะไม่มีคำว่า “Build Your Dreams” เหมือนกับรถรุ่นอื่น ๆ ของทางค่าย
สำหรับในด้านขนาดตัวรถนั้นจะมีความยาว 4,785 มม., กว้าง 1,890 มม. สูง 1,660 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,765 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับ ATTO 3 แล้วจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าในทุกมิติ
สำหรับรายละเอียดภายในห้องโดยสารของ BYD Seal U จากข้อมุลเบื้องต้นจะมีความคล้ายกับ Song Plus Champion Edition โดยแผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งหน้าปัด LCD และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ที่สามารถหมุนได้ รองระบบการเชื่อมต่อเครือข่าย DiLink พร้อมรองรับการอัปเดทแบบ OTA
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุ 570 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวหลังลงจะเพิ่มความจุมากถึง 1,449 ลิตร
คอนโซลกลางออแบบให้เชื่อมต่อยกสูงติดกับคอนโซลหน้า โดยได้รับการดีไซน์ให้มีพื้นทืี่ขนาดใหญ่ ซึ่งจะมากับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนที่สามารถชาร์จพร้อมกันได้ถึง 2 เครื่อง เพิ่มความหรูหราด้วยหัวเกียร์คริสตัล, ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา มาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบกุญแจ NFC และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่
BYD Seal U จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน e-platform 3.0 โดยในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจากข้อมูลเผยว่าจะมีให้เลือก 2 รุ่น ด้วยกัน ได้แก่ รุ่น Standard Range ที่จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุดระดับ 310 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 9.3 วินาที
มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP ขนาดความจุ 71.8 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทาง 520 กม. ตามาตรฐาน WLTP พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว DC โดยจะให้กำลังไฟจาก 30-80% ภายในเวลา 28 นาที อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟแบบ AC ที่ชาร์จไฟจาก 0 – 100% ได้ในเวลา 8 ชม.
ส่วนในรุ่น Extended Range จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 218 แรงม้า กับ แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ด้สนแตเตอรี่จะมีขนาดความจุที่ 87 kWh ชาร์จไฟเต้มวิ่งได้ไกลถึง 605 กม. ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการ DC ให้กำลังไฟจาก 30-80% ภายในเวลา 29 นาที อีกทั้งยังรองรับกาชาร์จไฟแบบ AC 11 kW ที่ชาร์จไฟจนเต็ม ภายในเวลา 8 ชม.
โดยทาง BYD เตรียมที่จะเปิดตัว BYD Seal U เอสยูวีไฟฟ้าตัวใหม่นี้ในยุโรปที่ในงาน IAA Mobility 2023 หรือมิวนิคมอเตอร์โชว์ ในประเทศเยอรมนี ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-10 กันยายนนี้ ส่วนในบ้านเรานั้นคาดว่าอาจจะได้เห็นโชว์จริงของ BYD Seal U นี้ในช่วงปี 2567 นี้
