หลังจากที่มีข่าวว่าทาง BYD ในประเทศจีนเตรียมที่จะส่ง BYD Seal U เอสยูวีไฟฟ้าใหม่ลงวางตลาดในยุโรปช่วงปลายปี 2023 นี้ รวมทั้งล่าสุดก็มีเวอร์ชันสเปกพวงมาลัยขวา วิ่งทดสอบอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ที่ทางบีวายดี ประเทศไทยอาจนำเจ้า BYD Seal U เข้ามาจัดจำหน่ายในบ้านเราที่เมืองไทยในเร็ว ๆ วันนี้
สำหรับ BYD Seal U เป็นรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบเอสยูวีที่มีขนาดใหญ่กว่า ATTO 3 โดยจะเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่ของซี่รี่ส์ Ocean ที่ประกอบด้วย Dolphin, Seal, และ Seagull
ซึ่งอันที่จริงแล้ว BYD Seal U นั้นก็จะเป็นตัวเดียวกันกับ Song Plus ที่ถูกเปิดวางจำหน่ายในประเทศจีน โดยเป็นรถในซีรี่ส์ Dynasty ที่เป็นชื่อของราชวงศ์จีนอันประกอบไปด้วย Han, Tang, Qin, Yuan และ Song
ในด้านการตลาดนั้นทาง BYD หมายมั่นว่าจะเปิดตัว BYD Seal U เอสยูวีไฟฟ้าตัวใหม่นี้ในตลาดยุโรป เพื่อออกมาแข่งกับ Tesla Model Y ส่วนถ้ามาในเมืองไทยก็คงจะต้องไปวัดกับทาง Deepal S07 เอสยูวีไฟฟ้าของทาง CHANGAN
ในด้านงานออกแบบตัวรถของ BYD Seal U นั้นจะมากับกระจังหน้าแบบปิดทึบ ฝากระโปรงมาในแบบลาดเอียง ติดแบรนด์ BYD ขนาดใหญ่ไว้ที่ตรงปลายฝากระโปรง มาพร้อมชุดไฟหน้า LED และไฟ DRL ที่ดีไซน์ให้เป็นรูปตัว L วางเชื่อมต่ออยู่ด้านล่าง ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นช่องรับอากาศขนาดใหญ่พร้อมตกแต่งด้วยชื้นงานสีเงิน ขณะที่ด้านปลายมุมกันชนทั้งสองฝั่งจะออกดแบบให้มีช่องดักลมเทียม ที่มาพร้อมแถบไฟตัดหมอก LED ที่วางเรียวซ้อนกัน 2 ชั้น
เส้นสายด้านข้างเน้นความเฉียบคม และโฉบเฉี่ยว แนวหลังคาท้ายออกแบบให้ลาดเอียงเล็กน้อย เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคา และเสาอากาศแบบครีบฉลาม
ด้านชุดไฟท้าย LED แบบวางพาดยาวเต็มพื้นที่ ขณะที่กันชนท้ายออกแบบให้มีช่องระบายอากาศแบบหลอก มาพร้อมตัวกันชนท้ายที่ติดตั้งดิวฟิวเซอร์สีเงิน
ในด้านขนาดมิติตัวรถจะมีความยาว 4,785 มม. ความกว้าง 1,890 มม. ความสูง 1,660 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,765 มม.
สำหรับรายละเอียดภายในห้องโดยสาร แผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งหน้าปัด LCD และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ที่สามารถหมุนได้ รองระบบการเชื่อมต่อเครือข่าย DiLink พร้อมรองรับการอัปเดทแบบ OTA
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุ 570 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวหลังลงจะเพิ่มความจุมากถึง 1,449 ลิตร
คอนโซลกลางออแบบให้เชื่อมต่อยกสูงติดกับคอนโซลหน้า โดยได้รับการดีไซน์ให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งจะมากับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนที่สามารถชาร์จพร้อมกันได้ถึง 2 เครื่อง เพิ่มความหรูหราด้วยหัวเกียร์คริสตัล, ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา มาพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบกุญแจ NFC และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่
BYD Seal U จะถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน e-platform 3.0 โดยในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่
- รุ่น Standard Range ที่มากับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุง 310 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. อยู่ที่ 9.3 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP ขนาดความจุ 71.8 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทาง 520 กม. ตามมาตรฐาน WLTP พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว DC โดยจะให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ภายในเวลา 28 นาที อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟแบบ AC ที่ชาร์จไฟเต็มในเวลา 8 ชม.
- รุ่น Extended Range จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ด้านแตเตอรี่จะมีขนาดความจุที่ 87 kWh ชาร์จไฟวิ่ไกลสูด 605 กม. ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการ DC ให้กำลังไฟจาก 30 – 80% ภายใน 29 นาที อีกทั้งยังรองรับกาชาร์จไฟแบบ AC 11 kW ที่ชาร์จไฟจนเต็มภายในเวลา 8 ชม.
สำหรับ BYD Seal U ได้ถูกเผยโฉมในยุโรปไปแล้วที่งาน IAA Mobility 2023 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยแอบลุ้นว่าในบ้านเราอาจจะได้เห็นตัวจริงในช่วงปี 2567 นี้