หลังจากที่ได้เผยโฉมแบบชิมลางเรียกน้ำย่อยในงาน Motor Expo 2022 เมื่อช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา สำหรับ Hyundai Stargazer รถ Mini MPV แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่ของทางค่าย Hyundai จากเกาหลีใต้
ล่าสุดทางฮูนไดเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมขายจริงในไทยที่ในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ในวันที่ 20 มีนาคมที่จะถึงนี้ ส่วนรอบบุคคลทั่วไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 นี้
โดยการมาครั้งนี้ของ Hyundai Stargazer จะถูกบริหารโดยทาง บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่จากเกาหลีโดยตรง
สำหรับ Hyundai Stargazer ถูกเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศอินโดนีเซียเมื่อกลางปี 2022 ที่ผ่านมา ตัวรถจะมาในรูปแบบ Mini MPV แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่ได้รับแรงบันดาลใจการดีไซน์รูปลักษณ์มาจาก Hyundai Staria โดยจะถูกวางตัวให้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Toyota Veloz / Mitsubishi Xpander / Honda BR-V / Suzuki XL7
ในด้านขนาดมิติตัวรถ จะมีความยาวอยู่ที่ 4,460 มม., กว้าง 1,780 มม., สูง 1,695 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,780 มม.
สำหรับรูปลักษณ์หน้าตา จะดูเหมือนเป็นการย่อส่วนของ Hyundai Staria ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย ชุดไฟ DRLs ที่เป็นเส้น LED ที่ทันสมัยวางพาดยาวเต็มในส่วนหน้ารถ ขณะที่ชุดไฟส่องสว่างหน้าจะเป็นแบบเรียวซ้อนกัน 4 ดวง ที่ถูกแยกออกมา มาพร้อมกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ รูปตัว X ส่วนด้านล่างจะติดตั้งกันชนหน้าที่มาพร้อมช่องรับลมรูปสี่เหลี่ยมคางหมู
เส้นสายด้านข้างตัวรถดีไซน์ด้วยความโฉบเฉี่ยว ส่วนที่ดึงดูดสายตาจะเป็นการออกแบบเส้นขอบหลังคาที่ดีไซน์ให้มาบรรจบกับเส้นข้างตัวถังที่บริเวณเสา D ซึ่งสร้างรูปลักษณ์ ให้ตัวรถดูสูงโปร่งขึ้น ที่เป็นแบบหลังคาลอย ซุ้มล้อออกแบบให้เป็นทรงเหลี่ยม รับกับล้ออัลลอยดีทันสมัยที่มีขนาด 16 – 17 นิ้ว ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย
ด้านท้ายรถติดตั้งชุดไฟท้าย LED รูปสามเหลี่ยมที่ดูคล้ายกับ Hyundai Bayon มาพร้อมเส้นไฟ LED ที่วางพาดยาวเชื่อมต่อไฟท้ายทั้งสองฝั่ง ที่เป็นรูปตัว H ขนาดใหญ่ มาพร้อมชื่อรุ่น Stargazer ที่วางอยู่ใต้โลโก้ Hyundai ที่ประตูท้าย
นอกจากนั้นในส่วนหลังคาด้านบนยังออกแบบให้เป็นหลังคาสีดำ พร้อมเสริมควาหรูหราด้วยดิฟฟิวเซอร์อะลูมิเนียม และมือจับประตูแบบโครเมียม
ส่วนภายในห้องโดยสารจะเป็นแบบ 3 แถว ทั้งแบบ 6-7 ที่นั่ง ในส่วนเบาะแถวที่ 2 เวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในอินโดนีเซีย จะสามารถเลือกได้ทั้งแบบที่นั่งเต็มหรือจะเป็นเบาะแบบกัปตันซีท มาพร้อมที่วางแขนตรงกลาง และถาดวางที่พับเก็บได้ที่ติดตั้งอยู่หลังเบาะแถวหน้า
การตกแต่งเน้นโทนสีดำพร้อมตกแต่งด้วยโครเมียมตามจุดต่าง ๆ แผงแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูล LCD ขนาด 4.2 นิ้ว ที่วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน มาพร้อมหน้าอินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
ด้านชุดอุปกรณ์ติดตั้งเครื่องเสียงคุณภาพพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง พอต USB สำหรับเชื่อมต่อระบบ Multimedia และที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พื้นที่เก็บสัมภาระจะมีขนาด 200 ลิตร เมื่อพับเบาะที่นั่งแถวที่ 3 ลง จะเพิ่มพื้นที่เป็น 585 ลิตร
พละกำลังของ Hyundai Stargazer จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 113 แรงม้า 115 แรงม้า (PS) และแรงบิด 144 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ CVT โดยส่งกำลังทั้งหมดไปยังเพลาคู่ล้อหน้า มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Eco, Sport และ Smart
ในด้านระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Hyundai SmartSense อาทิชุดไฟส่องสว่างรอบข้าง, ถุงลมนิรภัย 6 จุด, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, สัญญานไฟกระพริบฉุกเฉินเมื่อเบรกกระทันหัน,ระบบกล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด, ระบบแจ้งเตือนความผิดปกติของแรงดันลมยาง, เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง
ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน, ระบบเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา, ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ, ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาทางด้านหลัง, ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ และระบบเตือนให้ตรวจสอบผู้โดยสารด้านหลัง เป็นต้น
ทัังหมดก็เป็นรายละเอียดบางส่วนของ Hyundai Stargazer สำหรับเวอร์ชั่นที่จะวางจำหน่ายในเมืองไทยจะเป็นอย่างไร มีการตัดหรือเปลี่ยนแปลงจากสเปกอินโดนีเซียมาน้อยขนาดไหน และที่สำคัญจะเปิดราคาออกมาสู้กับพวกพี่ ๆ ที่มาก่อนได้หรือไม่อย่างไร วันที่ 20 นี้ได้รู้กัน โดยทาง Autostation.com จะนำรายงาน และข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
