in , , ,

JAECOO 7 เอสยูวีใหม่จากแบรนด์ CHERY ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยปี 2567 นี้

JAECOO 7 เอสยูวีสายลุยตัวใหม่ของทางแบรนด์ CHERY พร้อมลุยตลาดในไทยปี 2567 นี้

JAECOO 7

จากรายงานที่ทาง Autostation.com เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้ว่าทาง CHERY (เฌอรี่) เตรียมหวนคืนกลับมาทำตลาดในเมืองไทยอีกครั้ง หลังจากที่โบกมือลาจากประเทศไทยไปนานกว่า 5 ปี  

JAECOO 7

โดยในการกลับมาใหม่ครั้งนี้เตรียมที่จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า โดยใช้ชื่อแบรนด์ในเครือ CHERY อย่าง OMODA (โอโมด้า) และ JAECOO (เจโก้) สำหรับทำตลาดในเมืองไทย แทนการใช้แบรนด์ CHERY เหมือนกับการทำตลาดในประเทศอื่น ๆ

JAECOO 7
OMODA 5

สำหรับตัวรถนั้นจากข่าวจะเริ่มทำการตลาดด้วยรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง OMODA 5 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนกภทภาพันธ์ 2567 นี้ ส่วนอีกรุ่นจะเป็นจากทางแบรนด์ JAECOO โดยรถรุ่นที่ได้รับการคาดหมายจะนำมาลงตลาดในไทยคาดว่าจะเป็น JAECOO 7 เอสยูวีสายลุยที่มากับขุมพลัง PHEV โดยจะมาในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2567 นี้

ซึ่งก่อนที่จะไปพบเจอตัวจริงเสียงจริงของ OMODA 5 และ JAECOO 7 นั้นทางทีมงานมีข้อมูลบางส่วนของ JAECOO 7 มาฝากกันก่อนเล็กน้อย 

OMODA 5

สำหรับ JAECOO 7 เป็นรถในรูปแบบเอสยูวีที่อยู่ในเครือของทาง CHERY โดยล่าสุดมีข่าวว่าเตรียมที่จะลงตลาดในมาเลเซียเพื่อนบ้านเราในย่านอาเซียนช่วงต้นปี 2024 นี้ 

ในด้านงานออกแบบของ JAECOO 7 เป็นรถออฟโรดอัจฉริยะรุ่นแรกที่พัฒนาโดยแบรนด์ JAECOO ซึ่งเข้ามาเติมเต็มตลาดที่มีช่องว่าง เรื่องสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่โดดเด่น และเทคโนโลยีอัจฉริยะ JAECOO 7 เกิดจากความร่วมมือกว่าสิบปีของ Chery กับ Jaguar Land Rover

JAECOO 7

งานดีไซน์เน้นความบึกบึน แข็งแกร่ง ตามแบบฉบับรถออฟโรดสายลุย กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมรูปตัว U ขนาดใหญ่ ด้านในเป็นตะแกรงสีดำมาในแบแนวตั้ง พร้อมติดตราชื่อแบรนด์ JAECOO ไว้ตรงกึ่งกลาง ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน โดยด้านบนจะเป็นชุดไฟ DRL LED ที่มาในทรงเหลี่ยมแบบเรียวยาว ส่วนชุดไฟส่องสว่างด้านล่างจะเป็นแบบ LED ที่ออกแบบให้เป็น 2 ชั้น ขณะที่ชายล่างมาพร้อมช่องดักอากาศทรงเหลีั่ยม ที่มีไฟตัดหมอกติตดั้งอยู่ด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง 

JAECOO 7

ขณะที่ด้านข้างตัวรถ มากับเส้นสายที่เรียบง่าย ซุ้มล้อตกแต่งด้วยแถบสีดำ ตามแบบฉบับรถออฟโรดสายลุย มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ส่วนมือเปิดประตูถูกออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวรถ เหมือนรถหรูราคาแพง นอกจากนั้นยังตกแต่งที่เสา A และ C ด้วยแถบสีดำ ทำให้ตัวรถมีหลังคาแบบลอยตัว หรือแบบ Floating 

JAECOO 7

ส่วนด้านท้ายงานออกแบบก็จะเน้นในรูปท่รงเหลี่ยมทั้งหมดเริ่มจากชุดไฟท้ายที่เป็นแถบสีเหลี่ยมที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนท้าย ตรงกลางติดป้ายชื่อแบรนด์ J A E C O O เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาสีดำ มาพร้อมกันชนท้ายขนาดใหญ่สีดำ เติมภาพลักษณ์รถสายลุยด้วยการ์ดกะันกระแทกด้านหลังวสีเงิน พร้อมกับติดตั้งปลายท่อไอเสียโครเมียมทรงสี่เหลี่ยม

JAECOO 7

ในด้านมิติขนาดตัวรถจะเป็นแพลตฟอร์มเดียวกันกับ Chery Discovery 06 หรืออีกชื่อคือ Chery Tansuo 06 โดยจะมีความยาว 4,500 มม. ความกว้าง 1,856 มม. ความสูง 1,680 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,672 มม. รวมทั้งยังออกแบบให้มีระยะห่างจากพื้น 200 มม. โดยตัวรถสามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 605 มม.รวมถึงยังมีมุมเข้า 21 องศา และมุมออก 29 องศา เพื่อให้สามารถลุยในเส้นทางออฟโรดได้อย่างสบาย

JAECOO 7

JAECOO 7

ภายในห้องโดยสารเน้นการออกแบบพรีเมียม แผงแดชบอร์ดติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงสามก้าน วางอยู่ด้านหน้าจอแบบ LCD ที่วางแบบลอยตัวขนาด 10.25 นิ้ว ขณะที่หน้าจออินโฟรเทนเมนต์จะมาในแบบสัมผัสมีขนาด 14.8 นิ้ว รวมทั้งยังได้รับหน้าจอ W-HUD ที่สะท้อนไปยังกระจกบังลมหน้า พร้อมกับติดตั้งชิป Qualcomm Snapdragon 8155

JAECOO 7

JAECOO 7

คอนโซลกลางจะถูกเชื่อมต่อกับแผงคอนโซลหน้าโดยออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มาพร้อมคันเกียร์ไฟฟ้าดีไซน์สุดเท่ห์ , แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สายที่ชาร์จได้พร้อมกัน 2 เครื่อง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาที่มีขนาด 1.1 ตร.ม.

JAECOO 7

JAECOO 7

JAECOO 7

เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังระดับพรีเมี่ยม เบาะนั่งฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ขณะเบาะนั่งแถวที่ 2 พับแบบ 40:60 

JAECOO 7

ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมากับขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.6T ให้กำลัง 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 290 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีต DCT มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD 

JAECOO 7

นอกจากนี้คาดว่ายังจะมีขุมพลัง PHEV เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่เป็นการทำงานรวมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหน้า ให้กำลัง170 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะให้พละกำลังที่มากถึง 326 แรงม้า แรงบิด 545 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ DHT มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ให้เลือกมากถึง 9 โหมด ขณะที่ชุดแบตเตอรี่จะเป็นแบบ Ternary lithium battery ขนาด 19.27 kWh ส่วนระยะทางการวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วน ๆ นั้นยังไม่มีการเปิดออกมา

สำหรับ JAECOO 7 คาดว่าจะเข้าาพร้อมท้าชนกับรถรุ่นพี่ ๆ ในตลาดเมืองไทยทั้ง Toyota Corolla Cross Hybrid, Honda HR-V, MG HS PHEV และ Haval H6

JAECOO 7

ส่วนการเปิดตัวของ JAECOO 7 คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ที่จะถึงนี้  ส่วนรายละเอียดโดยรวมจะเป็นอย่างไรทางทีมงาน Autostation.com จะนำรายงานให้ทราบอีกครั้งต่อไป