หลังจากที่ทาง Zeekr Thailand ได้เคยนำ Zeekr X มาโชว์ตัวในไทยครั้งในงาน Bangkok International Motor Show เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ที่ผ่านมา ซึ่างในครั้งนั้นมีมาทั้งแบบรุ่นพวงาลัยซ้สาย และขวา รวมทั้งยังได้เปิดจองล่วงหน้า โดยในขณะนั้นทาง Zeekr Thailand โดยยังไม่ได้ประกาศวันที่จะพร้อมส่งมอบได้จริงแต่อย่างใด เพียงแต่บอกว่าจะพร้อมส่งมอบรถได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 นี้
ล่าสุดที่โรงงาน Zeekr ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ทางผู้ผลิตรถซีเกอร์ ได้เผยภาพของ Zeekr X เวอร์ชันพวงมาลัยขวา กำลังทยอยออกจากสายการผลิต ซึ่งจากข่าววงในเผยว่า Zeekr X ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าเวอร์ชันพวงมาลัยขวารุ่นแรก กำลังเตรียมมุ่งหน้าไปยังตลาดใหญ่อย่างออสเตรเลีย รวมทั้งในประเทศไทย ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามกำหนดที่ทาง Zeekr ประเทสไทย ได้ประกาศเอาไว้
ในด้านงานออกแบบของ Zeekr X ตัวรถจะเน้นความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ผสานกับความล้ำสมัยอย่าง ตัวรถดีไซน์ให้มีมิติดูโค้งมน ฝากระโปรงหน้าแบบลาดเท มาพร้อมกระจังหน้าแบบปิดทึบ ขณะที่ตัวกันชนหน้าดีไซน์ให้มีช่องรับลมขนาดใหญ่ มาพร้อมชุดไฟหน้าที่ออกแบบให้เป็นเส้น LED ที่ต่อเชื่อมกัน 3 เส้น
เส้นสายด้านข้างจะออกแบบให้ดูราบเรียบตัวรถจะไม่มีมือเปิดประตูด้านนอก มือเปิดประตูจะเป็นช่องไว้สำหรับนิ้วสอดเข้าไป ตัวรถจะมาในแบบสีทูโทนโดยตั้งแต่เสา A ไปจนถึงเสา C และหลังคาจะมาในโทนสีดำทั้งหมด รวมทั้งในส่วนของซุ้มล้อก็ตกแต่งด้วด้วยเฉดสีดำเงา มาพร้อมล้ออัลอยทูโทนขนาด 18 – 20 นิ้ว (ขึ้นอยู่แต่ละรุ่นย่อย)
ด้านท้ายออกแบบให้มีความลาดเท พร้อมเสริมความสปอร์ตให้กับตัวรถด้วยสปอยเลอร์หลังคา มาพร้อมชุดไฟท้ายมาในแบบเส้น LED วางพาดยาวเต็มพื้นที่ โดยมีชื่อ Z E E K R แบบเรืองแสงกั้นไว้ตรงกลาง
ด้านมิติขนาดตัวรถของ Zeekr X จะมีความยาวอยู่ที่ 4,450 มม. ความกว้าง 1,836 มม. ความสูง 1,572 มม. และมีฐานล้ออยู่ที่ 2,750 มม.
ภายในห้องโดยสารของเวอร์ชันพวงมาลัยขวา จะตกแต่งด้วยโทนสีที่มากกว่า และเลือกได้หลายโทนมากกว่าในรุ่นพวงมาลัยซ้ายที่จากเดิมจะมีเฉพาะโทนสีเขียว Hangqing Green และสีขาว Athens Cloud White
โดย Zeekr X เวอร์ชันพวงมาลัยขวาที่ผลิตออกมาจากโรงงานล่าสุดนี้ จะเป็นแบบ 5 ที่นั่ง (2+3) ซึ่งเหมือนกับตัวที่นำมาโชว์โฉมในงานมอเตอร์โชว์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา (เวอร์ชั่นพวงมาลัยซ้ายที่ขายในจีนนั้นจะมีรุ่นแบบ 4 และ 5 ที่นั่ง) ซึ่งในรุ่น 4 ที่นั่งที่วางขายในจีนนั้น บริเวณตำแหน่งกลางของเบาะนั่งด้านหลัง จะสามารถพับพนักพิงส่วนกลางลงมาเป็นที่เท้าแขนขนาดใหญ่ได้ มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่เก็บของซ่อนอยู่ที่เบาะรองนั่ง อีกทั้งยังมากับฟังก์ชั่นยกเบาะรองนั่งด้านหลังขึ้นเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับขนสัตว์เลี้ยงทั้งน้องหมา และน้องแมว
ในส่วนของแผงแดชบอร์ด จะมาพร้อมกับแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.6 นิ้ว ที่สามารถเลื่อนไปมาได้ระหว่างผู้โดยสารตอนรหน้า และตรงกลาง ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 พร้อมรองรับคำสั่งงานด้วยเสียงหรือการกวาดมือ พร้อมด้วยหน้าจอ AR-HUD ขนาด 24.3 นิ้ว ที่แสดงผลได้หลากหลาย โดยเฉพาะระบบนำทาง
คอนโซลกลางจะออกแบบให้มีเพียงแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย และเมื่อเปิดที่เท้าแขนบริเวณคอนโซลกลางขึ้นก็จะเป็นช่องแช่เย็นขนาด 5.7 ลิตร ที่สามารถบรรจุขวดน้ำได้ถึง 4 ขวด
นอกจากนี้ยังมากับไฟส่องสว่างโดยรอบ Ice Block ใหม่ ที่ประกอบด้วย LED 66 ยูนิต ปิดท้ายด้วยหลังคากระจกแบบพาโนรามาขนาด 1.21 ตารางเมตร
Zeekr X ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐาน SEA Modular Platform ที่เป็นแพลทฟอร์มเดียวกันกับตัว Volvo EX30 ที่เปิดตัววางขายในบ้านเราเมื่อ ก.ย. ที่ผ่านมา
ในด้านขุมพลังมาพร้อมทางเลือก 2 แบบ ได้แก่ มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง และมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยในรุ่นเริ่มต้นจะมีพละกำลัง 272 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 5.8 วินาที
ส่วนในรุ่นตัวแรงขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมากัยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ให้กำลัง 428 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 543 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาที
ด้านชุดแบตเตอรี่จะมีขนาด 66 kWh โดยในรู่นมเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวจะวิ่งได้ระยะทาง 560 กม .ส่วนในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่จะวิ่งได้ไกลสุดราว ๆ 512 กม. (CLTC)
มาพร้อมสถาปัตกรรมแรงดันไฟฟ้า 400V รองรับการชาร์จทั้งแบบกระแสสลับ AC และ DC โดยเมื่อชาร์จไฟ แบบ DC ขนาด 134 kW จะให้กระแสไฟจาก 10 – 80% ภายในเวลา 26.5 นาที พร้อมรองรับหัวชาร์จทั้งแบบ Type 2 / CCS Combo
สำหรับราคาจำหน่ายของ Zeek X ในประเทศจีนจะมีราคาอยู่ที่ระหว่าง 200,000 – 220,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยจะตกอยู่ที่ราว ๆ 1.03 – 1.14 ล้านบาท
ส่วนสเปกเมืองไทยที่จะเริ่มส่งมอบในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 นี้ จะมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่นั้นต้องมารอลุ้นกัน อีกไม่านานเกินรอ
