ทางค่าย เอ็มจี ในไทย โหมบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงต้นปี 2568 ในตลาดรถยนต์เมืองไทย โดยเตรียมเปิดตัวบานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่พร้อม ๆ กันถึง 2 รุ่น โดยจะเริ่มจาก NEW MG IM6 เอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าใหม่ ที่ประกาศเปิดตัวในไทยวันที่ 18 มี.ค. นี้ และหลังจากนั้นจ่อเตรียมส่งเอสยูวีไฟฟ้าตามออกมาสมทบอีกหนึ่งรุ่นนั้นก็คือ MG S5 EV ที่พร้อมเปิดตัวในวันที่ 25 มี.ค. โดยจะเผยโฉมพร้อมประกาศราคาจำหน่ายที่ในงาน Motor Show 2024

สำหรับ MG S5 EV หรืออีกชื่อในตลาดเมืองจีนจะใช้ว่า MG ES5 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาในรูปแบบตัวถังเอสยูวีครอสโอเวอร์ โดยคาดว่าจะเข้ามาแทนที่ MG ZS EV 
โดย S5 EV เวอร์ชันที่จะเปิดตัวในไทยครั้งนี้จะมากับพวงมาลัยขวาซึ่งถือว่าเป็นที่แรกในโลก มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่คู่ล้อหลัง โดยตัวรถจะถูกประกอบขึ้นที่โรงงานในประเทศไทย 

ในด้านงานออกแบบดีไซน์นั้นคงยกรายละเอียดจากเวอร์ชันที่วางขายในจีนมาทั้งชุด โดจตัวรถจะมากับภาพลักษณ์ใหม่ ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว ด้านหน้าจะมาในแบบปิดทึบตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน 2 ชั้น ด้านบนจะเป็นไฟ DRL LED ที่เป็นกรอบทรงเรียวยาว โดยมีชุดไฟ LED วางเรียวต่อกัน 3 ดวง

ขณะที่ไฟส่องสว่างจะอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมคางหมูล่างถัดลงมา โดยจะมีช่องดักอากาศ ต่อเชื่อมอยู่ด้านล่าง นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับช่องดักอากาศคู่ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง เติมความสปอร์ต และดุดันด้วยชุดพาร์ทแต่งสีดำรอบตัวรถที่ชายด้านล่าง

เส้นสายด้านข้างตัวถังจะมีเส้นนำสายตาที่ลากยาวตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า ลากยาวไปจนถึงชุดไฟท้าย พร้อมตกแต่งชายประตูข้างด้สนแถบสีโครเมียม ขณะที่มือเปิดประตูมาในรูปแบบปกติที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ ตัดกับฝาครอบกระจกมองข้างที่เป็นสีดำมาพร้อมชุดไฟเลี้ยวในตัว

เพิ่มความหรูหราที่ขอบหน้าต่างบานข้างด้วยคิ้วโครเมียมที่ลากยาวตั้งแต่เสา A เลาะขึ้นไปตามขอบหน้าต่างไปจนถึงเสา C ด้านท้าย มาพร้อมล้ออัลลอยที่มีขนาดล้อให้เลือกตั้งแต่ 17 นิ้วและ 18 นิ้ว (สเปคในจีน)

ขณะที่ด้านบนหลังคายังคงมาพร้อมกับแล็คหลังคาที่เป็นสีโครเมียมเพื่อเสริมลุคให้เป็นรถสไตล์ครอสโอเวอร์ พร้อมกับรองรับใช้งานที่หลากหลาย

ด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้ายทรงตัว Y ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ด้านหลัง โดยมีตราโลโก้ MG คั้นไว้ตรงกลาง


สำหรับขนาดมิติตัวรถจะมีความยาว 4,476 มม. กว้าง 1,849 มม. สูง 1,621 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,730 มม. อีกทั้งยังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเป็นพิเศษเพียง’ 530 มม. ช่วยทำให้ควบคุมรถได้ดีขึ้น และยังมีการกระจายน้ำหนักที่เพลา 50-50

ภายในห้องโดยสารจะมาพร้อมงานออกแบบในสไตล์มินิมอลที่เน้นความเรียบหรู โดยสเปคที่เปิดตัวในจีนนั้นจะมีให้เลือกทั้งสีเบจ และโทนสีดำ มาพร้อมกับออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวาง โดยทางเอ็มจี เผยว่าจะมีพื้นที่ใช้งานที่มากถึง 4.24 ตารางเมตร

แผงแดชบอร์ดจะมากับหน้าจอแสดงข้อมูลแบบดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว ที่ถูกฝังไว้บนคอนโซลหน้า โดยมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape วางอยู่ด้านหน้า โดยมีชุดปรับเปลี่ยนเกียร์ติดตั้งอยู่ด้านหลังพวงมาลัย มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ที่มาในแบบลอยตัว มาพร้อมระบบอัจฉริยะ Zebra และระบบควบคุมรถยนต์ด้วยแอพระยะไกล
ขณะที่คอนโซลกลางออกแบบให้มีลักษณะที่ยาว เชื่อมต่อติดกับคอนโซลหน้า มาพร้อมแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายมาให้ถึง 2 ตำแหน่ง มาพร้อมที่วางแก้ว 2 ช่อง


ด้านเบาะที่นั่งจะรองรับได้ 5 ที่นั่งเบาะนั่งฝั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง

ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 4 – 6 ตัว (ขึ้่นอยู่แต่ละรุ่นย่อย) ระบบทำความร้อนที่กระจกหลัง, อุปกรณ์ติดตั้งเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX, หลังคาซันรูฟ แบบ 2 ชั้น ที่กว้างเกือบเต็มพื้นที่ของหลังคา และประตูท้ายไฟฟ้า เป็นต้น

MG S5 EV จะถูกสร้างขึ้นแพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะที่มีชื่อว่า Modular Scalable Platform (MSP) เช่นเดียวกับรุ่น MG4

ในด้านพละกำลังก็คาดว่าจะเป็นแบบเดียวกันกับเอ็มจี4 โดยจะมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร พร้อมให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 8.0 วินาที ส่วนชุดแบตเตอรี่นั้นคาดว่าจะมามีให้เลือก 2 ขนาด 49 kWh และ 64 kWh ชาร์จไฟเต็มจะให้ระบะทางวิ่ง 410 กม. และ 520 กม.

พร้อมรองรับการชาร์จไฟทั้งแบบ AC และ DC มาพร้อมระบบกำลังจ่ายไฟภายนอกสูงสุดของ V2L มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ และมีโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ Eco, Normal และ Sport

ในด้านราคาเวอร์ชันที่เเปิดขายในจีนจะมีราคาอยู่ระหว่าง 116,900 – 146,900 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 5.47 – 6.87 แสนบาท ส่วนราคาจำหน่ายในไทยนั้นคาดว่าจะอยู่ที่ราว ๆ 7-8 แสนบาท





ทั้งนี้รายละเอียดทั้งหมดคงต้องรอในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยจะมีขึ้นในวันที่ 25 มี.ค. นี้ ที่ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมออกมาอย่างไร ทีมงาน Autostation.com จะรีบนำรายงานให้เพื่อน ๆ ได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
